‘ปู’ไลฟ์สดอ้อนยังห่วงใยปชช. ถาม‘บิ๊กตู่’ถ้าเจอกล้าคุยไหม

“ยิ่งลักษณ์” โผล่ไลฟ์สดเฟซบุ๊กครั้งแรก อ้อนสาวกบอกมาอยู่ยูเออี 4 ปีแต่ยังห่วงพี่น้องประชาชน ถาม  “ประยุทธ์” ถ้าเจอหน้ายังกล้าคุยกันไหม พร้อมอบรมเป็นนายกฯ ต้องใจเย็น เปิดช่องให้คนรุ่นใหม่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน รับสุดท้าทายนั่ง รมว.กลาโหม เพราะไปสั่งตรงๆ  ไม่ได้

เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่ได้พิพากษาจำคุก 5 ปี ไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแลกเปลี่ยนความเห็น และตอบทุกคำถามคาใจแฟนเพจเป็นครั้งแรกว่า ได้ติดตามมาโดยตลอด แม้มาอยู่นี่เกือบ 4 ปี แต่ใจยังห่วงพี่น้องประชาชน  ยังคงอ่านข่าวสารอยู่ตลอด ไม่ว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ราคาข้าวของสินค้าที่แพงขึ้น แต่เงินในกระเป๋าหรือรายได้ประชาชนไม่ขึ้น และช่วงลำบากยังเจอโรคระบาดโควิด-19 ซ้ำเติม รู้ว่าประชาชนไม่มีทางออก ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะอยู่ไกลและไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว จึงได้แต่ส่งกำลังใจและติดตามตลอด หวังว่าอยากให้ทุกคนช่วยกัน เข้มแข็ง และขอร้องรัฐบาลว่าให้ช่วยประชาชน เพราะทุกคนลำบากจริงๆ

เมื่อถามว่าอยากเป็นนายกฯ อีกสักสมัยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ตอนนี้หมดยุคแล้วหรือไม่ ตอนนี้เป็นรุ่นของคนรุ่นใหม่และสมัยใหม่แล้ว เด็กรุ่นใหม่มีความสามารถเยอะ ตอนนี้ก็อายุกว่า 50 ปีแล้ว ใกล้จะปลดระวางแล้ว ซึ่งนายกฯ ต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน จะบอกว่าเอาใครมาเป็นนายกฯ ไม่ได้ ต้องฟังเสียงประชาชนว่า อยากให้ใครมาบริหารประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด  เพราะประเทศไทยมีคนที่มีความรู้ความสามารถมาก ส่วนตัวไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็อยากจะช่วยเหลือประชาชน ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นบ้านเกิด เรามีความรักมีความผูกพัน แม้ว่าตัวจะมาอยู่ที่นี่ แต่ใจยังอยู่ที่ประเทศไทยตลอดเวลา

ถามอีกว่า ลองจินตนาการหรือไม่ว่าหากยังเป็นนายกฯ อยู่ นโยบายที่น่าสนใจอะไรที่อยากออกมา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตอนนั้นนโยบายหลายๆ อย่างได้ออกไปแล้วต้องสานต่อให้เสร็จ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ๆ เช่น  รถไฟความเร็วสูง และแท็บเล็ต

เมื่อถามถึงการเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของไทยหนักใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในฐานะนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ยากอยู่แล้ว เพราะตอนนั้นมาบริหารบ้านเมืองในยามที่เกิดความขัดแย้ง ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยก็เยอะ ต้องมาสานต่อ เรื่องหนี้สินของพี่น้องประชาชน และการเป็นผู้หญิงยิ่งลำบากขึ้น เพราะความคาดหวังมีเยอะ เพราะเขาไม่ได้มองว่าเราจะอาศัยความรู้ความสามารถประสบการณ์ความตั้งใจจริงมาทำงาน แต่มองในเรื่องเพศหญิง อาจทำไม่ได้ อ่อนแอ ซึ่งตนต้องอดทนและทำงานหนักเป็นสองเท่า เพื่อพิสูจน์ว่าตนทำได้ ตนอดทน ความเป็นผู้หญิงไม่ได้ทำให้งานลดน้อยถอยลงไป โดยเฉพาะการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถือว่าท้าทายมาก เพราะต้องทำงานกับเหล่าทัพ ยอมรับว่าหนักใจ ศาลทหารจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง การสั่งงานจะต้องใช้ข้อกฎหมายในการสั่งงาน เพราะถ้าไปสั่งตรงๆ เขาคงไม่ทำ  เพราะเขามองว่าตนไม่มีอำนาจ และทำบางส่วนที่เกินกว่าอำนาจไม่ได้ และต้องทำในหน้าที่ของเขา ตนต้องใช้กฎหมาย เช่น การสั่งเหล่าทัพต้องนั่งในส่วนของสภากลาโหม หรือวางนโยบาย ถ้าอยู่ๆ โทร.ไปบอกอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานทำไม่ได้ เขาไม่ปฏิบัติตาม

