'ศาลฎีกา' เลื่อนยาวคดี 3 ส.ส.ภูมิใจไทยเสียบบัตรแทนกัน

'ศาลฎีกา' เลื่อนพิจารณาคดี​ 3 ส.ส.ภูมิใจไทยเสียบบัตรแทนกัน​ไปยาว 21 ธ.ค. หลังผู้ถูกร้องขอให้รอคดีอาญาที่ศาลนักการเมืองจะพิจารณาคดีครั้งแรก 19 พ.ค.ในทำนองเดียวกัน

10 มี.ค.2565 - ศาลฎีกานัดตรวจหลักฐานในคดีหมายเลขดำ คมจ.3/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ (ป.ป.ช.)​ ร้อง 3 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง, นายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พัทลุง และนางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ผู้คัดค้านที่ 1-3 ในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีเสียบบัตรแทนกันในการโหวตลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563

โดยนายฉลอง นายภูมิศิษฏ์ และนางนาที เดินทางมาศาล ซึ่งวันนี้เป็นการนัดตรวจพยานหลักฐาน หลังศาลให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นบัญชีพยานไม่น้อยกว่า 14 วัน พร้อมทั้งยื่นคำแถลงแนวทางการไต่สวนและคำโต้แย้งไม่น้อย 7 วัน​ จากการพิจารณานัดที่แล้ว 12 พ.ย. 2564​ โดยการตรวจหลักฐานมอบให้เลขานุการองค์คณะ​และเลขาธิการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง ดำเนินการแทนร่วมกับคู่ความ และรายงานให้องค์คณะทราบ

ทั้งนี้ ทนายได้ยื่นคำร้องขอให้งดการพิจารณาคดีนี้ไปก่อน​ เพื่อรอฟังผลคดีอาญา​ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องทั้ง 3 คน ฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตาม พระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ศาลเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ และคดีอาญาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงเดียวกันและพยานหลักฐานส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน ซึ่งอาจนำสืบถึงข้อเท็จจริงเดียวกัน เพื่อให้ความยุติธรรมดำเนินไปได้ด้วยดี จึงเห็นสมควรให้เลื่อนการนั่งพิจารณาคดีนี้ไป จนกว่าจะได้มีการพิพากษาหรือชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีอาญาดังกล่าว และให้ถือเอาบันทึกถ้อยคำ สำนวนคำเบิกความ เอกสารที่เกี่ยวข้องในคดีอาญามาเป็นถ้อยคำพยานของผู้ร้อง ผู้คัดค้านทั้งสามเอกสารในคดีนี้หากคู่ความประสงค์จะไต่สวนพยานปากหรือเพิ่มเติมในข้อเท็จจริงที่ไม่ซ้ำกับคดีอาญาหรือพยานปากอื่นก็ให้นำพยานเข้าไต่สวนได้ ในชั้นนี้ยังไม่สมควรให้จำหน่ายคดีชั่วคราว โดยให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อฟังผลความคืบหน้าในคดีอาญาในวันที่ 21 ธ.ค.2565 เวลา 14.00 น. ตามที่มีวันว่างตรงกัน

ทั้งนี้คดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่อัยการสูงสุด​ ยื่นฟ้อง 3 ส.ส.นี้ ศาลฎีกานัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การวันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

ภายหลังจากใช้เวลาประมาณเกือบ​ 1 ชั่วโมง​ ทนาย​ความ ให้สัมภาษณ์ว่า​ ได้ยื่นคำร้องขอให้งดการพิจารณาคดีนี้ไปก่อน​ เพื่อรอฟังผลคดีอาญา​ เพราะหลังจากที่ ป.ป.ช.ยื่นร้องในคดีนี้เแล้ว อัยการก็ได้ยื่นร้องต่อศาลฎีกา​คดีนักการเมืองไว้ด้วย​ ซึ่งเป็นการกระทำและความผิดอย่างเดียวกัน​ และขอให้ลงโทษ​ ซึ่งผลจากคดีดังกล่าวจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ​มาตรา​ 215 จะต้องพ้นจากการปฏิบัติ​หน้าที่ และตัดสิทธิ​สมัครรับ​เลือกตั้ง​ ซึ่งผู้ถูกร้องก็ได้ยื่นคัดค้านต่อศาลเพื่อขอให้งดการพิจารณา​คดีนี้ไปก่อน​ ซึ่งศาลอนุญาต​ และได้นัดเพื่อรอฟังผลของคดีดังกล่าวใน​ 21 ธ.ค.​ 2565

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช.แจงปมอดีตเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เรียกรับเงิน

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งพนักงานไต่สวน ระดับสูง

'บิ๊กต่อ' รวย 209 ล้าน เลิกซุกบ้านอังกฤษ โชว์ 2 หลัง 103 ล. ไม่เจอเงินกู้

ป.ป.ช. เปิดเซฟ 'บิ๊กต่อ' พ้น ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้านบาท มีบ้านพร้อมที่ดินที่อังกฤษ 2 หลัง มูลค่า 103 ล้าน ไม่พบเงินกู้ยืม 20 ล.

“สิริพงศ์” รับเรื่องร้องเรียนจากศูนย์สิทธิผู้บริโภค โซนกรุงเทพฯ เหนือ ยัน 3 ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค - พ.ร.บ.อาหาร - พ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า รอฝ่าย กม.พรรค ภท.พิจารณา

ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับหนังสือร้องเรียนจากสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) นำโดยนางกนกวรรณ ด้วงเงิน ประธานโซนกรุงเทพฯ เหนือ พร้อมคณะศูนย์สิทธิผู้บริโภค จากเขตหลักสี่ จตุจักร ดอนเมือง สายไหม บางเขน และลาดพร้าว ได้ยื่นหนังสือ 3 ฉบับ อาทิ

'ทักษิณ' แจงไปตีกอล์ฟ ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ 'อนุทิน' เป็นเรื่องธรรมดาลิ้นกับฟัน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฎภาพตีกอล์ฟร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี

ไม่ใช่อีแอบแล้ว แนวทางชัดขนาดนี้! 'สุขุม' อ่านเกม 'ภูมิใจไทย' ปมโหวตประชามติแก้ รธน.

ต่อประเด็นเรื่องการโหวตประชามติแก้ไข รธน. ที่พรรคภูมิใจไทย โหวตต่างจากพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะที่พรรคร่วมบางพรรค ไม่ร่วมโหวต ซึ่งทาง สส.เพื่อไทย มองเป็นอีแอบ