รัฐบาลสุดปลื้ม จีดีพี64โต1.6% ลุ้นฟื้นท่องเที่ยว

"สภาพัฒน์" เปิดจีดีพีไตรมาส 4/64 ขยายตัว  1.9% ทั้งปี 64 ขยาย 1.6% ดีกว่าที่คาดไว้เดิมที่  1.2% ชี้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวได้ดี รอการคืนชีพของภาคการท่องเที่ยว คาดปี 65 ขยายตัว 3.5-4.5%  นายกฯ พอใจตัวเลข ศก. ฟุ้งเป็นผลพวงจากมาตรการรัฐ  ยันเดินหน้าเต็มที่เพื่อฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตโควิดควบคู่การแพร่ระบาดให้อยู่ในวง

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นายดนุชา พิชยนันท์  เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (สศช.) เปิดเผยว่า ผลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4/2564 ขยายตัว 1.9%  ส่งผลให้ทั้งปี 2564 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ที่ 1.6%  ส่วนในปี 2565 ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในกรอบ 3.5-4.5% โดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นนับว่ามีความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยยังพบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สำหรับเศรษฐกิจในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวได้  3.5-4.5% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เมื่อการระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลดลง อย่างไรก็ตามต้องไม่มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเรื่องไวรัสกลายพันธุ์ที่ทำให้การเจ็บป่วยมีความรุนแรง ทำให้ไทยสามารถใช้มาตรการ Test  and Go ต่อไปได้ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในปี  2565 ได้มากขึ้น คาดว่าการท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัว  นักท่องเที่ยวจะเข้ามาได้ประมาณ 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีการเข้ามา 4.3 แสนคน ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5% ค่าเงินบาท 32.2-33.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

นายดนุชากล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565  คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 3.5-4.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 5 ปัจจัย คือ การฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการผลิตตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19  ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง และความคืบหน้าของการกระจายวัคซีน การฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของภาคท่องเที่ยวระหว่างประเทศภายใต้นโยบายการเปิดประเทศของภาครัฐ การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการส่งออกสินค้า การขับเคลื่อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และฐานการขยายตัวที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ มองว่าการดำเนินนโยบายของภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เนื่องจากภาครัฐจะมีการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี  2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจวงเงิน 3.07 แสนล้านบาท รวมทั้งเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงิน 5 แสนล้านบาท ในส่วนที่เหลือก็คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4/64 และทั้งปี 2564 จาก สศช.ว่าทั้งปี  2564 เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ 1.6% ซึ่งสูงกว่าที่ สศช. ได้ประมาณการไว้ 1.2%  ทั้งนี้ การเติบโตในหลายส่วนก็เป็นผลจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น การบริโภคของประชาชนที่ดีขึ้นจากที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยา แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย การบริโภคและลงทุนของรัฐที่เติบโตจากการเร่งรัดการเบิกจ่าย ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวจากการทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการที่ปลอดภัย ควบคู่ไปกับการดูแลประชาชนทั้งด้านการป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพอใจกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญกับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงเช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก โดยรัฐบาลได้พยายามทุกวิถีทางอย่างเต็มที่ดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ย้ำว่าในปี 2565 รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูประเทศจากผลกระทบของโควิด-19 ควบคู่ไปกับการดูแลการแพร่ระบาดให้อยู่ในวง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง