ตัดธนาคารรัสเซีย! อียูห้ามใช้ระบบสวิฟต์/วาง2แผนพาคนไทยกลับ

"ปูติน" สั่งเดินหน้าโจมตียูเครนจากทุกทิศทาง กรุงเคียฟเคอร์ฟิวสกัดมือก่อวินาศกรรม แต่ทหารยังรักษาเมืองหลวงไว้ได้ รัสเซียบุกเข้าเมืองใหญ่อันดับ 2 เผชิญการต่อต้านดุเดือดในวันอาทิตย์ "เซเลนสกี" วอนชาวต่างชาติอาสาช่วยรบติดต่อที่สถานทูตยูเครนทั่วโลก ตะวันตกส่งอาวุธสนับสนุนยูเครนเพิ่ม อีกทางตัดธนาคารรัสเซียหลายแห่งพ้นระบบ "สวิฟต์" แล้ว ไทยวาง 2 แผนนำคนไทยกลับบ้านเกิด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าเกิดการสู้รบกลางเมืองในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนรัสเซียห่างจากกรุงเคียฟทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 400 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีกล่าวว่า มีเสียงปืนกลและเสียงระเบิดจากการปะทะกันดังขึ้นเมื่อช่วงเช้าในหลายสถานที่ และพบเห็นซากรถหุ้มเกราะของรัสเซียคันหนึ่งที่ยังมีควันคุกรุ่นและรถหุ้มเกราะอีกหลายคันถูกทิ้งไว้

นอกจากการบุกเข้าเมืองคาร์คิฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังอ้างเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทหารสามารถยึดเมืองเคอร์ซอนทางภาคใต้ และเมืองเบอร์เดียนสค์ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นอกจากนี้ทหารยังเข้าควบคุมเมืองท่าเจนิเชสค์ริมทะเลอาซอฟ และสนามบินแห่งหนึ่งใกล้เมืองเคอร์ซอน

ทหารรัสเซียรุกคืบโจมตีหลายเมืองของยูเครนตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อวันเสาร์ ที่ให้ทหารโจมตีจากทุกทิศทาง หลังจากยูเครนปฏิเสธกระบวนการเจรจาที่รัสเซียเสนอ แต่ที่กรุงเคียฟ กองทัพยูเครนประกาศว่า พวกเขายังสามารถต้านทานการโจมตีของทหารรัสเซีย และขณะนี้ทหารกำลังต่อสู้กับ "กลุ่มก่อวินาศกรรม" ที่แทรกซึมเข้ามาในเมืองหลวง ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในเคียฟเผยว่า มีเสียงระเบิดดังกึกก้องเป็นครั้งคราว โดยทหารยูเครนกล่าวว่าเป็นเสียงปืนใหญ่และมิสไซล์

ตึกระฟ้าที่เป็นอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งโดนโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์ หน่วยฉุกเฉินกล่าวว่าอาคารหายไปทั้งแถบรวม 5 ชั้น วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีเคียฟ กล่าวว่า อาคารหลังนี้โดนมิสไซล์โจมตี และทหารรัสเซียกำลังรุกโจมตีมาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกของเคียฟ "ศัตรูยังบุกเข้ามาในเมืองไม่ได้ แต่กลุ่มก่อวินาศกรรมกำลังปฏิบัติการในกรุงเคียฟ" เขากล่าว

คลิตช์โกประกาศเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟ โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหลังเวลา 17.00 น. ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถือว่าเป็น "สมาชิกกลุ่มก่อวินาศกรรมและสอดแนมของข้าศึก" เคอร์ฟิวจะมีผลบังคับถึงเวลา 08.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น

มีรายงานจากบริการสื่อสารพิเศษของยูเครนว่า คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองวาซิลคิฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟทางตะวันตกเฉียงใต้ไม่ถึง 30 กม. ตกเป็นเป้าโจมตีเมื่อวันคืนวันเสาร์และเกิดไฟไหม้รุนแรง นอกจากนี้ท่อส่งก๊าซเส้นหนึ่งในเมืองคาร์คิฟทางภาคตะวันออกก็โดนโจมตีด้วย

เสียงระเบิดและเสียงไซเรนยังคงดังทั่วกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง ประชาชนพากันลงไปหลบภัยในสถานีรถไฟใต้ดินและห้องใต้ดินของอาคารบ้านเรือน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนวัย 44 ปี ซึ่งยืนกรานว่าเขาจะอยู่ในกรุงเคียฟไม่หลบหนีไปไหน ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า มีทารกเพศหญิงคนหนึ่งคลอดที่รถไฟใต้ดิน

ผู้นำยูเครนปลุก ปชช.สู้

เซเลนสกีคุยว่า ยูเครนสามารถขัดขวางแผนของรัสเซียที่ต้องการโค่นล้มตัวเขา ในข้อความวิดีโออีกชิ้นหนึ่ง ผู้นำยูเครนประกาศว่า "เราจะต่อสู้จนกว่าเราจะปลดปล่อยประเทศของเรา" พร้อมกันเขายังเรียกร้องให้ชาวรัสเซียช่วยกันกดดันปูตินให้ยุติสงครามนี้

