“ผบช.ภ.1” เผยคดี “แตงโม นิดา” คืบหน้าไปมาก หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์จะบอกความจริงทั้งหมด "กระติก" เปิดปากแล้วหลังให้ปากคำตำรวจ สะอื้นแจงไทม์ไลน์ ยันไปเที่ยวไม่ได้รับงานเอนฯ ปัดทะเลาะกัน แม่ดาราสาวหอบหลักฐานใหม่ให้ สภ.เมืองนนท์ ซัด ผจก.ส่วนตัวโกหก ลูกสาวถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจบนเรือ โฆษก ตร.แจงนิติเวช รพ.ตำรวจ ออก "ใบรับรองการตาย" ไม่ใช่ผลชันสูตร เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) เดินทางเข้าติดตามการคลี่คลายการเสียชีวิตของ “แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวที่พลัดตกเรือเสียชีวิตที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1
โดยก่อนเข้าประชุมกับพนักงานสอบสวน พล.ต.ท.จิรพัฒน์เปิดเผยว่า ได้นัดผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรี ผู้บังคับการสืบสวนจังหวัดนนทุบรี ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี มาพูดคุยเพื่อติดตามประเด็นต่างๆ ให้กระจ่างเร็วที่สุด ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 2 คน ก่อนหน้านี้ยังคงสอบสวนอยู่ ขณะนี้สอบสวนไปแล้ว 8 ปาก ผู้ที่เกี่ยวข้องบนเรือ 5 ปาก เจ้าของอู่ 2 ปาก และทางผู้เกี่ยวข้องอีก 1 ปาก วันนี้ยังคงจะมีการสอบเพิ่มเติมอีก และได้เชิญ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัว และ น.ส.วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ที่อยู่บนเรือมาสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนสารเสพติดของคนบนเรือยังไม่ออก ยืนยันคดีนี้ไม่มีผู้มีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครมากดดันตำรวจ ฝากไปยังแม่ของแตงโม คดีนี้เราไม่ปล่อยผ่าน ความเป็นจริงต้องปรากฏ
ต่อมา พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวภายหลังการเรียกพยานในที่เกิดเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของดาราสาวมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า พนักงานสอบสวนเดิมสอบไปแล้ว 8 ปาก วันนี้ได้สอบปากคำเพิ่มอีก 2 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และเจ้าของเรือที่มีชื่อทางกรรมสิทธิ์ ส่วนในทางการสืบสวนเราไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงประเด็นที่สังคมสงสัย ทุกอย่างพิสูจน์ได้ด้วยพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และประเด็นเกี่ยวการใช้โทรศัพท์ผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้เก็บรวบรวมข้อมูลโทรศัพท์ของแต่ละคนไว้ในสำนวน เพื่อให้ทราบทีละประเด็น สิ่งที่จะให้ประโยชน์ได้มากคือผลการชันสูตรพลิกศพ และผลการตรวจจากพยานหลักฐานต่างๆ บนเรือ
ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเสียชีวิตก่อนตกน้ำหรือตกน้ำแล้วเสียชีวิต อันนี้ผลการตรวจชันสูตรศพจะบอกได้ การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่หน้าคืบหน้าไปเยอะ พยานหลักฐานต่างๆ ถูกรวบรวมไว้ในสำนวนค่อนข้างละเอียด ให้ความเชื่อมั่นว่าเราทำอย่างตรงไปตรงมา อย่างแรกเราต้องทำให้ชัดว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นมา มีผู้โดยสารบนเรือพลัดตกลงเรือแล้วเสียชีวิต ใครจะเป็นคนประมาทบ้าง ส่วนที่เปลี่ยนการชันสูตรศพจากนิติเวช โรงพยาบาล (รพ.) ธรรมศาสตร์รังสิต มาเป็นนิติเวช รพ.ตำรวจ การชันสูตรเบื้องต้นที่เกิดเหตุเป็นหน้าที่ของ รพ.พื้นที่ใกล้เคียง หลังจากนั้นสามารถส่งไปชันสูตรศพที่นิติเวช รพ.ตำรวจได้ ซึ่งเราต้องการให้นิติเวชตรวจสอบหลายเรื่องอย่างละเอียด ผลชันสูตรอย่างเป็นทางการยังไม่ออกมา ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด
ทางด้าน น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก แถลงภายหลังเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนประมาณ 40 นาทีว่า เริ่มต้นนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ (ไฮโซปอ) เป็นเพื่อนกับตนมานาน ได้ชวนตนมาหา โม้กันหน่อย อยากเจอ จากนั้นก็มีการพูดคุยกันมาเรื่อย จึงได้มีการระดมเพื่อนที่รู้จักกัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือแตงโม เพราะแตงโมเองก็รู้จักกับบอยและแซน ไปถึงเวลาประมาณ 16.45 น. เจอเพื่อนปออีก 2 คน ล่องเรือไปถึงร้านอาหารและทานข้าว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นได้ไปเข้าห้องน้ำ ยกเว้นแตงโม ออกจากร้านอาหาร 2 ทุ่มกว่า จากนั้นก็ลงเรือแวะถ่ายรูประหว่างทางไปเรื่อยๆ
"กระทั่งเกิดเหตุเวลา 4 ทุ่มกว่าซึ่งเป็นขากลับที่กำลังเข้าอู่เรือ แต่ระหว่างแตงโมไปปัสสาวะ บอกว่าปวดฉี่ เรายังบอกว่าทำไมตอนชวนไม่ไป แต่ตอนไปฉี่ท้ายเรือเราไม่เห็น เพราะตอนนั้นหยุดถ่ายรูปกัน เหนื่อยแล้ว อยากฟินกับบรรยากาศ เราสนใจแต่วิวแล้วตอนนั้น เพราะเสียเวลาไปกับการถ่ายรูป ไม่มีบรรยากาศดื่มด่ำกับบรรยากาศ และได้ยินเสียงตะโกนจากแซนว่าเขาตกเรือ ส่วนเราอยู่หน้าเรือ ยอมรับว่าไม่เห็นแม้กระทั่งแตงโมเดินไปด้านหลังเรือ ส่วนแซนเขานั่งอยู่ด้านหลังเรืออยู่แล้ว จากนั้นปอก็หมุนพวงมาลัยเรือกลับไปค้นหาทันที" กระติกระบุ
น.ส.วิศาพัช หรือแซน กล่าวเสริมว่า แตงโมไปปัสสาวะ โดยการเกาะขาตนอยู่ทั้ง 2 ข้าง โดยที่แตงโมหันหลังออกข้างหันหน้ามาทางตน ทุกอย่างมันเร็วมาก และขณะนั้นตนก็นอนเล่นมือถืออยู่ รู้อีกทีขณะแตงโมกำลังลุกและเสียหลักพลัดตกน้ำไป จึงรีบบอกทุกคนโมตกน้ำ แต่ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุมีการดื่มกันนิดหน่อยแต่โมจะมีอาการเมาหรือไม่ตนไม่ทราบ
ทั้งนี้ กระติกกล่าวถึงประเด็นการสวมชุดบอดี้สูทอยากต่อการปัสสาวะว่า การปัสสาวะของคนใส่บอดี้สูทลักษณะที่รีบๆ เราไม่ได้ถอด เราแหวกข้างได้ แต่ไม่ทราบว่าแตงโมทำอย่างนั้นหรือไม่ แล้วการที่อยู่บนเรือมีผู้ชายอยู่ด้วยคงไม่มีใครถอดลงมาหมด
"ไม่มีการรับงานหรือใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการไปเที่ยวลงเรือแบบเพื่อนชวนเพื่อน ไม่มีประเด็นเรื่องเงิน ไม่เข้าใจมีข่าวมาได้อย่างไร ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีทางที่จะเกิดประเด็นนั้นขึ้น เรารักกัน เขารับลูกเราเป็นลูกบุญธรรม ถ้าโมเสียไป เงินติกก็หายไปเหมือนกันนะ เขาช่วยเหลือมาโดยตลอด ถ้าเราผลักเขาหรือทะเลาะกัน ติกทุบหม้อข้าวตัวเองนะ งานในวงการทุกคนก็ทราบว่ารายได้ค่อนข้างดี คนเราจะหาความลำบากมาให้ตัวเองเหรอ อยากให้คิดตรงนี้นิดนึง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่โทร.หาแม่หรือพี่ชายของแตงโม กระติกตอบว่า กระติกสนิทกับพ่อมาก แต่พ่อจากไปแล้วจึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ แม่ประดาน้ำไม่เป็น ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เราอยู่คนละบ้านและไม่ได้สนิทกับแม่ถึงขนาดที่จะโทร.กวนขณะแม่หลับหรือโทร.บอก ถ้าแม่จะเคืองก็เข้าใจแม่ และกระแสข่าวที่ว่ามีเพื่อนบอกแม่ไม่ให้ข่าว ต้องไปถามคุณแม่และให้แม่ชี้ตัวเลย ยืนยันไม่มี ส่วนประเด็นการลบไอจีของโมนั้น หลังเกิดเหตุก็นำกลับไปที่บ้านของเขา ส่วนแม่บ้านจะเก็บอย่างไรเราไม่รู้ เราไม่มีสิทธิ์ไปลบภาพของคนอื่น และไม่รู้รหัสล็อกอินโทรศัพท์ และไม่อยากรู้ โมเป็นคนค่อนข้างหวงเกี่ยวกับรูป
ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตกลุ่มเพื่อนบนเรือหายไปเป็นวันไม่ยอมออกมาให้รายละเอียดนั้น กระติกบอกว่า หลังเกิดเหตุยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะต้องเข้ามาให้ปากคำหรือไปที่ไหน แต่หลังจากนั้นเราตั้งใจจะมา แต่มีประเด็นเต็มไปหมด รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องหนักต้องปรึกษาใครสักคนจึงทำให้ช้าไป หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ติดตามทางโซเชียลเลย เมื่อทราบว่าเรื่องมาลงที่ตนก็ไม่กล้าเข้าไปดูเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการแถลงข่าวกระติกสะอื้นร่ำไห้อยู่ตลอด
ขณะที่นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมนำหลักฐานมาบางส่วนในการคลี่คลายการเสียชีวิตของลูกสาว ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นใหม่มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมในการเยียวยาครอบครัว จากนั้นนางพนิดาได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ “กระติก” ระบุไม่สนิทกับแม่ว่า ไม่สนิทได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ จ้างลูกแม่ไปหากิน ที่ผ่านมาเวลามีงานก็ไปด้วยกัน ยังแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ เขาโกหกทั้งหมด เขาทำร้ายน้องโมจริงๆ ทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกาย เขาไม่ได้มีความจริงใจต่อลูกเรา แต่ยังพูดลึกๆ ไม่ได้ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ว่าทำร้ายร่างกายคือวันที่เกิดเหตุ แม่แตงโมตอบว่า “ในเรือ” ไม่เชื่อว่าลูกสาวไปปัสสาวะ ชุดน้องโมแคบและรัดมาก คนเราถ้าอยากจะพ้นผิดควรพูดความจริงให้หนักกลายเป็นเบา แต่นี่ยังโกหกอยู่ คุณไม่รอดหรอก เมื่อถามย้ำว่าคนที่ทำร้ายน้องโมมีเฉพาะกระติกหรือมากกว่านั้น แม่ของแตงโมระบุว่า มากกว่านั้น ทำร้ายร่างกายและจิตใจ ที่เชื่อเพราะมีเพื่อนสนิทส่งเอกสารมาให้ตนดู ตกใจมากถึงเอามาให้ตำรวจดูว่าคืออะไร ซึ่งเป็นเอกสารที่เขียนในไลน์ เป็นข้อความที่แรงมากสำหรับแตงโม เป็นข้อความสนทนาที่พูดกันบนเรือ ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชายคนใดคนหนึ่ง เขาปรารถนาดีส่งมาให้เพื่อนแม่ แล้วเพื่อนแม่ก็ส่งมาให้แม่อีกครั้ง
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ออกเอกสาร "ใบรับรองการตาย" เพื่อให้ญาตินำไปออกใบมรณบัตรกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเท่านั้น ไม่ใช่เอกสารผลการผ่าชันสูตรศพ สำหรับผลการผ่าชันสูตรศพ ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยอีก 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปตรวจในห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) ด้วยความละเอียดรอบคอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กังขาเก็บ‘MOU44’ไว้หาประโยชน์
"สนธิญา" บุกทำเนียบฯ จี้ "นายกฯ-ครม." ยกเลิก MOU 44
สนอง‘พ่อนายกฯ’ คลังแจกเงินหมื่น คนอายุ60ปีขึ้นไป
รมว.คลังรับลูก "ทักษิณ" แจกเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป เผยใช้งบไม่มาก
รฟท.จี้กรมที่ดินทบทวนมติ มท.โบ้ยต้องไปยื่นศาลแพ่ง
"อนุทิน" ลั่นปัญหาเขากระโดงจบในกรม อย่าโยง รมว.มหาดไทย
ตร.รอคำสั่งศาล จ่อตั้งรองผบ.ตร. สอบวินัยบิ๊กโจ๊ก
“บิ๊กต่าย” ขอไม่ก้าวล่วงคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด แจงไม่ว่าคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรพร้อมปฏิบัติตาม
‘แม้ว’โทษม.112 ชงแก้การบังคับใช้
"ทักษิณ" เผยธาตุแท้ อ้างพรรคร่วมรัฐบาลลงสัตยาบันไม่แตะ ม.112 แต่ ม.112
จวกทักษิณลวงโลก! ลืมสัจจะวาจาไม่ยุ่งการเมืองจะกลับมาเลี้ยงหลาน
ฮึกเหิม! "สทร." บอกเห็นมวลชนมาเยอะหัวใจพองโต ซัดพวกอิจฉาหาครอบงำ