หุ้นร่วง33.73จุด หวั่นบานปลาย ดันน้ำมันพุ่งอีก

ภาษีน้ำมัน

“คลัง” เกาะติดสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน ลุ้นจบลงด้วยดี เอกชนหวั่นบานปลาย ดันราคาน้ำมันไทยพุ่งอีก 6 บาท หุ้นไทยผวาร่วง 33.73 จุด หรือ 1.99% วอลุ่มสะพัดแสนล้านบาท นักลงทุนแห่ซบสินทรัพย์ปลอดภัย ดันราคาทองคำปรับขึ้นลง 17 ครั้ง บวกเพิ่มกว่า 1,100 บาท รูปพรรณขาย 30,500 บาท

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ต้องติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ไม่อยากเห็นเหตุการณ์บานปลาย ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำมันขยับตัว ขณะนี้อยู่ในกรอบ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ยังอยู่ในขอบเขตที่กองทุนน้ำมันชื้อเพลิงบริหารจัดการไม่ให้ดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตที่ผ่านมาก็เข้าไปช่วยในเรื่องของภาษี ขณะที่นักท่องเที่ยวจากรัสเซียและยูเครนเข้ามาไทยเป็นจำนวนมาก ถ้าสถานการณ์รุนแรงจะส่งผลกระทบต่อไทยอยู่บ้าง

 “สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน แต่เชื่อว่าจากความพยายามของทุกฝ่ายน่าจะทำให้เรื่องจบลงด้วยดี ไม่น่าเกิดความรุนแรงจนนำไปสู่การสู้รบ ซึ่งหากสถานการณ์จบลงด้วยดี ก็จะส่งผลดีต่อทิศทางราคาน้ำมัน โดยปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล” รมว.การคลังระบุ

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นทุก 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาน้ำมันในไทยปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร และกรณีเลวร้ายหากเกิดสงคราม คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และจะกระทบต่อราคาน้ำมันถึง 6 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนมองว่าคงไม่เกิดกรณีเลวร้ายแน่นอน เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม และจากการติดตามสถานการณ์และพูดคุยกับนักธุรกิจที่อยู่ในยูเครน ยังพบว่าสถานการณ์ไม่เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายเป็นกังวล ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 3.5-4% แต่ยังคงเสนอให้รัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านการขยายเวลามาตรการช้อปดีมีคืน และเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่งด้วย

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ผลกระทบจากข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครน จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในสองประเด็นคือ นักท่องเที่ยวรัสเซียที่อาจจะหายไป ซึ่งรัสเซียถือเป็นนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยติดท็อป 5 ขณะที่นักท่องเที่ยวยูเครนจะเป็นกลุ่มครอบครัว อาจจะมีผลกระทบบ้าง รวมทั้งอาจจะกระทบเส้นทางบิน ซึ่งหากมีการปิดน่านฟ้า จะกระทบให้สายการบินต้องบินอ้อม กระทบต่อราคาตั๋วเครื่องบิน จนส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทาง

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ขณะนี้ยังส่งผลกระทบค่อนข้างน้อย โดยคาดว่าในระยะสั้นอาจจะเกิดภาวะช็อกตัว โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ล่าช้าออกไป

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ โดยยังต้องติดตามข่าวสารและสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดทุนและเศรษฐกิจอย่างไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน ในระยะสั้นจะกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะต้องปรับตัวสูงขึ้น

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน รับแรงขายหนักหุ้นทุกกลุ่ม เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น กระทบความเชื่อมั่นการลงทุน ทำให้เกิดการเข้าซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30,000 ราย ส่วนระหว่างวันปรับลดลงต่ำสุดที่ 1,656.62 จุด ลดลง 39.83 จุด หรือ 2.34% โดยตลาดหุ้นไทยดัชนีปิดที่ 1,662.72 จุด ลดลง 33.73 จุด หรือ 1.99% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 126,557.78 ล้านบาท

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกผันผวนในแดนลบอย่างต่อเนื่อง รับแรงกดดันจากความกังวลรัสเซียกับยูเครน หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย และโครงการ Nord Stem 2 ตามหลังเยอรมนี รวมถึงประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐและยุโรป เช่น ญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็ประกาศคว่ำบาตรต่อรัสเซียด้วย ส่วนยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และเริ่มเกณฑ์กำลังสำรอง ทั้งนี้เชื่อว่ากระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัดในเชิงเปรียบเทียบ

มีรายงานจากสมาคมค้าทองคำว่า ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น กลับมายืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากข่าวความตึงเครียดในยูเครนยังคงดำเนินต่อ สำหรับราคาทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยภาพรวมการซื้อขายทองคำ ราคาส่วนใหญ่ผันผวนในแดนบวก ปรับราคาขึ้นและลงตลอดวันรวม 17 ครั้ง ส่งผลให้ราคาทองปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,100 บาท ผลักดันให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น แบ่งเป็นราคาทองคำแท่ง รับซื้อที่บาทละ 29,900 บาท ขายออกที่บาทละ 30,000 บาท และทองรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 29,364.92 ขายออกที่บาทละ 30,500 บาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป