ยํ้า‘สายสีเขียว’ยึดกม. ‘ศักดิ์สยาม’บี้แจง‘หนี้’

“ประยุทธ์” สยบข่าวเกาเหลาสายสีเขียว ยืนแถลงข่าวร่วม “อนุทิน-ศักดิ์สยาม” ยันทุกอย่างทำตามกฎหมาย “บิ๊กตู่-เสี่ยหนู” ปัดข่าวประชุม ศบค.อึมครึม น้องเนวินย้ำต้องตอบคำถามเรื่องหนี้ให้ชัดเจน วิษณุชี้เดินหน้าได้ทางกฎหมาย แต่ทางการเมืองยังต้องลุ้นต่อ “อัศวิน” ลั่นตอบไปแล้ว 8 รอบ ขึ้นกับผู้ใหญ่ตัดสินใจ

เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.พ. หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 3/2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงข่าว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข รวมทั้งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ยืนอยู่ด้านหลังนายกฯ ด้วย

เมื่อถามว่า วันนี้มีนายอนุทินและนายศักดิ์สยามมายืนร่วมแถลงด้วย ต้องการจะเคลียร์อะไรหรือไม่ ซึ่งทันทีที่ถามจบ นายอนุทินและนายศักดิ์สยามหัวเราะออกมา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะตอบว่า "จะต้องเคลียร์อะไรกับเขาล่ะ มีอะไรต้องเคลียร์" เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเรื่องการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องพิจารณา ก็ว่ากันไป กฎหมายทำได้ก็ทำได้ ก็แค่นั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวว่าบรรยากาศในที่ประชุม ศบค.เป็นไปอย่างอึมครึม พล.อ.ประยุทธ์ย้อนว่า "เหรอ คุณเข้าไปอยู่ในห้องนั้นเหรอ คุณรู้เหรอว่ามันอึมครึม ไม่เห็นอึมครึมเลย ผมก็พูดเสียงดังฟังชัดของผมตลอดเวลา และฟังข้อมูล  เห็นใจเจ้าหน้าที่เขาทำมาแทบตาย ฟังเขาซะบ้างสิ โอเคนะ ผมตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่ถูกต้อง พอละ" ก่อนที่นายกฯ จะเดินออกจากโพเดียม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ศบค.ครั้งนี้ เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์, นายอนุทิน, นายศักดิ์สยาม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ภายหลังเกิดเหตุรัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่เข้าร่วมประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

มีรายงานว่า บรรยากาศในการประชุม ศบค.เป็นไปอย่างอึมครึม โดย พล.อ.ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ขณะที่นายอนุทินนั่งขวามือนายกฯ และอยู่ตรงกลางระหว่างนายกฯ กับ พล.อ.อนุพงษ์ มีรายงานด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มองหน้าตรงๆ กับนายอนุทิน แต่หันเอียงไปทาง พล.อ.อนุพงษ์เสียเป็นส่วนใหญ่

ด้านนายอนุทินกล่าวถึงกระแสข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม ศบค.ชุดใหญ่  พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์เชิญนายอนุทินและนายศักดิ์สยามไปหารือที่ห้องสีเหลือง ภายในตึกสันติไมตรี  เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ไม่มีๆ เพราะไม่มีอะไรผิดใจกัน ทุกอย่างเป็นตามขั้นตอน หลังเสร็จการประชุม ศบค. นายกฯ ก็พัก 5-10 นาที แล้วก็เดินกลับตึกไทยคู่ฟ้า พวกเราเดินตามไปส่งนายกฯ 

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวด้วยว่าการประชุม ศบค.บรรยากาศอึมครึม  นายอนุทินย้อนว่า “คุณรู้ได้อย่างไร นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ และผมนั่งถัดมาติดกับท่านนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์นั่งฝั่งขวามือของผม ท่านก็ถามผม ผมไปหาคำตอบให้ท่าน ยืนยันว่าไม่มีอะไร นี่เป็นการทำงาน เป็นเรื่องปกติ”

เมื่อถามว่า ในการหารือดังกล่าวได้พูดคุยกันถึงเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้ แต่เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว นายกรัฐมนตรีบอกว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามอีกว่า ในความเห็นต่างในการทำงานของพรรคภูมิใจไทย นายกฯ ยอมรับได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯบอกให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ทำตามความถูกต้อง นี่คือข้อสั่งการของนายกฯ

ส่วนนายศักดิ์สยาม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  ยังรอคำตอบจากกระทรวงมหาดไทยอยู่ หากยังไม่ได้รับคำตอบก่อนนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. กระทรวงคมนาคมยังยืนยันเหมือนเดิม ส่วนกรณี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่าให้คำตอบไปแล้ว 8 รอบนั้น ที่ตอบ 8 รอบนั้นตอบอะไร การตอบ 8 รอบต้องตอบให้เคลียร์ ได้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายหรือไม่

เมื่อถามว่า หาก ครม.ยืนยันโหวตและยืนยันตามเสียงส่วนใหญ่ พรรค ภท.มีปัญหาอะไรหรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เราก็ใช้เอกสิทธิ์แค่นั้นเอง เป็นเรื่องปกติ เวลาประชุมไม่ได้หมายความว่าความเห็นต้องเหมือนกันหมดอยู่แล้ว เราก็พิจารณาจากข้อเท็จจริงตามข้อกฎหมายที่เราเห็น หากเห็นว่าเรื่องนี้ยังมีความไม่เรียบร้อยเราก็ต้องสงวนความเห็นแค่นั้น 

ถามว่าถึงขั้นถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ไม่เกี่ยว คนละเรื่อง เพราะในการประชุม ครม.หลายครั้งมีเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน ปกตินายกฯ จะบอกให้กลับไปหารือกันมีแค่นั้น

เมื่อถามว่า จุดยืนของกระทรวงคมนาคมคืออะไร นายศักดิ์สยามกล่าวว่า  ทุกเรื่องต้องทำตามระเบียบกฎหมายและมติ ครม. ต้องเอาข้อเท็จจริงมาดูว่าได้ทำตามนั้นหรือไม่ ประเด็นที่อยากให้ดูคือเรื่องหนี้ที่นำมาใช้ในเรื่องนี้ว่ามีระเบียบกฎหมายรองรับหรือไม่ ถ้าอธิบายได้ว่าหนี้เกิดขึ้นโดยการดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าอธิบายไม่ได้แล้วเอาหนี้ที่ไม่มีระเบียบกฎหมายรองรับมาดำเนินการขยายสัญญาตรงนี้   เป็นอะไรที่อันตราย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณี 7 รัฐมนตรีของพรรค ภท.ไม่ร่วมโหวต หรือโหวตโน ในเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะอาจเกี่ยวโยงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ว่า ปกติแล้วการไม่เข้าร่วมประชุม ครม. หรือเข้าประชุมแล้วไม่ร่วมโหวต หรือโหวตไม่เห็นด้วย ทั้งหมดจะตั้งต้นด้วยสมมติฐานว่าผิด และถ้ามันผิดก็ไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 157 แต่รับผิดทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ซึ่งบัญญัติว่า ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกันในการกำหนดนโยบายและการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ความรับผิดเป็นรายๆ ก็จะเหมือนกับคดีหวย 2-3 ตัว ที่รัฐมนตรีคนใดไม่เข้าประชุมก็ถือว่าไม่เกี่ยว ต้องรับผิดตามมาตรา 157 แต่ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าผิด แต่ถ้าไม่ผิดขึ้นมาก็อีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่า หากเกิดกรณีดังกล่าวจะมีผลต่อมติ ครม.นั้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ดังนั้นจึงถือว่ามติ ครม.สมบูรณ์

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.อัศวินระบุว่าได้ตอบข้อชี้แจง 4 ข้อของกระทรวงคมนาคม และส่งไปที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว นายวิษณุตอบว่า ยังไม่เห็นในส่วนนี้ หากตอบมาใหม่ ก็ต้องมาชี้แจงใน ครม.ใหม่

ถามอีกว่า หากรัฐมนตรีของพรรค ภท.ยังไม่เห็นด้วยกับข้อชี้แจง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในทางกฎหมายเดินหน้าต่อไปได้ แต่ในทางการเมืองจะสามารถเดินหน้าได้หรือไม่ อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะปกติมติ ครม.ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความเห็นชอบร่วมกันหมด เรื่องการโหวตและการไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียงมีหลายครั้ง แต่ไม่เคยทำเป็นพักๆ แบบนี้ ส่วนมากรัฐมนตรีก็นั่งอยู่ในห้องประชุม ครม. และอภิปรายว่าไม่เห็นด้วย ซึ่งในการโหวตของ ครม. เคยมีการโหวตอยู่เหมือนกันประมาณ 1-2 ครั้งในกรณีจำเป็น เช่นในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่ท้าให้โหวตบ่อย

เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ห่วงๆ แต่ถ้าพยายามทำให้เรียบร้อยได้ก็จะเป็นเรื่องดี ที่บอกว่าไม่ห่วง ไม่ใช่ว่าไม่แคร์ หรือไม่สนใจ ครม. เป็นรัฐบาลผสม ก็ต้องแคร์กัน และพยายามที่จะประคับประคอง ซึ่งการที่ ครม.ไม่ได้พิจารณาให้เสร็จในครั้งที่แล้ว และรอให้โอกาสกระทรวงมหาดไทยจะชี้แจงต่อไป ก็ถือว่าได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว ถือเป็นการประนีประนอม“

เมื่อถามว่า นายวิษณุมีทางออกในเรื่องนี้แล้วหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่มีหรอก”

ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวในเรื่องนี้ว่า ต้องถาม พล.อ.อนุพงษ์ เพราะเราได้ตอบเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยสอบถามมา 4 ประเด็นไปแล้วหลายครั้ง จึงหมดหน้าที่เรื่องนี้แล้ว ส่วนการพิจารณาแล้วแต่ผู้ใหญ่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาจะจบในสมัยของผู้ว่าฯ อัศวินหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดมานานแล้วตั้ง 20-30 ปี ไม่ได้เกิดในสมัยตนเอง ฉะนั้นอย่างไรก็ได้ เพราะมีหน้าที่เพียงสานต่อและได้หารือกับทุกภาคส่วน ทำให้ถูกต้องตามกระบวนการและกฎหมายแล้ว ผลออกมาจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ ทำตามคำสั่งอย่างเดียว

เมื่อถามย้ำว่า ได้ตอบคำถามที่ถามมากลับไปหรือยัง ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ได้ตอบกระทรวงมหาดไทย ตอบแบบนี้ 8 รอบแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์