ไบเดนประณาม‘ปูติน’เผด็จการ

ไฟลุกไหม้อาคารคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติคาร์คิฟ ภายหลังโดนรัสเซียระเบิดถล่ม เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2565 (Photo by Sergey BOBOK / AFP)

กองทัพรัสเซียยึดเมืองใหญ่ของยูเครนได้เมืองแรกเมื่อวันพุธ ส่วนคาร์คิฟและเคียฟยังโดนถล่มหนักพลเรือนสังเวยเพิ่มอีก "เซเลนสกี"  ซัดรัสเซียต้องการ "ลบ" ประเทศของเขา "ไบเดน" แถลงต่อคองเกรสเรียก "ปูติน" เป็นเผด็จการ สั่งปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินรัสเซีย ผู้นำรัฐบาลไต้หวันสละเงินเดือน 1 เดือนลงขันช่วยบรรเทาทุกข์ชาวยูเครน ขณะที่คนไทยจากยูเครนชุดแรกกลับถึงประเทศแล้ว 96 คน

รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศว่าสามารถยึดเมืองท่าเคอร์ซอนติดทะเลดำทางภาคใต้ของยูเครนได้แล้ว โดยทหารรัสเซียเข้าควบคุมเมืองที่มีประชากร 290,000 คนแห่งนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

เคอร์ซอนเป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่กองทัพรัสเซียยึดได้นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งการเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่าเพื่อปลดอาวุธยูเครนและกำจัดพวกนาซีใหม่ เมืองท่าแห่งนี้อยู่ตอนเหนือของคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียยึดครองจากยูเครนเมื่อปี 2557 และมีที่ตั้งในจุดยุทธศาสตร์ติดแม่น้ำนีเปอร์ วันก่อนหน้านี้ทหารรัสเซียที่รุกโจมตีทางใต้จากไครเมียยังเผยด้วยว่าพวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกได้แล้ว

มีรายงานว่า กองทัพรัสเซียยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องที่เมืองคอนสแตนตินอฟกาในภาคตะวันออก, เมืองบอร์โดเดียนกาใกล้กรุงเคียฟ และเมืองซีโตมีร์ในภาคกลาง ขณะที่กบฏแบ่งแยกดินแดนกล่าวว่า เมืองมาริอูโปลที่อยู่ติดทะเลอาซอฟก็ถูกพวกเขาโอบล้อมไว้ เมืองในภาคตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้โดนถล่มอย่างหนักมาตั้งแต่คืนวันอังคาร นายกเทศมนตรีของเมืองเผยว่ายังไม่สามารถอพยพคนเจ็บได้

ที่เมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดนถล่มหนักติดต่อกันหลายวันแล้ว วิดีโอทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นสภาพอาคารหลายหลังเสียหายรุนแรง และกองทัพยูเครนเผยว่า รัสเซียส่งพลร่มมาลงที่เมืองนี้ด้วย ทำให้เกิดการปะทะกันในเมือง

โอเล็ก ซีเนกูบอฟ ผู้ว่าการแคว้นนี้กล่าวเมื่อวันพุธว่า การระเบิดถล่มเมืองคาร์คิฟในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฆ่าคนอย่างน้อย 21 คน และทำให้บาดเจ็บ 112 คน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับรอยเตอร์และซีเอ็นเอ็นจากกรุงเคียฟเมื่อวันอังคาร เรียกร้องรัสเซียหยุดระเบิดถล่มพลเรือน และขอให้กลับมานั่งเจรจากันใหม่

คืนวันอังคาร รัสเซียยิงมิสไซล์ถล่มหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ของยูเครนซึ่งตั้งอยู่ที่บาบิยาร์ ที่เป็นอนุสรณ์เหตุการณ์นาซีเยอรมันสังหารหมู่ 33,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวยิว เซเลนสกีซึ่งมีเชื้อสายยิว กล่าวในวิดีโอเมื่อวันพุธว่า มีคนสังเวยชีวิตในการโจมตีครั้งนี้ 5 ราย พร้อมกับโจมตีรัสเซียว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองหลวงของยูเครน เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของยูเครน แต่กลับมีคำสั่งให้ลบประวัติศาสตร์ของเรา ลบประเทศของเรา และลบพวกเราทิ้งทั้งหมด เขาเรียกร้องชาวยิวทั่วโลกออกมาร่วมประณามด้วย

เซเลนสกีอ้างด้วยว่า ช่วง 6 วันแรกของการรุกราน มีทหารรัสเซียเสียชีวิตแล้วเกือบ 6,000 นาย และรัสเซียไม่มีทางยึดประเทศของเขาได้ด้วยการทิ้งระเบิดและโจมตีทางอากาศ

รัสเซียไม่เคยเปิดเผยยอดความสูญเสียของกำลังพล และคำกล่าวอ้างของยูเครนก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างอิสระ

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันพุธว่า ถึงขณะนี้มีผู้คนหนีภัยสู้รบออกจากยูเครนแล้ว 835,928 คน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 677,000 คนที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ประกาศเมื่อบ่ายวันอังคาร เกินครึ่งหนึ่งของผู้ลี้ภัยข้ามพรมแดนตะวันตกเข้าสู่โปแลนด์

