ภท.เนื้อหอมปัดขอ‘รมต.’เพิ่ม

"หนูเปล่านะ เขามาเอง"  "อนุทิน" ปัดดูด ส.ส. เชื่อ "2 พ่อ-ลูกช่างเหลา-สมศักดิ์ พันธ์เกษม" เข้า ภท.ไม่ผิดใจ "บิ๊กป้อม-ธรรมนัส" อ้างเพื่อนกันทั้งนั้น  ย้ำข้อตกลงเดิมช่วงตั้งรัฐบาล ส.ส.มากขึ้นไม่ขอเก้าอี้เพิ่ม ยันพยายามให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม "ลุงป้อม" ไม่สนคน พปชร.ย้ายซบพรรคไหน แค่ค้ำ รบ.เป็นพอ “สมศักดิ์” รับมี 5 ใน 21 ส.ส. "ก๊วนธรรมนัส" อยากกลับ พปชร.จริง แต่คงยาก หวั่นข้อกม. "กกต." ยื้อสอบมติขับ 21 ส.ส. สำนักงานถอนเรื่องคืนตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิก พปชร.ผู้ยื่น 155 คนใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 15 กุมภาพันธ์  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงกรณีนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น อดีตพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท. จะทำให้ผิดใจกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.หรือไม่ ว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คนที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท. จะต้องแสดงความจำนงที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก หากเป็นคนที่ทุ่มเท เสียสละ และไม่มีประวัติด่างพร้อย ก็รับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคได้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกพรรค ภท.เป็นแสนคน

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับทั้งสองคนมานานแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทั้งสองคนคงสนิทกับหลายคนในพรรค ภท. ส่วนนายเอกราช ถูกมองว่าเป็นมือขวาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะทำให้มีปัญหากับร.อ.ธรรมนัสหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า "เพื่อนกันทั้งนั้น พรรคพวกเดียวกันทั้งนั้น อยู่พรรคเดียวกันคนละพวก กับอยู่คนละพรรคพวกเดียวกัน มันดีทั้งคู่"

"ไม่เคยดูด หนูเปล่านะ เขามาเอง" นายอนุทินกล่าวเมื่อถามว่าพรรค ภท.ดูด ส.ส.ไปหลายคน โดยเฉพาะใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ ถือเป็นการเตรียมปูทางไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่

 ถามว่า การที่ ภท.มี ส.ส.เพิ่มมากขึ้นจะทำให้มีการปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการกดดันทางการเมือง หลักๆ แล้วมีอยู่เรื่องเดียวคือโควตารัฐมนตรี ยืนยันว่า ภท.จะอยู่แบบนี้ไปยันจบ คำว่ากดดันจะไม่มีการพูดกันอีกแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้พูดถึงการปรับ ครม. ถ้าจะปรับ ครม. ก็เป็นเรื่องและสิทธิของ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะนี้มีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าง 2 ตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่โควตาของ ภท. ไม่ว่า ภท.จะมีส.ส.กี่คนก็ตาม เราถือว่าเริ่มมาเท่านี้ และยังเป็นช่วงปีสุดท้ายของสภา จึงต้องสนับสนุนและทำงานด้วยกันให้บ้านเมืองและประโยชน์มากที่สุด

เมื่อถามว่า เชื่อว่าการทำงานของรัฐบาลจะอยู่ครบเทอมใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็พยายามให้ครบเทอม และต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมาเข้าใจกันดีมาตลอด ไม่ได้มีความขัดแย้ง อย่าไปผูกกัน การทำงานก็มีความเห็นต่างของหน่วยงาน ไม่ใช่การเห็นต่างในนโยบาย ส่วนที่มีกระแสว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นจุดแตกของรัฐบาล ตนว่าห่างไกลจากจุดนั้นเยอะมาก เพราะเป็นความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน

เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรค ภท.มี ส.ส. จำนวนมาก ในครั้งหน้าจะเป็นแกนนำรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า "ไม่หรอก เจียมเนื้อเจียมตัว เขามาถึงชานเรือนเราก็ต้อนรับ และสัญญาว่าจะทำความดีให้กับบ้านเมือง ถ้าใครผิดสัญญาก็จะไม่เอาไปด้วย แค่นั้นเอง"

ต่อมา เวลา 15.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแกนนำ ภท. ให้การต้อนรับนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ที่มาสมัครเป็นสมาชิก ภท.โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ซึ่งนายอนุทินได้สวมเสื้อแจ็กเกตพรรคให้กับนายสมศักดิ์ เพื่อต้อนรับเข้าสู่พรรคอย่างเป็นทางการด้วย

 จากนั้นนายอนุทินกล่าวว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยได้ให้การต้อนรับนายสมศักดิ์ ในฐานะที่ได้แสดงเจตจำนงที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตัวนายสมศักดิ์และตนมีความสัมพันธ์กันมานับเป็นเวลากว่า 20 ปี เนื่องจากนายสมศักดิ์เคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.การคลัง สมัยที่พ่อของตนคือนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่ง รมช.การคลัง ถือว่าไม่ใช่คนอื่นไกลกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอด

เมื่อถามว่า ส.ส.เข้ามาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเยอะ ช่วยลดแรงกดดันทางการเมืองให้นายกฯ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ช่วยนายกฯ เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ต่อให้ไม่เอ่ยปากเราก็ต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ที่เราต้องมีบุคลากรที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ถ้าอะไรที่ทำแล้วดีเราก็ทำ การที่เรามี ส.ส.มาอยู่ในพรรคเพิ่มขึ้น เท่ากับเพิ่มเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล เวลาที่เหลือจากนั้นรัฐบาลจะได้บริหารบ้านเมืองอย่างมีเสถียรภาพ ถ้าอะไรที่สนับสนุนนายกฯ ให้ทำสำเร็จ เราก็พร้อมจะทำ

 ขณะที่นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขอบคุณนายอนุทินและคณะที่มาต้อนรับตนที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งสาเหตุที่เลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะเราอยู่ในพื้นที่โคราช บ้านท่านก็อยู่โคราช จึงได้ทำงานร่วมกันพอสมควร ท่านมุ่งมั่นพัฒนาเมืองโคราช เราหวังเห็นการนำนโยบายต่างๆ มาพัฒนาเต็มรูปแบบ เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องเลือก จึงตัดสินใจเลือกพรรคที่มีโอกาสทำงานให้บ้านเกิดเมืองนอน

เมื่อถามว่า ได้เคลียร์ใจกับกลุ่มที่ไปพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ เพราะออกมาพร้อมกัน นายสมศักดิ์ระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่ขอตอบ”

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายเอกราชและนายวัฒนา ช่างเหลา สมัครเป็นสมาชิก ภท.ว่า ก็ดี เขาอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็เรื่องของเขา ทำงานให้ประชาชนอยู่ที่ไหนก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ถามเหตุผลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ต้องถามด้วยหรือเขาไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล อยู่ไหนก็ได้ไม่มีอะไรหรอก เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคเศรษฐกิจไทยถึงจุดยืนทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาสนับสนุนรัฐบาล ก่อนหน้านี้ที่โหวตสวนก็มีแค่เรื่องเดียวคือเรื่องสุรา เพราะเขาต้องการช่วยประชาชน จึงให้นำกฎหมายกลับมาที่รัฐบาลก่อน

ส่วนสังคมมองว่าตอนนี้ พล.อ.ประวิตรคุม ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้นั้น พล.อ.ประวิตรตอบว่า จะไปคุมได้อย่างไร เพราะเขาอยู่คนละพรรค ส่วนภาพรวมรัฐบาลไม่มีปัญหา เคยบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่มีอะไรหรอก รัฐบาลจะอยู่ยาว     ถามว่าพรรค พปชร.เวลานี้ดูเหมือนจะเลือดไหล มี ส.ส.ออกจากพรรค พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เลือดไหลอะไร แล้วที่เข้ามาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ตั้ง 50-60 คนทำไมไม่พูด คนดังร่วมด้วยก็มี ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้นไม่บอก

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และที่ปรึกษาหัวหน้า พปชร. กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรค พปชร.ทยอยลาออกจำนวนมากว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครออกเพิ่ม ที่ออกไปแล้วมีแค่ 21 คนเดิม ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามี 5 ใน 21 คนอยากกลับมาอยู่กับ พปชร.นั้น ยอมรับว่าเป็นข่าวที่มีมูล แต่เมื่อไปแล้วคงกลับมาไม่ง่ายหรอก เพราะถ้ากลับมาจะเป็นปัญหาข้อกฎหมายอีก แล้วจะทำให้คนส่วนใหญ่พลอยเกิดความวิตกกังวลไปด้วย ตอนนี้เชื่อว่าปัญหาคงไม่มีอะไรแล้ว มันจบไป          

มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) ​ได้มีการเสนอกรณีนายสมัย รามัญอุดม และพวกรวม 100 คน ซึ่งอ้างตัวเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ใช้สิทธิตามมาตรา 42 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ยื่นคำร้องว่ามติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ส.ส.รวม 21คน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบมติพรรคพลังประชารัฐที่ขับ 21 ส.ส.ออกจากพรรคว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา โดยที่ประชุมเห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องจำนวนสมาชิกที่เป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยสำนักงานควรมีการตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกที่เป็นผู้ยื่นทั้ง 155 คนให้ถูกต้องครบถ้วนก่อน สำนักงานจึงได้มีการถอนเรื่องดังกล่าวกลับมาเพื่อตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงใหม่ ทำให้ขณะนี้ถือว่าคำร้องดังกล่าวยังไม่ได้มีการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม กกต.เห็นว่ากฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จทันภายในกรอบเวลา 30 วันที่ 21 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐซึ่งถูกขับต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัด เพื่อไม่ให้สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส. ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย จึงควรมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง