21 มี.ค.2565 - นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการกองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะยอมปล่อยให้สินค้าด้านพลังงานปรับขึ้นราคาทุกชนิด โดยเฉพาะแก๊สหุงต้มและค่าไฟฟ้าซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เข้าใจภาพรวมของปัญหาเศรษฐกิจ จึงคิดแบบแยกส่วน เช่นพอน้ำมันแพงก็ไปลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลงหน่อยหนึ่ง แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มลดลงแต่อย่างใด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้เบนซินก็ยังเติมน้ำมันแพงมหาโหดอยู่ดี
หากเทียบกับผู้นำหลายประเทศจะเห็นว่าพวกเขาใช้วิธีการลดภาษีด้านพลังงานซึ่งเป็นการลดที่ต้นทางของโครงสร้างราคา โดยรัฐจะยอมสูญเสียรายได้ลงช่วงหนึ่งก่อน เพื่อให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้ในช่วงวิกฤติ แม้ว่ารัฐจะจัดเก็บรายได้ลดลง แต่เมื่อประชาชนยังสามารถทำมาหากินได้ตามปกติ ก็จะสามารถจ่ายภาษีเข้ารัฐได้ในรูปแบบอื่น แต่เนื่องด้วยพลเอกประยุทธ์ไม่เคยบริหารธุรกิจมาก่อนจึงมองแต่ด้านที่รัฐจะเสียรายได้ ไม่ได้มองถึงโอกาสของประชาชน ประกอบกับตัวเองก็ไม่มีความสามารถในการหารายได้เข้าประเทศอยู่แล้ว จึงเลือกใช้วิธีให้ระบบราชการนำหน้ามากกว่าการคิดค้นนโยบายหรือมาตรการที่ถูกต้องเพราะจะทำให้ตัวเองปลอดภัยไว้ก่อน
มาตรการกู้เพื่ออุ้มราคาน้ำมันของรัฐนั้น ไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาน้ำมันแพงได้ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้เคยเสนอทางออกไว้แล้วกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา ว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันได้ทันทีกว่า 6 บาท/ลิตร หากรัฐยอมลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันทุกชนิด ซึ่งถือเป็นภาษีต้นทาง นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ยังปล่อยให้มีการขึ้นค่าไฟและปรับราคาแก๊สหุงต้ม ทั้งๆที่รู้ว่าวันนี้ประชาชนไม่พอจะกินแล้ว โดยการปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของประชาชนทั้งผู้ขาย และ ผู้ซื้อ ทำให้ต้นทุนราคาอาหารต้องปรับขึ้น และท้ายที่สุด ประชาชนก็จะไม่สามารถรับได้ เพราะติดกับดักรายได้คงที่
พรรคไทยสร้างไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการงดการเก็บภาษีต้นทางชั่วคราว เพื่อลดต้นทุนและต่อลมหายใจประชาชน เมื่อยืนได้แล้ว รัฐค่อยเก็บภาษีปลายทางในภายหลัง มิเช่นนั้น ประเทศไทยจะต้องเจอกับสภาวะข้าวของแพงแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีทางที่จะกลับไปแก้ปัญหาที่ต้นทางได้ จึงอยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ฟังเสียงสะท้อนของชาวบ้านดูบ้าง โดยเฉพาะผลโพลล่าสุดที่ประชาชนมองว่า ดินเนอร์ พรรครัฐบาลไม่เหมาะสมเพราะมัวแต่ต่อรองผลประโยชน์กันเอง ไม่สนใจแก้ปัญหาประชาชนที่กำลังอยู่ในช่วงยากลำบากสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476