เมื่อค่ำวันอังคารตามเวลาสหรัฐ  สมาชิกองค์การสหประชาชาติเกือบครึ่งหนึ่งของ 193 ประเทศ ลงนามสนับสนุนร่างข้อมติเพื่อส่งเข้าที่ประชุมสมัชชาใหญ่ที่นิวยอร์กในวันพุธ นักการทูตกล่าวกันว่า ร่างนี้จะ "ตำหนิ" การรุกรานของรัสเซีย และเรียกร้องให้ยุติการสู้รบและถอนทหาร

ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาสหรัฐ โดยเขากล่าวยกย่อง "กำแพงแห่งความแข็งแกร่ง" ของยูเครนที่สามารถยืนหยัดต้านรัสเซียผู้รุกราน แต่เขาประกาศชัดเจนว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครน เพื่อสู้รบกับทหารรัสเซียที่นั่น

ไบเดนยังเรียกประธานาธิบดีปูตินว่าเป็น "เผด็จการรัสเซีย" ที่บุกรุกประเทศอื่น และปูตินยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรตามมา เขายังให้คำมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐจะช่วยเหลือทหารยูเครน สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นการสู้รบระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ตอนนี้ระบอบประชาธิปไตยกำลังรุดหน้า และโลกได้เลือกอยู่ข้างสันติภาพและความมั่นคงอย่างชัดเจน

ผู้นำสหรัฐวัย 79 ปี ยังประกาศเพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยห้ามอากาศยานของรัสเซียทุกชนิดเข้าน่านฟ้าของสหรัฐ ในแบบเดียวกับที่สหภาพยุโรป, อังกฤษ และแคนาดาประกาศปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินรัสเซียด้วยก่อนหน้านี้ นอกจากนั้น ไบเดนบอกว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะยึดเรือยอชต์, เครื่องบินส่วนตัว และอพาร์ตเมนต์หรูหรา ของคนเหล่านี้ที่ได้มาโดยมิชอบ

ยูเครนพยายามเรียกร้องให้นาโต ซึ่งยังไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก บังคับใช้เขตห้ามบินเหนือยูเครน แต่สหรัฐปฏิเสธคำขอนี้ ด้วยความหวั่นเกรงว่าจะก่อความขัดแย้งโดยตรงระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย สองมหาอำนาจที่มีอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมากที่สุดในโลก ถึงขณะนี้สหรัฐและพันธมิตรยังคงเลือกที่จะสนับสนุนอาวุธแก่ยูเครนแทน

โอเล็กซี เรสนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน กล่าวเมื่อวันพุธว่า ยูเครนกำลังจะได้รับการสนับสนุนมิสไซล์สติงเกอร์และเจฟลินจากพันธมิตร รวมถึงโดรนอีกหลายลำจากตุรกี

รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน แจ้งต่อที่ประชุมพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคแกนนำรัฐบาลของเธอในวันพุธว่า ตัวเธอ, รองประธานาธิบดีวิลเลียม ไหล และนายกรัฐมนตรีซู เจิง-ชาง จะบริจาคเงินเดือน 1 เดือน เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครนเพิ่มเติมจากที่ได้ส่งเวชภัณฑ์ 27 ตันไปให้ยูเครนในสัปดาห์นี้ โดยสมาคมบรรเทาภัยพิบัติเพื่อยูเครนของไต้หวันจะเปิดบัญชีระดมทุน ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ประธานาธิบดีไต้หวันได้รับเงินค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 400,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 466,000 บาท

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในยูเครนจากสถานการณ์ความตึงเครียดอย่างใกล้ชิด ทั้งยังแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยในยูเครน และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ที่ยังติดค้าง พร้อมกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการส่งชาวไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด

โดยกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าแผนการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งได้ช่วยเหลือให้คนไทยที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครนอีก 43 คน อพยพออกจากยูเครนเข้ามายังประเทศโปแลนด์และกำลังเดินทางโดยเครื่องบินกลับมายังประเทศไทย ซึ่งจนถึงตอนนี้ มีการอพยพคนไทยออกนอกยูเครนแล้วทั้งสิ้น 142 คน โดยกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 2 มี.ค. แบ่งคณะคนไทยออกเป็น 2 ชุด ได้แก่ คณะคนไทยชุดที่ 1 จำนวน 38 คน เดินทางโดยเครื่องบินออกจากกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ในวันที่ 1 มี.ค. และถึงประเทศไทย วันที่ 2 มี.ค. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG923 เวลา 06.25 น. และคณะคนไทยชุดที่ 2 จำนวน 58 คน เดินทางโดยเครื่องบินออกจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ 1 มี.ค. ถึงประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK384 เวลา 12.05 น.

ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มอบหมายให้นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ ผู้ตรวจราชการ พม. พร้อมด้วยนายอุเทน ชนะกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ บูรณาการความร่วมมือช่วยเหลือคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศยูเครน จำนวน 256 คน ที่แสดงความจำนงเดินทางกลับประเทศไทย โดยกลุ่มแรกได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว 96 คน เป็นหญิง 94 คน ชาย 1 คน และเด็ก 1 คน  ซึ่ง พม.ส่งเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ให้คำปรึกษาแนะนำ พร้อมสนับสนุนเงินช่วยเหลือให้กลับภูมิลำเนาเดิม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง