ฝ่ายค้านรวมพลังจัดเวทีถล่ม 'ประยุทธ์' ลั่น ส.ค.นี้ต้องออกไป

กลุ่มผู้นำฝ่ายค้านสภาฯ จัดเสวนา เปิดช่อง ฝ่ายค้าน ถล่มประยุทธ์ ซัดหมดเวลานายกฯ เพื่อไทย สับ สร้างความทุกข์ยากทุกมิติ บี้ลาออกก่อนสิงหาคม ไม่ต้องรอยื่น ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก้าวไกล โวยตู่ ยัดข้อหา 112 เยาวชน จับตาคำวินิจฉัยศาลรธน. จุดชนวนระเบิดเวลา ประชาชาติจวก รธน.60 สภาฯปลา2น้ำ ปล่อยให้พวกแต่งตั้ง กำหนดอนาคตประเทศ

13 มีนาคม 2565 – เวลา9.30น. ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ประตูน้ำ กลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ2565 ภายใต้ชื่อ ฝ่ายค้านรับฟังปัญหาทั่วไทย เพื่อประชาชน โดยมีหัวหน้าพรรค แกนนำ รวมถึงส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า เราจะให้พี่น้องประชาชนทวงคืนอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะครบวาระ 8ปี วันที่23ส.ค.2565 นายกฯจะอยู่เกิน 8ปีไม่ได้ หมดเวลานายกฯ ก่อนประเทศจะหมดเวลา คำพูดนี้จะไม่ศักดิ์สิทธิ์หากรัฐบาลชุดนี้ ดูแลประเทศอย่างดียิ่ง ถ้าทุกคนมีความสุข เราต้องสนับสนุนให้เขาอยู่ครบวาระ แต่สิ่งที่เราประสบคือ ความทุกข์ยากทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตโรคระบาดโควิด เศรษฐกิจ หนี้สาธารณะ หนึ้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลก่อขึ้น
หลายคนบอกพรรคฝ่ายค้าน ทำไมเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่อง ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดี ประชาธิปไตยเกิดจากความเห็นต่าง หากพูดความเห็นต่างและมีข้อสรุปได้ แสดงว่ากลไกลประชาธิปไตยเริ่มขึ้นแล้ว เรามีเอกภาพ เป้าหมายร่วมกัน ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง คือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โค่นล้มผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมรับเผด็จการ แม้เพื่อไทยไปซ้ายบ้าง ก้าวไกลไปขวา ประชาชาติไปตรงกลาง แต่หลายเรื่องก็กำหนดทิศทางเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่แตกแยก ความเห็นต่างมีเยอะ ถือเป็นสีสัน ฝ่ายค้านเป็นอิสระ อยากให้ทุกพรรคทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน เราให้เกียรติทุกพรรค

จากนั้นมีการเสวนาในหัวข้อ “หมดเวลานายกฯ ก่อนประเทศหมดเวลา” โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เราบอกว่านายกฯหมดเวลาแล้ว แต่นายกฯบอกว่ายังมีเวลาถึงปี2566 ความเห็นส่วนตัว ไม่ควรให้เวลานายกฯคนนี้ตั้งแต่แรก เพราะได้ทำรัฐประหาร สมคบคิดกับพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ยึดอำนาจเอารัฐบาลประชาธิปไตยออกไป เป็นรัฐบาล3ป. พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาโดยรัฐประหาร ความถูกต้องชอบธรรมไม่มี เป็นรัฐบาลทำลายระบอบประชาธิปไตย แม้จะอ้างว่า อยู่ไม่นาน แต่ความเป็นนายกฯอำนาจมันหอมหวาน เลยคิดจะอยู่ยาว สืบทอดอำนาจต่อไป โดยการจะสืบทอดอำนาจต่อไป

หากใช้ระบบเผด็จการ โลกทั้งหลายไม่ยอมรับ เลยไปสร้างกลไกลตามรัฐธรรมนูญที่ให้ดูเหมือนเป็นประชาธิปไตย แต่แท้จริงคือการสืบทอดอำนาจ ไม่ได้ใช้ระบบประชาธิปไตยที่ทำกัน โดยสร้างรัฐธรรมนูญ2560 ขึ้นมา ให้อำนาจ250สว.เลือกนายกฯ และอยู่มาถึง7ปี กำลังจะครบ8ปีในเดือนสิงหาคมนี้ ขอถามประชาชน มีความสุขดีหรือในรัฐบาลนี้ คนมีความสุขมีเพียงนายทุนขนาดใหญ่ ที่รวยเอาๆ ช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ห่างขึ้นทุกที การปฏิรูปการเมือง เป็นการปฏิรูปแบบแกะกล้วย ใครจะอยู่จะไป ต้องมีกล้วยแจก เป็นรัฐบาลไม่มีการปฏิรูปการเมืองเลย ที่แตกแยกไปเพราะเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น ไม่มีการปรองดอง พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง เราบอกนายกฯหมดเวลา เขาบอกไม่หมดเวลา ก็เป็นหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน ที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังเปิดประชุมสภาสมัยหน้า โดยครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย และพรรคใดที่สนับสนุนนายกฯคนนี้ อาจจะสูญพันธ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากตนเป็นศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสินพล.อ.ประยุทธ์หมดเวลาแล้ว ไปได้แล้ว แต่ถ้าเพื่อความสง่างาม ก่อนถึงเดือนสิงหาคม ควรลาออกก่อนดีกว่า

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างมากีดกันพรรคเพื่อไทย ไม่ให้มีพรรคใดครองเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จ ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว มีสูตรคำนวนพลิกผัน มีการแจกกล้วย ร่างขึ้นมาเพื่อให้ประยุทธ์สืบทอดอำนาจ ให้สว.เลือกนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ เอาแค่รักษาองค์ประชุมในสภาฯ ยังรักษาไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ รู้อยู่แก่ใจ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ไม่ให้อยู่ในตำแหน่งเกิน8ปี ต้องมีสำนึก แต่ก็ไม่รู้ว่า จะหาสำนึกจากนายกฯคนนี้ได้หรือไม่

หากผู้นำอยู่ในอำนาจนานเกินไป มีแนวโน้มที่จะไร้ธรรมาภิบาล แทรกซึมอำนาจไปในหน่วยราชการ องค์กรอิสระต่างๆ ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกก่อนสิงหาคม ก่อนที่จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ประเทศบอบช้ำมากพอแล้ว เราต้องการผู้นำนำพาเราในศตวรรษ21 ผู้นำที่เข้าใจประชาชน ทันยุค ทันสมัย พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำที่ดี หากเป็นปลายยุคอยุธยา เหมาะเป็นสมุหกลาโหม แต่ไม่เหมาะในยุคนี้ ตลอดเวลาของพล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหาหลายอย่าง ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน คุกคามนักการเมือง นักเคลื่อนไหวที่เห็นต่าง มีเยาวชนถูกยัดเยียดข้อหามาตรา112 ถึง 190คน ดัชนีทุจริตคอรัปชั่นในปี2564 หล่นไปอยู่ที่110 ด้านเศรษฐกิจบริหารผิดพลาด ล้มเหลว เรื่องโควิด เอื้อกลุ่มทุนใหญ่ โครงการรถไฟฟ้าก็เอื้อให้เอกชนรายใหญ่

“รัฐธรรมนูญปี2560 มีปัญหา เห็นได้จากการเลือกตั้งปี2562 เมื่อเราไปนับเสียงคนที่เอาเสียงพล.อ.ประยุทธ์ มันน้อยอยู่แล้ว แต่ที่เข้าสู่อำนาจได้เพราะมาตรา272 นี่คือระเบิดเวลาของสังคม เป็นระเบิดเวลาที่มีชนวนมากมายที่คอยจุดระเบิดนี้ หนึ่งในนั้นคือ วาระการดำรงตำแหน่ง8ปี หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ถึงปี 2570 ท่านกำลังจุดชนวนระเบิดเวลา ขอฝากให้ประชาชนออกมาแสดงพลัให้เห็นว่าถึงเวลาแล้ว หมดเวลาแล้วของพล.อ.ประยุทธ์”นายพิจารณ์กล่าว

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า นายกฯจะหมดเวลา25ส.ค.2565 ท่านอาจจะฝืน อาจมีการตีความให้อยู่ได้ประเทศเราหมดอนาคตตั้งแต่รัฐธรรมนูญ2560 ถูกเขียนขึ้น คนที่เขียนรัฐธรรมนูญ มาจากคนที่เคยฉีกรัฐธรรมนูญมาก่อน โดยในรัฐธรรมนูญเขียนให้มีการสืบทอดอำนาจ ขยายอำนาจหน่วยราชการ เป็นรัฐซ้อนรัฐ แม้รัฐราชการเดิมก็ไม่ไว้วางใจแต่ให้มาขึ้นตรงกับนายกฯ เขียนให้รัฐประหารเงียบ ให้สว.กำหนดชะตากรรมประเทศ ปฏิรูปประเทศ เลยไม่มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ เยาวชนอยู่เลย สภานี้เป็นเป็นสภาปลา2น้ำ คือทั้ง เลือกตั้งและแต่งตั้ง โดยเฉพาะในส่วนการแต่งตั้ง กลับกำหนดอนาคตประเทศ ไม่ให้คนรุ่นใหม่มากำหนดอนาคตประเทศเลย นอกจากนี้รัฐบาลบริหาร ทำให้ประเทศเกิดความเหลื่อมล้ำ