อนุมัติ5.7พันล. ซื้อครุภัณฑ์รพ. ดูแลผู้ป่วยหนัก

ยอดติดเชื้อรายใหม่ทรงตัว  14,373 ราย เสียชีวิต 27 ราย "กทม." ยังทะลุ 3 พัน "บิ๊กตู่" เร่งฉีดวัคซีนเข็มสอง-บูสเตอร์ให้ ปชช. สั่งฟันพวกขาย ATK ปลอมเด็ดขาด "ครม." ไฟเขียวจัดหาครุภัณฑ์รองรับผู้ป่วยสีเหลือง-แดง รักษาตัวในสถานพยาบาล 17 โครงการ วงเงิน 5,731 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,373 ราย ติดเชื้อในประเทศ 14,046 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 14,007 ราย ค้นหาเชิงรุก 39 ราย เรือนจำ 131 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 196 ราย หายป่วยเพิ่ม 11,551 ราย อยู่ระหว่างรักษา 132,728 ราย อาการหนัก 702 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 145 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 11 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 23 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย

โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยัน 2,622,600 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,467,383 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 22,489 ราย ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 14 ก.พ. จำนวน 207,281 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 120,217,187 โดส สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 413,899,433 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 5,844,419 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 3,180 ราย, สมุทรปราการ 887 ราย, ชลบุรี 548 ราย,  นนทบุรี 512 ราย, ภูเก็ต 469 ราย, นครศรีธรรมราช 429 ราย, นครราชสีมา 354 ราย, นครปฐม 345 ราย, สมุทรสาคร 337 ราย และเชียงใหม่ 317 ราย

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงตอนหนึ่งหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสั่งการและคำปรารภของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่านายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่าอย่าประมาท และต้องคอยเตือนให้ป้องกันตัวเอง แม้ว่าสายพันธุ์โอมิครอนจะมีอันตรายน้อยและอัตราการเสียชีวิตต่ำ โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รณรงค์การฉีดวัคซีนให้ครบสองเข็ม และเร่งฉีดเข็มบูสเตอร์

"นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสุ่มตรวจ ATK ตามท้องตลาด โดยหากพบ ATK ที่เป็นของปลอมให้ดำเนินการจับกุม ทั้งยังสั่งควบคุมราคาให้เหมาะสมเพื่อลดภาระของพี่น้องประชาชน" นายธนกรกล่าว

ถามว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเตียงจะเพียงพอหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงได้รับข้อมูลจาก สธ. ยืนยันว่าเพียงพอทุกประเภท

ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.อนุมัติโครงการในส่วนของการจัดหาครุภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการรองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง (ผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง) ที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเป็นหลักจำนวน 17 โครงการ กรอบวงเงินรวม 5,731 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการกลุ่มที่ 1 ตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 (แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข) ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ

สำหรับโครงการจัดหาครุภัณฑ์ทั้ง 17 โครงการครั้งนี้ เป็นของหน่วยงานภายใต้ สธ. 3 โครงการ ได้แก่ กองบริหารการสาธารณสุข กรมการแพทย์ และกรมอนามัย รวมวงเงิน 5,434.78 ล้านบาท และหน่วยงานนอก สธ. 11 หน่วยงาน เช่น กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม วงเงินรวม 296.52 ล้านบาท รวมทั้งยังอนุมัติโครงการบริหารจัดการนำส่งผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพื่อเป็นค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษระดับพื้นฐานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) จำนวน 5 เดือน กรอบวงเงิน 37.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ให้สำนักงานประกันสังคมเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิงและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ประกอบด้วย การปรับเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ของโครงการเยียวยากิจการสถานบันเทิงจากเดิม 110,669 คน เป็น 138,669 คน หรือเพิ่มขึ้น 28,000 คน และปรับเพิ่มกรอบวงเงินของโครงการเยียวยากิจการสถานบันเทิง จากเดิม 607 ล้านบาท เป็น 747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ครม.ยังอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขยายเวลาโครงการมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิตนักศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน จากเดิมสิ้นสุดเดือนมกราคม 2565 เป็นสิ้นสุดเดือน มี.ค.2565 รวมทั้งยังเห็นชอบให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนขยายเวลาของโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการเสริมศักยภาพสมาชิกสหกรณ์ผู้ทำนาเกลือทะเล จากสิ้นสุดเดือน ก.ย.2564 เป็นสิ้นสุดเดือน มิ.ย.2565 หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดหนักของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และเห็นชอบให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกขยายเวลาดำเนินโครงการแปลงใหญ่กระบือชลบุรีครบวงจร จากสิ้นสุดเดือนธ.ค.2564 เป็นสิ้นสุดเดือน ก.พ.2565

 "ภายหลังการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ครั้งนี้แล้ว จะทำให้กรอบวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 คงเหลือ 97,134.77 ล้านบาท จากทั้งหมด 500,000 ล้านบาท" น.ส.ไตรศุลีกล่าว 

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในครั้งนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบให้จังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี มุกดาหาร สุรินทร์  ร้อยเอ็ด ลำพูนและจังหวัดตาก เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการหรือยกเลิกโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไข เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (พ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท) เช่น โครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่พื้นเมืองเชิงพาณิชย์สู้ภัยโควิด ของจังหวัดมุกดาหาร ได้ขยายเวลาโครงการจากที่สิ้นสุดโครงการในเดือน ธ.ค.2564 เป็นสิ้นสุดเดือน มี.ค.2565 เป็นต้น

จ.นครพนม ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สสจ.นครพนม รายงานพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 71 ราย แยกเป็นติดเชื้อในพื้นที่ 61 ราย ซึ่งยังคงเป็นคลัสเตอร์หมอลำหลายคณะที่กระจายในหลายอำเภอที่จัดงานรื่นเริง รวมถึงคลัสเตอร์งานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อนและโรงเรียนมัธยม ส่วนอีก 10 ราย เดินทางมาจากสกลนคร 5 ราย สมุทรปราการ 2 ราย และเลย, เพชรบุรี,นครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย รวมป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 จำนวน 1,674 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย

จ.ชัยนาท โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคุ้งสำเภา และเทศบาลตำบลคุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ประกาศด่วนแจ้งให้ผู้ที่ไปร่วมทำกิจกรรมวาดภาพระบายสีถนนโครงการลานมีสุขคุ้งสำเภา ที่จัดขึ้นบริเวณเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลเจ้าพ่อกวนอู ต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ.2565 เวลา 17.00-18.00 น. เป็นผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด เนื่องจากตรวจพบมีเด็กนักเรียนรายหนึ่งที่ไปเข้าร่วมทำกิจกรรมติดเชื้อโควิด จึงขอให้ประชาชนและผู้ปกครองที่พาบุตรหลานที่ไปร่วมกิจกรรม สังเกตตัวเองว่ามีอาการไอ มีไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูกหรือไม่ หากมีอาการดังกล่าวให้แจ้ง อสม.หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อรับการประเมินความเสี่ยงและตรวจหาเชื้อโควิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’

“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