นายกฯเรียก‘ปวีณ’กลับมาสู้

“ประยุทธ์” วอนให้เบาๆ เรื่องการเมือง  ลั่นไม่เคยโกหกในเวทีอภิปราย ชี้บ้านเมืองมีขื่อมีแป หาก  “ปวีณ” ติดใจหรือสงสัยก็กลับมาให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน “ชลน่าน” เตรียมหารือขยายผล เล็งใช้อหิวาต์หมูฟันมาตรา 157 พร้อมนำคำด่า ส.ส.เผยแพร่ทุกแพลตฟอร์ม “จิราพร” ลั่นเกาะติดเหมืองทองอัครา เชื่อมีอภิปรายครั้งที่ 5  แน่

เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ  ครั้งที่ 1/2565 ว่า ต้องขอบคุณคณะรัฐมนตรี (ครม.)  และพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนการทำงานทุกเรื่อง อยากพูดให้สังคมเข้าใจเราร่วมมือทำงานทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ  เอกชน และประชาสังคม ต้องร่วมมือฟันฝ่าอุปสรรคของประเทศเราไปให้ได้ เวลานี้ทั้งโลกมีปัญหาเหมือนกันหมดอาจมากบ้างและน้อยบ้าง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องทางการเมืองขอให้เบาๆ กันหน่อย วันนี้ก็ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการอภิปราย  ส่วนจะดีไม่ดี จะใช่ไม่ใช่ก็ไม่รู้ แต่พูดในสิ่งที่ไม่โกหกใครและพูดในข้อเท็จจริง ดังนั้นสิ่งใดที่เป็นประโยชน์หรือสิ่งใดไม่เรียบร้อย ก็จะนำมาแก้ไขพิจารณาในสิ่งที่ทำได้ตามกรอบอำนาจและตามกฎหมายที่มีอยู่ จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน วันนี้ประเทศชาติมีปัญหาอยู่ ขอร้องแค่นี้

เมื่อถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขู่ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาลหาก พ.ร.บ.กัญชากัญชงไม่ผ่าน โดย พล.อ.ประยุทธ์ย้อนว่า "เขาขู่ใคร ขู่กับผมหรือเปล่า ก็ไปว่ากันมา  ผมไม่ได้เข้าสภาไปยกมือเมื่อไหร่ รัฐบาลทำเต็มที่ครบขั้นตอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องสภาพิจารณากันเอง ถ้ารัฐบาลไม่สนับสนุนก็คงไม่เข้าสภา"

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ว่า ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด ผลงานการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งใดที่ผ่านมาแล้วก็เป็นเรื่องของอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลจริงใจในการแก้ไขปัญหา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ดีขึ้นเหมือนวันนี้ อาจไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ต้องทำต่อไป

เมื่อถามถึงคดีของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 8 พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า เขามีคดีอะไรหรือ ถามอีกว่า พล.ต.ต.ปวีณระบุต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศออสเตรเลีย เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปร้องทุกข์ ร้องเข้าช่องทางมา และเมื่อถามว่า พล.ต.ต.ปวีณอยากกลับมา  พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ได้ให้เขาออกไปไม่ใช่หรือ เขาออกไปเองไม่ใช่หรือ 

ถามอีกว่า พล.ต.ต.ปวีณกังวลเรื่องความปลอดภัย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครจะไปทำอะไรเขาได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมายอยู่ ถ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ทุกคนเวลาไปก็ไปเอง สมัครใจไปเอง พอจะกลับมาบอกไม่ปลอดภัย บางคนที่ไปก็มีกฎหมายค้างอยู่ แต่อยากจะกลับ มองตรงนี้ซิ

เมื่อถามว่า นายกฯ จะรับประกันได้หรือไม่ว่าจะไม่ปกป้อง หากมีคนใหญ่คนโตเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า จะไปปกป้องใคร เป็นใครเล่า ถ้าไม่เปิดชื่อใครก็พูดได้  ซึ่งสังคมก็ต้องคิดให้มีหลักเกณฑ์มีหลักฐาน จะทำอะไรก็ต้องมีหลักฐาน ก็กลับมา จะฟ้องร้องอะไรก็ฟ้องไปให้กระบวนการตัดสินไป แต่ถ้าฟ้องแล้วไม่ใช่เขาก็ฟ้องกลับแค่นั้นเอง อยู่กันด้วยกฎหมาย ไม่ใช่พูดกันไปพูดกันมา ขยายความกันอยู่แบบนี้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงว่ามีเครือข่ายกว้างขวางใน จ.ระนอง ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางผ่านของขบวนการค้ามนุษย์ โดยเดินผ่านสื่อมวลชนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนขึ้นรถออกจากทำเนียบฯ ในทันที

ยกโพลหนุน รบ.มุ่งแก้ค้ามนุษย์

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญปัญหาการค้ามนุษย์ มีความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังมาโดยตลอด สอดคล้องกับผลสำรวจของซูเปอร์โพลที่ระบุว่า ส่วนใหญ่หรือ 76%  ระบุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญด้านมนุษยธรรมและการคุ้มครองมากกว่าอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะการต่อต้านการค้ามนุษย์ ในขณะที่ 72.7% เห็นความสำคัญและตระหนักต่อเรื่องของมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน เสรีภาพ และต้องการความคุ้มครองจากรัฐมากขึ้นในกลุ่มเด็ก  เยาวชน และผู้หญิง รวมทั้ง 75.1% เชื่อมั่นว่าความตั้งใจจริงของรัฐบาล การใส่ใจจริงจังในหน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง  มีส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน

"การอภิปรายของนายรังสิมันต์พยายามบิดเบือนข้อมูล ให้ประชาชนสับสน สร้างความเข้าใจผิดถึงประเด็นการค้ามนุษย์ รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันพยายามแก้ปัญหาต่างๆ ที่เรื้อรังมานาน ถ้ารักประเทศหวังดีต่อประเทศอย่างที่กล่าว ก็ต้องร่วมมือร่วมใจแก้ไขปัญหาร่วมกันด้วยความรักความสามัคคี" นายธนกรกล่าว

ด้านนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในการเปิดประชุมสมัยหน้าว่า รอดแน่นอนเพราะรัฐบาลมีเสียงสนับสนุน 260 เสียง

ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวทางของฝ่ายค้านหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ว่าจะเอามาปรึกษาในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน เนื่องจากมีหลายข้อที่อภิปรายแล้วมีหลายเรื่องที่มีลักษณะข้อเท็จจริง ที่ปรากฏว่ามีการกระทำเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ส่วนประเด็นอื่นๆ ต้องดูในรายละเอียดว่าต้องดำเนินการต่ออย่างไร เช่นการปกปิดข้อมูลการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่มีผู้เกี่ยวข้องทั้งระดับข้าราชการ หรือรัฐมนตรีที่ควบคุมส่อเจตนาที่จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา 157 ซึ่งจะยื่นฟ้องหรือไม่ต้องมาหารือกัน หรือจะนำประเด็นไปยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นข้อกล่าวหา เนื่องจากการซักถามข้อเท็จจริงในครั้งนี้ไม่ได้รับคำตอบเลยว่าปกปิดหรือไม่

“จะนำการอภิปรายของสมาชิกมาขยายและเผยแพร่ต่อในทุกแพลตฟอร์ม ให้ประชาชนได้รับทราบว่าเจตนารมณ์ในการอภิปรายครั้งนี้ เป็นการอภิปรายเพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนอย่างไร และสิ่งที่รัฐบาลควรทำเป็นอย่างไร” นพ.ชลน่านระบุ

 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ภาพรวมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติเมื่อวันที่ 17-18 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ชี้แจงด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมเนื้อหามาชี้แจงก่อนได้ฟังประเด็นซักถามของฝ่ายค้าน หลายคำชี้แจงจึงเป็นคำตอบที่ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน

 “ยืนยันว่าสิ่งที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ซักถามและมีข้อเสนอไปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามที่ชี้เป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ทั้งสิ้น เพราะเป็นศูนย์กลางของปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สร้างความเสียหายทำประเทศแพง จน พังทั้งแผ่นดิน หลังจากนี้ไปพรรคร่วมฝ่ายค้านจะผนึกพลังกันเพื่อต่อสู้กับปรปักษ์ของประชาชน คือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพ ที่สร้างความล้มเหลวทุกหย่อมหญ้า ประเทศชาติเป็นหนี้ท่วมหัว ประชาชนเอาตัวไม่รอด” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

พท.เกาะติดเหมืองทอง

 ขณะที่ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรค พท.กล่าวว่า ประเด็นเหมืองทองอัคราได้ถูกนำมาเปิดเผยในสภาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังมี 6 พฤติกรรมในการชี้แจงหรือตอบคำถามดังนี้  1.ตอบเหมือนเดิม โดยยังใช้ข้อมูลชุดเดิมที่ฟังไม่ขึ้นมาชี้แจงซ้ำซาก 2.เลือกตอบบางคำถามแต่ตอบไม่ตรงคำถาม  3.ไม่ตอบคำถาม 4.ให้คนอื่นตอบคำถามแทน พฤติกรรมนี้ คล้ายกับเหตุการณ์เมื่อครั้งมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด กรณีการทุจริตวัคซีนซิโนแวค 5.กล่าวโทษทุกคนยกเว้นตัวเอง และ 6.ข่มขู่ผู้อภิปราย

น.ส.จิราพรระบุว่า หากไทยมั่นใจว่าจะชนะคดีดังกล่าว  เหตุใดจึงมีการเจรจาประนีประนอมยอมความระหว่างไทยกับ บ.คิงส์เกตฯ แม้ได้รับคำตอบว่าทำตามคำแนะนำคณะอนุญาโตตุลาการเพื่อประโยชน์สูงสุดของทั้งสองฝ่าย แต่หากมั่นใจชนะคดีแน่นอนเหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเคยตอบคำถามสภาไว้ ก็ต้องยืนยันที่จะสู้คดีจนถึงที่สุด ถ้าชนะไทยไม่ต้องเสียอะไรและได้ค่าชดเชยคืนมาด้วยซ้ำ แต่รัฐบาลก็บ่ายเบี่ยงไม่มีคำตอบในประเด็นนี้  ทำให้ประชาชนยิ่งเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าอาจมีดีลใหญ่เพื่อแลกกับการถอนฟ้องจริงหรือไม่

 “พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลอยตัวเหนือปัญหา และโยนบาปโยนความรับผิดชอบมาให้ประชาชนต้องรับภาระแทน ไม่อยากเห็นประเทศไทยแพ้คดี และต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล และไม่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์เอาทรัพย์สมบัติประเทศไปชดใช้แทนความผิดของตนเอง ซึ่งเหมืองทองอัคราจะเป็นประเด็นสำคัญที่ใช้อภิปรายเป็นครั้งที่ 5 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ เพราะคำพูดของชายชาติทหารที่ไร้สัจจะไม่ทำให้ดิฉันหวั่นไหวและเกรงกลัวในการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์แทนพี่น้องประชาชนเลยแม้แต่น้อย” น.ส.จิราพรกล่าวและว่า พล.อ.ประยุทธ์ที่บอกว่ารักชาติรักแผ่นดิน และจะรับผิดชอบคดีเหมืองทองอัคราเองคนนี้ มีพฤติกรรมกลับกลอก ผิดคำพูดตัวเอง เอางบประมาณแผ่นดินกว่า 731 ล้านบาทไปใช้ในการต่อสู้คดีที่ตัวเองก่อขึ้น  ถ้า พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นสุภาพบุรุษชายชาติทหารที่พูดแล้วไม่คืนคำ ก็ขอให้คืนเงิน 731 ล้านบาทเข้าคลังแผ่นดิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์