ประยุทธ์หย่าศึกบ้านใหญ่ เศรษฐกิจใหม่สาวไส้พี่มิ่ง

"สุชาติ" ดับเครื่องชนบ้านใหญ่ชลบุรี ไม่ขออยู่ใต้แม่ทัพอัลไซเมอร์ เบี้ยวปูนบำเหน็จ "สรวุฒิ" รับต้องให้ผู้ใหญ่เคลียร์ "บิ๊กตู่" จ่อหย่าศึก ลั่น “เดี๋ยวพี่จัดการเอง” หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ลากไส้ "มิ่งขวัญ" ไขก๊อก เหตุพรรคสนองความต้องการไม่ได้


เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ยังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง สำหรับความขัดแย้งเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ระหว่างนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรี และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเมื่อช่วงเช้านายสุชาติได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนไม่เคยเห็นหมาตัวไหนมันทิ้งเจ้าของ เห็นมีแต่เจ้าของนั่นแหละที่ชอบเอาหมาไปทิ้ง ไปปล่อยวัด มีเหตุผลไม่กี่ข้อที่หมาจะหายไปนั้นก็คือ หลงทาง กับการถูกทำร้ายบาดเจ็บ จนถูกบ้านหลังใหม่เก็บเอาไปเลี้ยง
นายสุชาติโพสต์ว่า ตนมีนิทานพงศาวดารฉบับย่อเรื่อง ขุนศึกคู่กายกับแม่ทัพอัลไซเมอร์ นานมาแล้ว มีขุน


ศึกกับแม่ทัพคู่นึง ขุนศึกรักเคารพแม่ทัพเหมือนพี่คนนึง สั่งให้ไปรบไปที่ไหน ไม่เคยปฏิเสธ สู้ตายถวายหัวทุกสนามรบ แม้กระทั่งวันที่ไม่เหลือขุนศึกคนอื่นเลย ที่สำคัญส่วนใหญ่ขุนศึกคู่กายคนนี้รบชนะทุกครั้ง


นายสุชาติยังระบุว่า วันนึงขุนศึกคู่กายขอกลับมาดูแลครอบครัว และเรือกสวนไร่นาที่ทิ้งไปนาน เลยบอกแม่ทัพว่า ขอวางมือ ปรากฏว่า 3 ปีที่แล้ว มีสงครามใหญ่ แม่ทัพเรียกขุนศึกคู่กายมาพูดคุยด้วยว่า ขอให้มาช่วยกัน ถ้าแพ้ศึกครั้งนี้เขาและครอบครัวจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ด้วยความรักและเคารพในตัวแม่ทัพ ขุนศึกคู่กายยอมทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิ้งไร่นาสวน มาร่วมรบอีกครั้ง โดยการรบครั้งนี้แม่ทัพให้ขุนศึกรับผิดชอบ 3 หัวเมืองหลัก ที่เหลือเป็นหน้าที่แม่ทัพรับผิดชอบ


“ก่อนออกรบแม่ทัพรับปากว่า ถ้าชนะศึกจะปูนบำเหน็จให้ กระทั่งผลออกมา พอรบเสร็จ ขุนศึกรบชนะทั้ง 3 หัวเมือง ส่วนแม่ทัพแพ้ราบคาบทุกหัวเมืองหลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ปรากฏว่าแม่ทัพเป็นอัลไซเมอร์ สิ่งที่รับปากไว้ลืมหมด รวมถึงเมื่อขุนศึกกลับบ้าน ไร่นา ครอบครัวเสียหาย แม่ทัพกลับไม่มีแม้แต่การเหลียวแล ขุนศึกก็ต้องก้มหน้าดูแลตัวเองไป”


ส.ส.ชลบุรีรายนี้กล่าวว่า แต่เชื่อมั้ยว่า วันนึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เจ้าเมืองมาเจอขุนศึกคนนี้ ซึ่งบาดแผลเพิ่งจะตกสะเก็ดจากการสู้รบ สืบทราบจากชาวบ้านว่าเป็นนักรบมีฝีมือ มีความซื่อสัตย์ สู้รบด้วยการไม่คิดถึงชีวิตตัวเองและครอบครัว จึงปูนบำเหน็จให้เป็นเสนาบดี เหตุนี้เองขุนศึกจึงทำงานตอบแทนเจ้าเมืองด้วยความซื่อสัตย์ ถวายหัว ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตนขอถามทุกท่านกลับไปว่า เป็นขุนศึกจะถวายหัวให้ เจ้าเมืองที่เห็นคุณค่าในตัวขุนศึก หรือแม่ทัพอัลไซเมอร์ ที่ไม่เห็นคุณค่า??? และที่สำคัญ ขุนศึกผู้นี้ปลูกข้าวกินเองมาตลอด ไม่ได้กินข้าวของแม่ทัพ เหมือนขุนศึกคนอื่นๆ


ผอ.พรรค พปชร.กล่าวว่า ส่วนการขยายอาณาจักร เอาตรงๆ วันนี้แม่ทัพท่านนั้นก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะย้ายเมืองไปขึ้นตรงกับเจ้าเมืองไหน??? หรือจะสร้างเมืองขึ้นเอง?? แล้วจะมาหาว่าผู้อื่นขยายอาณาจักรได้อย่างไร เมื่อขุนศึกได้รับมอบหมายให้เตรียมการจากเจ้าเมือง ก็ต้องเตรียมการเพื่อให้พร้อม ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา


นายสุชาติยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีแตกหักกับบ้านใหญ่ชลบุรีว่า เขาไม่ได้อยู่กับทางนี้อยู่แล้ว​ ส.ส.ชลบุรีรู้อยู่แล้วว่าฝั่งไหนเดินทับหาเสียงเขตเขาอยู่ ตนในฐานะ ผอ.พรรค พปชร. ได้รับสั่งการจากหัวหน้าพรรคให้จัดผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า​ ซึ่งได้มีการเจรจาไปยังฝั่งคนสนิทของเขาหลายคนว่าเอาอย่างไร แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จนระยะเวลาทอดยาว และมีเหตุการณ์ที่คนใกล้ตัวของเขามาเดินทับเขต ส.ส.​ของพรรค ส.ส.จึงมีความรู้สึกที่ไม่มั่นคง ดังนั้น ​ต้องมีความชัดเจน


เมื่อถามถึงการวางตัวผู้สมัคร​ ส.ส.​ 10​ เขตของชลบุรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น​ ผอ.พรรค พปชร.ตอบว่า ได้วางตัวครบหมดแล้ว ตอนนี้รอเพียงนายอิทธิพล​ คุณปลื้ม​ รมว.วัฒนธรรม ซึ่งเว้นไว้ 1 ที่ เพราะนายอิทธิพลกับตนเหมือนพี่น้องกัน ส่วนตัวไม่มีอะไรกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าส.ส.ชลบุรีของพรรค พปชร.คนยังอยู่กับพรรค เพราะทุกคนสนับสนุน​ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีตามไปทางโน้นสักคน และคนที่เป็นส.ส.เก่าจะถูกส่งลงสมัครทุกคนเช่นเดียวกัน ส่วนในเขตที่ไม่มี ส.ส เราก็มีตัวผู้สมัครเตรียมไว้แล้ว


ซักว่า อยากเคลียร์หรืออยากคุยหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่อยาก เพราะตนวางตัวผู้สมัครไว้หมดแล้ว จะได้พิสูจน์กันว่าพี่น้องชลบุรีจะได้มีการเปลี่ยนแปลง หรือจะเป็นการเมืองแบบเดิมๆ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างนายสนธยาและนายสุชาติสั้นๆ ว่า “ผู้ชายเขาคุยกัน”


เมื่อถามว่า จะเป็นปัญหาในรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ไม่มีหรอกจ้ะ ปัญหาของใครก็ต้องแก้กันเอา ต้องรู้รักสามัคคี จะมองทุกอย่างว่าเป็นปัญหา ก็คนล่ะนะ”
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เคลียร์กันได้


นายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค พปชร. มองว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่ทุกคนก็อยากมีพื้นที่ทำงานการเมืองและดูแลประชาชน โดย จ.ชลบุรีถือเป็นจังหวัดใหญ่ แต่เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้และแบ่งพื้นที่ทำงานกันได้ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เป็นเรื่องในพื้นที่ รัฐบาลเป็นภาพรวม

นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี และกรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวว่า คิดว่าเป็นธรรมดา คนอยู่ด้วยกัน ย่อมมีความเข้าใจและไม่เข้าใจกัน แต่เมื่อร่วมสงครามกันก็ทิ้งกันไม่ได้ การจับมือของทั้งสองคนถ้าเกิดขึ้นได้เป็นสิ่งที่ชาวชลบุรีอยากให้เกิดขึ้น ท้ายที่สุดอะไรจะต้องเกิดก็ต้องเกิด แต่ถ้าใช้ประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง ใน จ.ชลบุรี จะคลี่คลายในที่สุด และหวังว่าจะมีทางออกที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าทั้งสองคนยังพูดคุยกันได้อยู่หรือไม่ นายสรวุฒิตอบว่า คุยกันได้หมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้พูดพร้อมกัน และด้วยบริบทและสถานการณ์พาไป เป็นการพูดกันคนละที อาจจะรู้สึกว่ารุนแรง แต่ถ้ามีโอกาสมานั่งคุยกันกับผู้ใหญ่ อะไรน่าจะดีขึ้น


เมื่อถามว่า ต้องมีผู้ใหญ่มาประสานพูดคุยหรือไม่ นายสรวุฒิกล่าวว่า คิดว่าจำเป็น เพราะบางทีคุยกันสองคนอาจจะเหมือนน้ำกับน้ำมัน ต้องมีคนเข้ามาช่วยคลี่คลาย แต่การคลี่คลายอาจจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน บางอย่างต้องใช้เวลาช่วยเยียวยา ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ทราบปัญหานี้แล้ว รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นห่วง


เขากล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.พ. ตนได้พูดคุยกับนายกฯ ซึ่งได้สอบถามปัญหาใน จ.ชลบุรี จึงตอบไปว่าไม่น่าจะมีอะไร ส่วนนายกฯ คิดว่าน่าจะมีข้อยุติได้ อย่างไรก็ตาม คนที่จะเข้าใจต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายเคารพนับถือ ปรารถนาดีกับทั้งคู่อย่างจริงใจ อาจจะเป็นนายกฯ หรือหัวหน้าพรรค
รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยกับนายสรวุฒิ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างนายสนธยากับนายสุชาติอย่างละเอียด ว่าต้นสายปลายเหตุเป็นมาอย่างไร ซึ่งนายสรวุฒิได้เล่ารายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายกฯ รับทราบ โดยนายกฯ รับฟัง แต่ไม่ได้มีความกังวลใดๆ พร้อมกล่าวว่า "เดี๋ยวพี่จัดการเอง" ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะมีการเชิญทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยพร้อมกันโดยเร็ว เพราะหากยิ่งช้าไปเรื่องยิ่งจะบานปลายไปมากกว่านี้


วันเดียวกัน มีท่าทีของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ภายหลังนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ยื่นใบลาออกจาก ส.ส.กลางสภา โดยนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ชี้แจงถึงกรณีที่นายมิ่งขวัญระบุว่าพรรคไม่ยอมขับออก ว่า พรรคให้เกียรติสมาชิกพรรคและ ส.ส.ทุกคน การจะขับใครออกต้องมีความผิดชัดเจน ไม่ใช่มาขอให้ขับออกก็จะขับได้ ถ้าอยู่ๆ มาขอร้องกันจะผิดกฎหมาย


นายมนูญกล่าวว่า ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาทำหน้าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ แต่พอดำเนินงานไปแล้วมีปัญหาเรื่องจุดยืนในการปกป้องสถาบัน จึงกลับมาพูดคุยกับสมาชิกพรรค และอีกเหตุผลหนึ่งคือการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่สามารถเอานโยบายมาปฏิบัติจริงได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นนโยบายของพรรค ซึ่งสามารถทำให้สำเร็จได้หากอยู่ฝั่งรัฐบาล


หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ยังเปิดเผยว่า จุดมุ่งหมายของนายมิ่งขวัญคือ ต้องการประสบความสำเร็จทางการเมืองสูงสุดได้ แต่พรรคไม่สามารถนำพานายมิ่งขวัญไปถึงจุดนั้นได้ เพราะมี ส.ส.ไม่ถึง 20 คน พรรคมีจุดยืนด้านเศรษฐกิจและการปกป้องสถาบัน แต่ตนไม่ขอเปิดเผยจุดมุ่งหมายทางการเมืองสูงสุดของนายมิ่งขวัญ ให้ไปถามเจ้าตัว พร้อมยืนยันว่าพรรคไม่ได้มีการรับกล้วย แต่มาเพื่อการปกป้องสถาบัน


ขณะที่นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอแสดงความเสียดายที่สภาฯ และฝ่ายค้านจะต้องเสียบุคคลที่มีประสบการณ์ มีความรู้ และความสามารถอย่างนายมิ่งขวัญ


นายพงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ ให้กับพี่น้องชาวอีสาน และพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์