ติวเข้มสู้ศึกซักฟอก ‘บิ๊กตู่’นำแจงสั่งครม.ตอบทุกคำถาม‘วิปรัฐบาล’ตั้งทีมโต้

“ประยุทธ์” หงุดหงิดถูกจี้ถามศึกอภิปรายไม่ลงมติจะมีเกลือเป็นหนอนไหม ประชุม ครม.ครึกครื้นคึกคัก “บิ๊กตู่” แซวอนุทินจะห้อยพระองค์ไหนเข้าประชุม นายกฯ โวไม่กลัวคำถามเพราะชินแล้ว แต่จะไม่อยู่ตลอดทั้ง 2 วัน เพราะมีภารกิจ “วิษณุ” เก็งข้อสอบพ่วงวางคิวรัฐมนตรีตอบ “ปชป.-ชทพ.” ยันหนุนรัฐบาลต่อเนื่อง “ท็อป” ลั่นเลือดสุพรรณมาด้วยกันไปด้วยกัน

เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มคณะ  โดยครั้งนี้รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ต่างเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง  หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว 7 รัฐมนตรีได้พร้อมใจทำหนังสือลาประชุมเพื่อคัดค้านเรื่องการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ภายหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนสั้นๆ ระหว่างเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้กลัวจะมีสภาพเกลือเป็นหนอนหรือไม่ ว่า “เกลือไม่เป็นหนอนหรอก” พร้อมกับหันมาชี้ที่กลุ่มสื่อมวลชน และระบุว่า อยู่แถวนี้แหละ  ด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ช่วงต้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ. ว่าจะพูดเปิดให้ก่อน แล้วให้ ครม. ส.ส.ของรัฐบาลลงรายละเอียด ซึ่งใน 2 วันดังกล่าวคงไม่ได้อยู่ทั้งวัน เนื่องจากมีภารกิจอีกหลายงาน เช่น พบทูตที่เลื่อนมาหลายรอบแล้ว จึงจะเข้าสภาในช่วงเช้าและเย็นของทุกวัน

จากนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้อธิบายเรื่องการยื่นญัตติตามมาตรา 152 ว่าไม่เหมือนมาตรา 151 เพราะมาตรา 152 เป็นการอภิปรายทั่วไป ไม่มีการลงมติ ส่วนมาตรา 151 เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งประธานสภาฯ คงมีวิธีควบคุมเกมในสภาให้อยู่ในกรอบได้อยู่แล้ว เพื่อให้อยู่ในลักษณะของการซักถามและเสนอแนะ ไม่ใช่การด่าทอ และอย่าให้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

นายวิษณุยังคาดการณ์กันว่า น่าจะเริ่มต้นอภิปรายด้วยการบอกว่ารัฐบาลนี้มาจากการยึดอำนาจ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ คนละเรื่องกัน และในประเด็นในญัตติที่ฝ่ายค้านเขียนมา 2 หน้านั้น แยกได้ 15 ประเด็น ประเด็นไหนเกี่ยวกับใครให้ลุกขึ้นชี้แจง เช่น เรื่องปฏิรูปการเมืองและเรื่องรัฐธรรมนูญตนเองจะตอบเอง ส่วนเรื่อง PM 2.5 ให้ รมว.ทรัพยากรฯ เป็นคนตอบ เรื่องน้ำมันรั่วให้ รมว.พลังงานเป็นคนตอบ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า “ผมไม่ได้กลัวอะไร ผมชินแล้ว มั่นใจว่าตอบได้ทุกคำถาม” ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แจกหนังสือธรรมะของ ว.วชิรเมธี ให้กับ ครม.พร้อมกับกล่าวว่า “ศาสนาจะเป็นแกนสำคัญ ทำให้จิตใจสงบ และผมจะไม่อ่านโซเชียลมากมายแล้ว เอาธรรมะมาข่มให้มีสติ ถ้าเกลียดคนอื่น ความทุกข์ก็จะมาอยู่ที่เรา ทำดีได้ดี ใครทำกรรมอะไรก็จะได้ตามนั้น ผมสวดมนต์อยู่ทุกวัน”

   ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แซวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ที่มักห้อยพระเครื่องเป็นประจำว่า “ส่วนใหญ่รองอนุทินมักห้อยพระที่มีพุทธคุณเมตตามหานิยม” พร้อมถามนายอนุทินว่า “รอบนี้เราจะห้อยพระอะไรเข้าสภาดี” ทำให้นายอนุทินและ ครม.หัวเราะกันครื้นเครง

“บิ๊กตู่” นำแจงทุกเรื่อง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม. ถึงข้อสั่งการและคำปรารภของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่านายกฯ กำชับ ครม.ให้เตรียมความพร้อมตอบคำถามและชี้แจงในญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ โดยนายกฯ จะเป็นผู้กล่าวเปิดในแต่ละประเด็นซักถาม เพราะรู้หลักการทั้งหมด ส่วนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ให้รายละเอียด เพราะเป็นผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ นายกฯ ได้ย้ำว่า แม้ไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ แต่อยากให้สื่อสารชี้แจงทั้งในสภาและนอกสภา เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และชี้ให้เห็นว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และรัฐบาลแก้ไขไปแล้วอย่างไร

นายธนกรยังตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติและเรื่ององค์ประชุมว่านายกฯ ชี้แจงว่านายกฯ และ ครม.พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง ไม่ได้กังวลเรื่องใดเป็นพิเศษ การพูดและการแสดงใดๆ ในสภาเป็นเรื่องของสังคม ฝ่ายใดจะเสนอนับองค์ประชุมก็คอยดู

เมื่อถามว่า สมัยประชุมสภาหน้าช่วงเดือน พ.ค. ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อถอดถอน รัฐบาลเตรียมเรื่องเสียงไว้อย่างไร โดยเฉพาะกระแสข่าว 260 เสียงของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. จะช่วยได้หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าสนใจ แต่เพียงว่าเราจะทำวันนี้วันพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร แก้ปัญหาความเดือดร้อนประเทศชาติประชาชนในช่วงนี้อย่างไร เรื่องคะแนนเสียง เรื่องพรรคการเมือง เป็นเรื่องของสภาและ ส.ส. จะมองว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ประเทศชาติ ประชาชน กับการเอาชนะกันทางการเมืองในทุกเวที

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าโพย 260 เสียง น่าจะเป็นเสียงสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองมากกว่า นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าเป็นเรื่องของวิเคราะห์ สำคัญอยู่ที่ประชาชน การเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือมีอุบัติทางการเมืองอะไรเกิดขึ้น ใครทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนเดือดร้อน ประชาชนจะมีความเชื่อมั่นหรือไม่

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงความพร้อมการอภิปรายในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ว่า เตรียมอยู่ตลอด ก็เหมือนกับตอบกระทู้สด ถามอะไรก็ตอบไป เราทำอะไรไว้บ้างก็ตอบไป ไม่มีอะไรหรอก กระทรวงไหนทำอะไรก็ให้เขาตอบไป

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ประเด็นที่ต้องชี้แจงอยู่ในญัตติขอเปิดการอภิปรายคือเรื่องยาเสพติดจากกรณีมีการส่งออกยาเสพติดผ่านไทยไปยังต่างประเทศ โดยจะนำผลงานและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายยาเสพติดมาใช้ชี้แจง เพื่อให้เห็นภาพที่แตกต่างระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งในช่วงเดือน ก.พ.นี้มีผลงานออกมาที่สามารถปราบปรามจับกุมยาเสพติดได้มูลค่าหลายร้อยล้านบาท และยึดทรัพย์ด้วย

 “ฝ่ายค้านคงพุ่งเป้าไปเรื่องการส่งยาเสพติดไปยังต่างประเทศ ตนจะนำรูปที่สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่เขาแสดงความพอใจต่อการดำเนินการของเราในการปราบปรามยาเสพติดมาบอกด้วย”

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอความร่วมมือรัฐมนตรีคนอื่นๆ อย่างไรบ้าง นายสมศักดิ์กล่าวว่า นายกฯ จะกล่าวนำในช่วงต้นก่อนการอภิปราย และในช่วงท้ายหลังการอภิปราย ส่วนคำถามในแต่ละประเด็น รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ จะเป็นผู้ตอบ เพราะเป็นการอภิปรายซักถามและแนะนำรัฐบาล ไม่มีการลงมติ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า มีการลิสต์ประเด็นของฝ่ายค้าน และที่ประชุม ครม.ได้สรุปญัตติให้ดูกันว่าฝ่ายค้านจะพูดเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่จะเตรียมชี้แจง เช่น เรื่องของแพง เรื่องประมง เรื่องการทุจริต โดยนำมาไล่ดูว่าในแต่ละญัตติของฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องใดขึ้นมาพูดบ้าง และให้เตรียมชี้แจงในประเด็นนั้น

เชื่ออภิปรายไร้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุม ครม.ได้มอบให้รัฐมนตรีแต่ละคนไปชี้แจงประเด็นเรื่องใดหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า มี โดยบอกสรุปญัตติว่าเรื่องนี้เป็นของใคร ใครจะไปดู แต่ยังไม่ได้วางตัวบุคคล เพราะต้องดูตามสถานการณ์ ถ้าฝ่ายค้านพูดพาดพิงกระทรวงไหนหรือเกี่ยวข้องกับใครก็ไปชี้แจง หรือบางทีเป็นเรื่องคณะกรรมการที่รองนายกฯ กำกับดูแลอยู่ รองนายกฯ ก็ต้องเป็นผู้ชี้แจง

เมื่อถามว่า กระทรวงดีอีเอสอยู่ในลิสต์ที่จะถูกอภิปรายหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่น่ามี ดีอีเอสไม่มีปัญหาอยู่แล้ว 

นายชัยวุฒิยังกล่าวถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะช่วงการอภิปราย นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหา เป็นเรื่องข้อกฎหมายมากกว่า ซึ่งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยกำลังหารือกันอยู่ว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องปัญหาของการเมืองเลย

เมื่อถามว่าถึงวันนี้ยังมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไปตลอดรอดฝั่ง ไม่ล่มอับปาง นายชัยวุฒิกล่าวว่า พูดตลอดว่ามั่นใจ ไม่มีปัญหาหรอก

นายอนุทินกล่าวถึงการอภิปรายว่า  นายกฯ จะพูดในภาพรวม และให้ทุกคนช่วยกันชี้แจง ถ้าหน่วยงานไหนถูกพาดพิงก็ช่วยกัน

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวประเด็นนี้ว่า รัฐมนตรีทุกคนทราบหน้าที่ดีอยู่แล้วในการช่วยกันตอบในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ขณะที่ฝ่ายค้านสามารถเสนอข้อคิดเห็นมาได้  หากเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีคนไหน  รัฐมนตรีคนนั้นก็มีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนนายกฯ จะเป็นผู้พูดในภาพรวม สำหรับกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมตอบหากมีคำถามอะไร เรื่องราคาสินค้านั้น โดยตอนนี้ พณ.ได้เข้าไปกำกับควบคุมดูแล และเมื่อพบการกระทำความผิดก็ได้ไปดำเนินคดี ทำให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้นแล้ว

“ไม่ได้เป็นห่วงอะไร ไม่กังวล และพร้อมจะอธิบาย พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง ซึ่งย้ำอยู่บ่อยครั้ง เราทราบหน้าที่ดี พรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในระบบรัฐสภานั้นก็มีหน้าที่ต้องสนับสนุนรัฐบาล เพราะรัฐบาลในระบบนี้ ต้องอาศัยเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นเมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องสนับสนุนรัฐบาล ยกเว้นแต่เป็นอย่างอื่น ตรงนี้เป็นหน้าที่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลกับพรรคประชาธิปัตย์”

นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​ (ชทพ.)​ กล่าวว่า กระทรวงและตนทำงาน​มาโดยตลอด​ แต่ในการทำงานแต่ละกรม อาจจะมีข้อติดขัดอะไรบ้าง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหากจะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบ และไม่ได้ทำการบ้านอะไรเป็นพิเศษ​ ขณะที่​ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้กำชับอะไร​ ต่างคนต่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในแต่ละบทบาทแต่ละกระทรวง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่าต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกัน นายวราวุธกล่าวว่า ในบทบาทของ ทส.​ หากมีอะไรที่เกี่ยวข้องก็ยินดีที่จะตอบ และการอภิปรายครั้งนี้ บางครั้งใครมีข้อมูลอะไร ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็จะช่วยกันทำงาน

ถามถึงกรณี ทส.จะถูกอภิปรายเรื่องเหตุน้ำมันรั่วที่​ จ.ระยอง​ นายวราวุธกล่าวว่า ยินดีที่จะชี้แจงให้กับประชาชนรับทราบว่าในส่วนของ ทส.ได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง และถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหน่วยงานอื่นหรือกระทรวงอื่น เราก็จะไม่ก้าวก่าย ปล่อยให้เจ้ากระทรวงเป็นผู้ชี้แจงต่อไป

ตั้งทีมชี้แจงนอกสภา

เมื่อถามว่า​ แม้ครั้งนี้จะไม่มีการลงมติ​ แต่​ 12​ เสียง​ ชทพ.ยังหนุนรัฐบาลอยู่หรือไม่​ นายวราวุธกล่าวว่า เราอยู่กับรัฐบาลตั้งแต่เริ่มยันจบ เราทำงานร่วมกัน​ ลงเรือด้วยกันแล้ว​ เราก็ส่งเรือให้ถึงฝั่ง​ ชทพ.ไม่เคยเกเร​ ตั้งแต่สมัยนายบรรหาร​ ศิลปอาชา​ อดีตนายกฯ ตอนนี้ยังเป็นเช่นนั้น เราทำงานในฐานะคนที่อยู่เรือลำเดียวกัน

เมื่อถามว่า​ พรรค ภท.ระบุว่ามาด้วยกันไปด้วยกัน​ แล้ว​ ชทพ.ว่าอย่างไร​ นายวราวุธกล่าวว่า​ เพลงเลือดสุพรรณร้องว่า มาด้วยกันๆ​ เลือดสุพรรณเอ๋ย​ ฉะนั้น มาด้วยกันแล้วก็ต้องเดินทางด้วยกันต่อไป

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้หารือและมีข้อสรุปร่วมกัน ว่าจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายตามญัตติที่เสนอต่อสภา และร้องขอให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลร่วมการประชุมเพื่อแสดงความพร้อมหลังจากที่ฝ่ายค้านเล่นเกมล่มประชุมสภาในทุกสัปดาห์

นายชินวรณ์ยังกล่าวว่า ในการชี้แจงของรัฐมนตรีที่บางเรื่องอาจเป็นข้อมูลเชิงลึก และมีรายละเอียดที่ไม่สามารถเปิดเผยผ่านที่ประชุมสภาได้ วิปรัฐบาลได้หารือว่าจะให้ทีมโฆษกรัฐบาลและวิปรัฐบาลชี้แจงรายละเอียดแต่ละประเด็นภายหลังการอภิปราย เพื่อให้ประชาชนได้รับความเข้าใจที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์ โดยทีมวิปรัฐบาลนี้จะคอยมอนิเตอร์ประเด็นว่าเรื่องใดหรือมีข้อมูลใดควรเผยแพร่เพิ่มเติม หรือคู่ขนานจากสิ่งที่รัฐมนตรีได้ชี้แจง เพื่อให้สังคมเกิดขึ้นเข้าใจ แต่ไม่ใช่ทีมตอบโต้นอกสภา

 ส่วนนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านเตรียมความพร้อมทุกอย่าง ยืนยันจัดหนักจัดเต็มในทุกมิติ ซึ่งท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงหลังออกอาการชัดเจนกลัวว่าจะโดนหักหลังจากพรรคร่วมรัฐบาล จากพฤติกรรมที่ผ่านมา การประชุมสภาที่ล่มถึง 17 ครั้ง เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าพรรคร่วมแตกความสามัคคีแน่นอนแล้ว เพียงแต่ทุกวันนี้ที่เชื่อมั่นก็เป็นเพียงการออกมาปลอบใจตัวเองเท่านั้น

“กรณีที่นายอนุทินยืนยันว่าสามารถรวบรวม ส.ส.ได้มากถึง 260 คนนั้น อยากถามว่าแน่ใจหรือ พรรคร่วมรัฐบาลก็รู้ดีว่ารัฐบาลไปไม่ไหวแล้ว หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังลากอำนาจต่อไป ประชาชนคงลำบากกว่านี้ หากฝืนต่อไปประชาชนคงหมดความอดทนและไม่ยอมรับรัฐบาล รวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนพร้อมให้บทเรียนคนที่ทรยศต่อศรัทธาประชาชนแน่นอน” นายสมคิดกล่าว.