ถามว่าถ้าเจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ  และ รมว.กลาโหมจะคุยได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์สวนกลับว่า “ต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าหากเจอหน้ายิ่งลักษณ์ยังคุยกันได้หรือเปล่า” ถามอีกว่าหากพูดถึงชื่อยิ่งลักษณ์  พล.อ.ประยุทธ์อาจอารมณ์เสียก็ได้ ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า “นั่นสิ เราก็เปลี่ยนเรื่องก็ได้นะ หรือแฟนคลับอาจไม่ถูกใจ บอกอยากคุยต่อ”

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังพูดถึงคนรุ่นใหม่กับการเมืองไทยและเรื่องการชุมนุมในปัจจุบันว่า ต้องถามก่อนว่าสนใจเป็นนักการเมืองหรือสนใจการเมือง ถ้าสนใจเป็นนักการเมืองต้องคุยกันอีกยาว แต่ถ้าสนใจเรื่องการเมืองถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะได้รับข้อมูลข่าวสารและมีความสนใจ เพราะอยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดี และอยากมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่ออนาคตของเขา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ในฐานะผู้ใหญ่ก็ควรจะรับฟัง เหมือนเวลาเรามีลูกคนหนึ่ง ลูกต้องการแบบนี้บางทีเราจะคุยต้องใจเย็น  ต้องอธิบายให้เขาฟัง สิ่งนี้เราเป็นผู้ใหญ่จะต้องให้โอกาสเด็กและเยาวชนในการแลกเปลี่ยน รวมถึงทำความเข้าใจกันให้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้น้องๆ เยาวชนเขามีส่วนร่วมและมีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และควรเปิดพื้นที่ให้เยาวชน

เมื่อถามว่า ภาพที่เห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนใจเย็น  ดังนั้นด่าเป็นหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ความจริงนั้นก็เป็นมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง มีความรู้สึกมีจิตใจ ตนก็มีโมโห  โกรธ เสียใจ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไประบายกับคนรอบข้างเอา ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าไม่สบายใจกับตน การที่ตนทำงานกับคนหมู่มาก โดยเฉพาะสมัยที่เป็นนายกฯ ต้องใจเย็น หากคนอื่นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แล้ว ทำไมต้องไปให้เขารับรู้กับการอารมณ์เสียของตน ฉะนั้นต้องไปคุยกับคนรอบข้าง ไประบาย หรือหาวิธีระบายความเครียดของตัวเองให้ได้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังเผยถึงการใช้ชีวิตในต่างประเทศว่า จะบอกว่าสบายดีก็คงไม่ใช่ คนเราจากบ้านเกิด จากสิ่งที่เราเคยทำมาทุกวัน กลับมาว่างงาน ได้มาอยู่ห่างบ้านห่างเมือง ไม่ได้เจอญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก ก็คิดถึง แต่ต้องทำอย่างไรให้ดำรงอยู่ให้ได้

ในช่วงท้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวขอบคุณแฟนเพจที่ได้เข้ามาฟัง พร้อมระบุว่าอยากจะบอกตามเพลงของพี่เบิร์ด คือเล่าสู่กันฟัง ไม่ว่าฝนจะตกที่ไหน คนทางนี้ต้องคิดถึงและต้องอยากรู้เรื่องราว และสะเทือนถึงทางนี้เช่นเดียวกัน  ถ้าบ้านเรามีความทุกข์ยาก ประชาชนมีความลำบากอะไร คนที่อยู่ทางนี้ ทั้งตนเองและพี่โทนี่รู้สึกสะเทือนใจและรู้สึกเป็นห่วง เป็นสิ่งที่อยากบอกทุกคน แม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้  แต่กำลังใจหรือการอยู่เคียงข้างจะไม่มีวันลืม อะไรที่ทำได้เพื่อประชาชนตนยินดี และขอให้ประชาชนทุกคนอดทนและรักษาสุขภาพให้ดี เชื่อว่าวันหนึ่งความอดทนความเข้มแข็งของเราจะประสบความสำเร็จและได้เจอแต่สิ่งที่ดี แล้วหวังว่าวันหนึ่งประเทศไทย ประชาชนจะได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก  ประชาชนมีรายได้ที่ดี ขอเป็นกำลังใจให้

วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการคัดเลือกตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...)  พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ที่ฝ่ายค้านคัดค้านไม่ให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานว่า ยังไม่ทราบเลยว่าใครจะเป็นประธาน เป็นเรื่องของ กมธ.ที่จะเลือกกันเองเพราะไม่มีหลักเกณฑ์ แต่ปกติหากมีรัฐมนตรีอยู่ใน กมธ.ด้วย คนเป็นประธานก็ควรเป็นรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่มีรัฐมนตรีอยู่ใน  กมธ. ก็เป็นหน้าที่ของ กมธ.ที่จะเลือกกันเอง.