‘อนุทิน’ปัดเล่นเกม ลั่นไม่แก้ก็โหวตโน

"อนุทิน" ยันเห็นต่างสายสีเขียวเป็นเรื่องการทำงาน ไม่เกี่ยวสัมพันธ์พรรคร่วมทำรัฐบาลคว่ำ ออกตัวถ้าปรับตามความเห็นคมนาคมพร้อมเอาด้วย แต่ถ้าเพิกเฉย รมต.ต้องรับผิดชอบส่วนบุคคล ขณะที่ 7 รมต.ภท.มีคำชี้แจงออกตัวไว้แล้ว เผย รมต.ภูมิใจไทยแสดงจุดยืนชัด หาก มท.ไม่แก้ตามความเห็น ก็แค่ "โหวตโน" 

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข   ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ 7 รัฐมนตรีพรรค ภท. ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่พิจารณาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในอนาคตหรือไม่ ว่าต้องดูเป็นประเด็นๆ ไป เพราะกระทรวงคมนาคมได้ทำความเห็นออกมาแล้วเป็นหนังสือ 8 ฉบับ และหากกระทรวงคมนาคมคลายความกังวลหรือข้อวิตกแล้วก็ดำเนินต่อไปได้

เราไม่ได้ไม่เห็นชอบเรื่องต่อหรือไม่ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่เราต้องการความชัดเจน ขอให้ทำตามขั้นตอนที่ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังขาดอยู่ คือเรื่องการรับโอนทรัพย์สินจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มอบให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ถือเป็นส่วนเดียวที่คมนาคมเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าหากสุดท้ายกระทรวงมหาดไทยและ กทม.แก้ไขแล้วยังไม่ตรงกับที่กระทรวงคมนาคมต้องการจะมีผลอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่าต้องไปถามนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เกี่ยว นี่เป็นเรื่องความเห็นของการทำงานที่ ครม.มีสิทธิเห็นไม่ตรงกันได้

 “ถ้าให้ภารกิจนี้เดินต่อไป ก็ต้องลงมติ  แต่ถ้าคนที่เห็นว่ายังผิดอยู่เขาสามารถสงวนสิทธิ์ได้ และเป็นสิ่งที่พรรค ภท.ทำมา ไม่ได้ขัดขวางอะไรเลย และที่เราไม่เข้าประชุม ครม. เพราะเห็นมีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้ามาล่วงหน้า และก่อนหน้านี้ก็ได้นำความกราบเรียนนายกฯ ตลอดเวลา เรามีความลำบากใจในประเด็นนี้ และถ้าจะให้ผ่านไปโดยไม่ต้องทะเลาะโต้เถียงกันหรือปะทะคารมกัน ชี้แจงกันไปกันมาทำให้บรรยากาศการประชุมเสีย เราจึงทำความเห็นเป็นหนังสือชี้แจงเหตุผลของทั้ง 7 คนไป ซึ่งเราก็นึกว่าเรื่องผ่านไปแล้ว” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่า หลังการประชุม ครม.ได้ชี้แจงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมแล้วหรือยัง นายอนุทินตอบว่า ได้ชี้แจงแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันอังคาร ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกฝ่ายรับทราบกันหมด ทั้งทีมงานนายกฯ ก็ได้ประสานงานโทร.คุยกันหมด เมื่อถามว่าพรรค ภท.เล่นไม้เดิมเวลาพิจารณาเรื่องนี้ก็จะมีคำถามใหม่ของกระทรวงคมนาคมเพิ่มมาตลอด ภูมิใจไทยเล่นอะไร นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้เล่นอะไรเลย ถามนำอีกแล้ว ตรงไปตรงมา

 เมื่อถามย้ำว่า การที่รัฐมนตรีไม่เข้าประชุม ครม. 7 คน เป็นการส่งสัญญาณต่อไปจะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในเรื่องสายสีเขียวใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหน ไม่ใช่พวกมากลากไป ไม่ใช่ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้ ถ้าคิดอย่างนั้นได้ก็ไม่ต้องมีอะไรมาเข้าที่ประชุม ครม. อย่างนี้ถ้าตนอยากบรรจุข้าราชการสาธารณสุขอีก 5 หมื่นคน ตนก็ทำได้เลย ไม่ต้องมาเข้า ครม. เพราะสุดท้ายต้องเป็นเรื่องที่เราต้องมาหารือในรัฐบาล และหากประเด็นยังค้างคา ก็ต้องนำไปแก้ไขให้ถูกต้อง ทุกฝ่ายรับได้ นั้นคือเป้าหมาย ถ้าหากรับไม่ได้จริงๆ ก็ต้องโหวต

รองนายกฯ กล่าวว่า พรรคเห็นว่า ครม.มี 36 คน ถ้าจะผ่านให้ได้โหวตอย่างไรเราก็แพ้อยู่แล้ว เพราะมีเสียงเพียง 7 ต่อ 36 แต่ทำไมเราต้องไปถึงจุดนั้น ทำไมต้องทำความลำบากใจมาให้นายกฯ เราจึงทำหนังสือสงวนสิทธิ์ของเราไปให้นายกฯ และหากนายกฯ เห็นว่ามันต้องผ่านก็ผ่านมติ ครม. ก็นำไปปฏิบัติได้ แต่ถ้ามีเรื่องราวอะไรภายหลังร้องเรียนคดีความต่างๆ ครม.ก็ต้องรับผิดชอบส่วนบุคคลอยู่ แต่รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรค ภท. ก็มีหนังสือยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่นำเสนอในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ในรัฐบาล เพราะยังดีอยู่ ปึ้กแน่นอน ฟังเสียงปึ้กดูก็รู้

นายอนุทินกล่าวว่า ขอย้ำว่าถ้ามีการปรับปรุงอะไรแล้วเราไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนทรัพย์สินระหว่าง รฟม.และ กทม. เพราะยังเป็นสมบัติของ รฟม. ที่เป็นหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ซึ่ง กทม.ก็ควรโอนให้เรียบร้อย รฟม.พร้อมแล้ว

เมื่อถามถึงสัญญาณทางการเมืองที่เกิดขึ้นต่างๆ หลายคนมองว่าน่าจะมีการยุบสภา รองนายกฯ ตอบว่า หลายคนที่ว่าอยู่ข้างนอกทั้งนั้น หลายคนที่ว่านั้นอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ได้คุยไลน์กับ พล.อ.ประยุทธ์และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หลายคนที่ว่านั้นรู้ว่าในไลน์กลุ่มครม. คุยอะไรกันหรือไม่ อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่เหตุบังเอิญที่จะไปเรียกร้องหรือต่อรอง ถ้าต่อรองไม่มีแค่ 7 รัฐมนตรีหรอก

นายอนุทินกล่าวว่า การไปของรัฐบาลมาจาก 1.นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง 2.นายกฯ ลาออก 3.นายกฯ ยุบสภา และ 4.รัฐบาลไม่ได้รับความไว้วางใจ ในส่วนนี้ต้องรวมที่ตัวนายกฯ ด้วย เรื่องเหล่านี้มีข้อกำหนดอย่างชัดเจน

เมื่อถามว่า หากความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเศรษฐกิจไทย ยังเป็นแบบนี้อยู่ มีโอกาสเสี่ยงที่จะตายคาสภาและยุบสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามคนที่ยุบสภา เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด สิ่งที่เราทำได้ไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์คือการทำหน้าที่ของเรา โดยทำหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้เถียงและความเห็นที่ไม่ตรงกันในที่ประชุม ครม. เรื่องนี้เป็นเรื่องการทำงานของแต่ละคน เราไม่ใช่นักบู๊และตีรันฟันแทง เราใช้สติทำงาน

ถามว่า ในการประชุม ครม.สัปดาห์ต่อไป รัฐมนตรีของพรรค ภท.จะเข้าประชุมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว และเคลียร์กันหมดแล้ว จากนี้ไปจะไม่มีการไม่เข้าประชุม ครม.แล้ว ถ้าเข้าประชุมหมายความว่าพร้อมที่จะรับฟังนายศักดิ์สยาม จะเข้ามาซักถามหรือโต้แย้ง หากนายกฯ เห็นว่ามีความจำเป็นและต้องดำเนินต่อไปในทางใดทางหนึ่ง นายกฯ ก็สามารถสั่งการได้ เราถือว่าเราหลบและหมอบแล้ว ในเรื่องของความเห็นไม่ตรงกัน พูดให้ชัดเจนคือ เมื่อถึงเวลาโหวตแล้วไม่เกิดการแก้ไขอะไรเลย เราก็โหวตโน แต่ถ้าแก้ไขมา และไม่มีความกังวลว่าจะมีอะไรตามมาบ้างหลังจากที่พ้นตำแหน่งและถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง ค่าโดยสารถูกลง เรามีแต่จะเร่งให้รีบโอนและทำให้สำเร็จโดยเร็ว 

ซักว่าการเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นการกดดันให้นายกฯ หนักใจ และให้นายกฯ ต้องเลือกระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กับนายอนุทินใช่หรือไม่ นายอนุทินส่ายหัวพร้อมกล่าวเสียงดังว่า “ระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์กับนายอนุทิน ไม่ต้องถามเลยว่านายกฯ จะเลือกใคร ท่านเป็นพี่น้องกัน ผมรู้สี่รู้แปด รู้ใหญ่รู้เล็ก ไม่ได้เทียบกันตรงนั้น คนละเรื่องกัน ผมไม่ต้องการให้เลือก เพราะต้องเลือกประชาชน”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า หากประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังไม่จบ อาจจะทำให้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 157 นายอนุทินกล่าวว่า เราทำตามหน้าที่ที่พึงปฏิบัติทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร มีแต่เจตนาที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชน มุมมองของแต่ละฝ่ายแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติของการทำงาน

ถามว่า ไม่อยากซ้ำรอยแบบเมื่อตอนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ใช่หรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ครั้งเดียวก็เกินพอ

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ในวันศุกร์นี้รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยจะเข้าร่วมประชุม ศบค.อย่างพร้อมเพรียง

นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม กล่าวว่า กมธ.คมนาคมได้ติดตาม ตรวจสอบ เสนอแนะโครงการดังกล่าวมาอย่างใกล้ชิด และเคยมีมติไปแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนจะเชิญใครมาซักถามเพิ่มเติม ตนคิดว่าไม่ใช่แล้ว ไม่อยากให้วนแบบเก่า ถ้าเชิญมาให้ข้อมูลก็วนแบบเดิม ซึ่งต้องเดินหน้าต่อ โดยสังคมจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครผิดใครถูก แล้วจะเดินต่ออย่างไร ซึ่งการจัดสัมมนาก็เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเอาข้อมูลที่มีมาตีแผ่ ให้สังคมตัดสิน ถือเป็นการทำอย่างสร้างสรรค์ หาทางออกว่าจะไปอย่างไร เราพูดกันมาเป็นปีแล้ว ครั้งนี้ต้องมาพูดกันในเวทีสาธารณะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์