'กูรูสมชัย' ซัดตีปี๊บยุบสภาหลังเอเปกแค่เทคนิคย้ายพรรคเท่านั้น!

'สมชัย' ชี้พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ จับตาอำนาจต่อรองศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบุยุบสภาหลังประชุมเอเปกไร้ความหมาย เป็นแค่เทคนิคการเมืองเรื่องย้ายพรรค 

16 มี.ค.2565 - นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุกับแกนนำพรรคเล็กว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภาช่วงหลังการประชุมเอเปกปลายปี 2565 ว่า การยุบสภาเป็นอำนาจตัดสินใจของตัวนายกฯ และเป็นเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ว่าไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินภายใต้สภาชุดนี้ได้ หมายถึงการไม่สามารถควบคุมเสียง ส.ส.ในสภาได้อีกต่อไป ขณะนี้เข้าใจว่ารัฐบาลอยู่ในขั้นพยายามประสานฝ่ายต่างๆ เพื่อให้คะแนนเสียงในฝั่งของรัฐบาลมีความมั่นคง เรื่องการนัดรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลางหรือพรรคเล็ก ก็เป็นความพยายามรักษาคะแนนในฝั่งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ

“ตัวแปรที่สำคัญอยู่ที่พรรคเล็ก เนื่องจากพรรคเล็กมีคะแนนเสียงรวมประมาณ 10-20 เสียง เป็นคะแนนที่พร้อมเปลี่ยนไปอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ และหากเปลี่ยนไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั่นก็หมายถึงชัยชนะและความพ่ายแพ้ของอีกฝั่งหนึ่ง อีกทั้งจังหวะเวลาที่พรรคเล็กมีอำนาจต่อรองสูงสุด เป็นเวลาเปิดประชุมสภาสมัยหน้าที่มีการเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจ เข้าใจว่าการเจรจาต่อรองจะเกิดขึ้น และอาจจะมีการเสนอให้ทางฝ่ายรัฐบาลให้ประโยชน์อะไรต่างๆ เพื่อเป็นการตอบแทนการลงคะแนน ดังนั้นเมื่อถึงจุดนั้นหากเป็นเรื่องที่เจรจาสำเร็จสามารถประสานผลประโยชน์กันได้ การยุบสภาก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะว่ารัฐบาลมีเสียงสนับสนุนในสภาเพียงพอ และถ้าข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่ใหญ่มากและไม่อาจรับได้ก็คงเป็นจังหวะเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ต้องตัดสินใจว่าถ้าบริหารราชการแผ่นดินต่อไปไม่ได้ จะเลือกลาออกหรือยุบสภา ซึ่งการยุบสภาน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสม”

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ประเด็นที่บอกว่าจะรอหลังการประชุมเอเปก คิดว่าถ้าเอาจังหวะเวลาดังกล่าวมาพิจารณานั้นไม่มีความหมายเลย เพราะเดือน พ.ย.จะเกือบครบวาระ 4 ปีในเดือน มี.ค.ปี 2566 ดังนั้นเหลือเพียงแค่ 4 เดือนไม่ได้มีความหมายอะไร ซึ่งการรอให้ครบวาระกลายเป็นข้อจำกัดทางการเมืองมากกว่า เพราะเมื่อครบวาระแล้ว ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองอย่างน้อย 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง ทำให้การขยับตัวทางการเมืองของส.ส.เป็นไปด้วยความยากลำบาก

“การตัดสินใจยุบสภาก่อนครบวาระนั้น ทำให้การนับความเป็นสมาชิกภาพของ ส.ส.ที่ต้องสังกัดพรรคการเมืองนับเพียงแค่ 30 วันก่อนการเลือกตั้ง ผมคิดว่านี่เป็นเทคนิคทางการเมืองที่ฝ่ายรัฐบาลต้องตัดสินใจยุบสภาก่อนครบวาระ เพื่อทำให้เขาเองมีโอกาสทางการเมือง พรรคการเมืองที่เป็นพรรคใหม่ต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมามีโอกาสรองรับสมาชิกพรรคเดิมที่รู้สึกว่าไม่สามารถใช้เป็นหนทางที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง การบอกว่ายุบสภาเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนนั้นผมว่าไร้สาระ เพราะไม่ได้เป็นของขวัญ แต่เป็นเทคนิคทางการเมืองเท่านั้น เพื่อให้สามารถย้ายพรรคการเมืองได้ 90 วัน ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่หรือน่าสนใจอะไร”นายสมชัยกล่าว

เมื่อถามว่า นัยยะการออกมาพูดของ พล.อ.ประวิตรครั้งนี้ เป็นการหยั่งกระแสฝ่ายการเมืองว่ายังมีเวลายืดอายุรัฐบาลไปถึงปลายปีหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า รัฐบาลทุกชุดปรารถนาอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด และให้ความหวังคนที่ยังอยู่ร่วมกันว่าเรายังอยู่อีกนาน มันก็เป็นเรื่องการทำให้เกิดความรู้สึกว่ายังทำงานรวมกันได้ คิดว่าในขณะนี้ทุกฝ่ายได้เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งอยู่แล้ว พรรคการเมืองทุกพรรคไม่กลัวการยุบสภา มีการไปสรรหาตัวผู้สมัคร และการเตรียมตัวโครงสร้างของพรรคในระดับพื้นที่เพื่อพร้อมในการเลือกตั้ง หากสถานการณ์จำเป็นต้องยุบสภา และมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นทุกพรรคก็พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง

ถามว่าตอนนี้ฝ่ายค้านจับตาวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ มองว่าหากยุบสภาหลังการประชุมเอเปกจะเป็นการดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี นายสมชัย กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องคุยกัน และกลายเป็นประเด็นที่อาจบานปลายประเด็นหนึ่งที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือน ส.ค. แต่ทั้งนี้มองว่าการยุบสภาจะไม่เกี่ยวกับเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องที่นายกฯ ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ภายใต้จำนวน ส.ส.ที่มีในสภามากกว่า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วัน' ซบพลังประชารัฐ ซูฮก 'บิ๊กป้อม' ใจถึงพึ่งได้

นายวัน อยู่บำรุง อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในสัปดาห์หน้าว่า เป็นตามกระแสข่าวที่ออกไป โดยตนจะเดินทางไปสมัครในวัน

'เหลิม' ดอดพบ 'ป้อม' สัปดาห์หน้า 'วัน' สมัครสมาชิกพรรคใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้เข้าพบหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชา

'บิ๊กป้อม' ประกาศจุดยืน พปชร. สั่ง สส. คว่ำร่างนิรโทษคดี 112 ทุกฉบับ

'บิ๊กป้อม' ส่ง 'ไพบูลย์' ย้ำจุดยืน 'พปชร.' ค้านรวมคดี ม.112 ทุกรูปแบบ ใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เหตุฝ่าฝืนคำวินิฉัยศาลรธน. ขืนดึงดันโหวตคว่ำตั้งแต่วาระแรก