มีรายงานในวันอาทิตย์ว่า ผู้นำยูเครนได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลกในกรุงเฮก เพื่อสั่งรัสเซียยุติการรุกรานยูเครน "รัสเซียต้องรับผิดชอบที่บิดเบือนความคิดเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการรุกราน" เซเลนสกีประกาศทางทวิตเตอร์ "เราร้องขอให้มีการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนเพื่อสั่งการให้รัสเซียยุติการดำเนินการทางทหารเดี๋ยวนี้ และคาดว่าการไต่สวนจะเริ่มได้ในสัปดาห์หน้า"

เมื่อวันศุกร์ ทำเนียบเครมลินกล่าวว่า ปูตินพร้อมจะส่งผู้แทนไปยังกรุงมินสค์ของเบลารุส เพื่อพูดคุยกับยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนกล่าวถึงข้อเสนอที่ยูเครนจะวางตัวเป็นกลาง โดยระงับการขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโตไว้ก่อน แต่ยูเครนตั้งเงื่อนไขว่าต้องการเจรจาที่กรุงวอร์ซอของโปแลนด์แทน ต่อมาในวันอาทิตย์ รัสเซียและยูเครนยังคงแสดงท่าทีว่าพร้อมจะเจรจา แต่ยังติดปัญหาเรื่องสถานที่ เซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนเสนอให้คุยกันที่กรุงวอร์ซอของโปแลนด์, กรุงบราติสลาวาของสโลวาเกีย, กรุงบูดาเบสต์ของฮังการี, นครอิสตันบูลของตุรกี หรือกรุงบากูของอาเซอร์ไบจาน แต่เขาปฏิเสธการเจรจาที่เบลารุส ซึ่งอนุญาตให้รัสเซียใช้เป็นช่องทางบุกโจมตียูเครน

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เปิดเผยทางทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี ถึงขณะนี้มีผู้อพยพพลัดถิ่นจากยูเครนแล้วมากกว่า 368,000 คน และจำนวนยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขใหม่นี้อ้างอิงจากข้อมูลของหน่วยงานระดับประเทศ

ก่อนหน้านี้ เซเลนสกีเรียกร้องต่ออันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ให้ถอดถอนสิทธิการลงมติของรัสเซียในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น เพื่อลงโทษการรุกรานยูเครน โดยนักการทูตกล่าวกันว่าคณะมนตรีฯ มีกำหนดประชุมในวันอาทิตย์เพื่อโหวตข้อมติเรียกร้องให้จัดประชุมสมัชชายูเอ็นวาระพิเศษเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย นอกจากนั้น เซเลนสกียังขอบคุณประเทศ "หุ้นส่วน" ทั้งหลายที่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มาช่วยเหลือ

รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีก 350 ล้านดอลลาร์ ส่วนเยอรมนีจะส่งอาวุธต่อต้านรถถัง 1,000 หน่วย และมิสไซล์สติงเกอร์ 500 ลูก มายังยูเครน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนนโยบายที่ยึดถือมายาวนานของเยอรมนีที่จะไม่ส่งออกอาวุธไปยังพื้นที่สงคราม ฝรั่งเศส, กรีซ และโปรตุเกสก็ประกาศจะส่งอาวุธมาให้ยูเครนเช่นกัน

เซเลนสกีกล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ เรียกร้องชาวต่างชาติทุกคนที่ประสงค์จะเข้าร่วมต่อต้านรัสเซียในยูเครนและปกป้องความมั่นคงของโลก ให้ติดต่อที่สถานทูตยูเครนทั่วโลก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกองพลน้อยนานาชาติป้องกันดินแดนยูเครน แต่เขายืนกรานว่าชาวยูเครนยังมีความกล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยลำพัง แต่ "นี่ไม่ใช่แค่การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย แต่เป็นการเริ่มต้นของสงครามต่อยุโรป"

แม้จะรัสเซียจะมีขุมกำลังทางทหารเหนือกว่ามาก แต่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงในโลกตะวันตกกล่าวกันว่า การต่อต้านของกองทัพยูเครนน่าจะสร้างความประหลาดใจแก่รัสเซีย ซึ่งไม่สามารถรุกคืบหน้าได้รวดเร็วอย่างที่คาดหวัง กระทรวงกลาโหมยูเครนยังกล่าวอ้างเมื่อวันอาทิตย์ว่า สามารถฆ่าทหารรัสเซียได้ราว 4,300 นายแล้ว แต่รอยเตอร์และเอเอฟพีกล่าวว่า ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลนี้อย่างอิสระได้ และรัสเซียก็ไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการสูญเสียชีวิตทหาร

ประเดิมตัดการเงินรัสเซีย

อีกทางหนึ่ง สหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศจะทำให้ทรัพย์สินของธนาคารแห่งชาติของรัสเซีย "เป็นอัมพาต" ด้วยการตัดธนาคารหลายแห่งของรัสเซียออกจากระบบธุรกรรมข้ามประเทศของ "สวิฟต์" หรือสมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก คำแถลงไม่ได้ระบุชื่อธนาคารว่ามีแห่งใดบ้าง แต่รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของนักการทูตรายหนึ่งว่า จะมีตลาดการธนาคารรัสเซียราว 70% ได้รับผลกระทบ

การตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสเรียกว่าเป็น "อาวุธนิวเคลียร์ทางการเงิน" เพราะจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจรัสเซีย จะส่งผลต่อการค้าและทำให้บริษัททั้งหลายดำเนินธุรกิจได้ยากขึ้น เคยมีเสียงเรียกร้องมาโดยตลอดให้ตัดรัสเซียออกจากระบบนี้ แต่ที่ผ่านมามีบางประเทศ เช่นเยอรมนี คัดค้านเนื่องจากกังวลว่ารัสเซียอาจทำให้ระงับการส่งก๊าซ

ด้านความเคลื่อนไหวในไทยนั้น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์และรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเป็นห่วงคนไทยในยูเครน และต้องการให้ทุกคนได้รับการช่วยเหลือดูแล ซึ่งขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้เข้าช่วยเหลือคนไทยในยูเครนเข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน เมืองลวิฟรวม 47 คน และมีคนไทยอีก 43 คนที่อยู่ในระหว่างเดินทางจากเมืองต่างๆ มายังเมืองลวิฟ ซึ่งคนไทยทั้งหมดยังปลอดภัย ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บ

สำหรับแผนการนำคนไทยออกจากยูเครนแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1 ในวันที่ 27 ก.พ.นำคนไทยจากเมืองโอเดซา 41 คน เดินทางไปยังจุดผ่านแดนยูเครน-โรมาเนียโดยรถบัสเช่า จากนั้นสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์จะช่วยรับช่วงต่อนำกลุ่มคนไทยไปยังกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เพื่อเตรียมเดินทางกลับไทยโดยเครื่องบินพาณิชย์ในวันที่ 1 และ 2 มี.ค.2565​ ส่วนที่ 2 จะนำคนไทย 43 คน ซึ่งเข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติฯ เมืองลวิฟเดินทางโดยรถบัสเช่ามายังกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ และในวันที่ 28 ก.พ.จัดรถบัสเช่าไปรับคนไทย ชุดที่ 2 จากศูนย์ปฏิบัติเมืองลวิฟเพื่อมายังกรุงวอร์ซอ และรอการเดินทางกลับไทยโดยเครื่องบินพาณิชย์ ประมาณวันที่ 1-4 มี.ค.

ขณะที่กลุ่มชาวยูเครนที่อาศัยในไทย และชาวยุโรปที่อาศัยในย่านสุขุมวิท สาทร จำนวนกว่า 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว ได้ทยอยมารวมตัวกันที่บริเวณลานจอดรถในสวนลุมพินี ฝั่งถนนวิทยุ เรียกร้องสันติภาพในยูเครน พร้อมกับประณามการกระทำของประธานาธิบดีรัสเซียโหดร้ายทารุณ ไม่ต่างกับฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมัน โดยขอให้รัสเซียยุติสงคราม ถอนทหารออกจากดินแดนยูเครนทั้งหมด อย่างไม่มีเงื่อนไข และเปิดเจรจาสงบศึก

วันเดียวกัน ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจเรื่อง วิกฤตยูเครน ในสายตาคนไทย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,106 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 92.7% เห็นด้วยว่าวิกฤตสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียสอนคนไทยทั้งประเทศให้รู้ว่า อย่าชักศึกเข้าบ้าน อย่าทำลายเสาหลักของประเทศ หยุดพึ่งพากลุ่มขั้วอำนาจจากต่างชาติ ในขณะที่ 7.3% ไม่เห็นด้วย ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือ 93% ระบุไทยจำเป็นต้องมีพันธมิตร กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เข้มแข็งไว้ถ่วงดุล, 92.1% ระบุวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน มีผลกระทบต่อไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม,  91.2% ระบุเสรีภาพและความเท่าเทียมเป็นธรรมในสังคมโลก ไม่มีอยู่จริง, 91.1% ระบุการรุกรานเอาประโยชน์จากประเทศที่อ่อนแอกว่า แบบปลาใหญ่กินปลาเล็กเกิดขึ้นตลอดต่อเนื่องมาในทุกรูปแบบ

เมื่อถามถึงความต้องการในเรื่องดังกล่าว ส่วนใหญ่หรือ 93.6% ระบุต้องการให้มีการแสดงจุดยืน ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี กับเพื่อนมนุษย์, 93.4% ระบุไม่ต้องการให้นำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง เนื่องจากเป็นละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, 93.1% ระบุทุกฝ่ายร่วมตระหนัก ตื่นตัว เรียนรู้และเตรียมรับมือกับปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน, 93% ระบุต้องการให้ทุกคน ทุกฝ่ายมีความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน และ 89.2% ระบุรัฐบาลและคนไทยทุกคนวางตัวและกำหนดท่าทีแสดงออกให้เหมาะสม เป็นกลาง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล