อัปยศสภาอับปาง ฝ่ายค้าน-รัฐบาลซัดกันนัว ชงตัดเงินเดือนสส.โดดร่ม

สภาเดือด! ล่มครั้งที่ 17 เป็นรอบที่ 3 เดือน ก.พ. มี ส.ส.เข้าประชุมเพียง 227 เสียง "ฝ่ายรัฐบาล" ฉะ "ฝ่ายค้าน" ขอนับพร่ำเพรื่อทำสภาเสียหาย "พท." อ้างต้องการให้ ส.ส.มาทำงานให้ครบ เหน็บฝ่ายค้านในอดีตก็ทำเจอ "ปชป." สวนทำเฉพาะตอนพบเสียงข้างมากลากไป ผงะ "ส.ส.เพื่อไทย-ก้าวไกล" นั่งหน้าสลอนแสดงตนพรรคละ 5 คน  "พรรคกล้า" ยื่น 8 พันรายชื่อเสนอ "ตัดเงินเดือน-ใบเหลืองแดง" ส.ส.โดดร่ม "มงคลกิตติ์" โชว์พลังพรรคเล็กตั้งกลุ่ม 16 ต่อรองนายกฯ "ส.ส." ดาหน้าซัด "เต้" แอบเอาชื่อไปอ้างร่วมกลุ่ม 16

ที่รัฐสภา วันที่ 10 ก.พ. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ภายหลังที่ประชุมรับทราบประกาศคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่องนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 2565 เสร็จสิ้นแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า การรับฟังรายงานจำเป็นต้องมีองค์ประชุมอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ดังนั้นขอตรวจสอบองค์ประชุม

จากนั้นนายชวนได้กดออดเรียกสมาชิกเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม แต่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติขอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ทำให้นายพิเชษฐ์ลุกขึ้นแจ้งว่า เมื่อมีญัตติซ้อนขึ้นมาก็น่าจะโหวตว่าเห็นด้วยกับการนับองค์แบบเสียบบัตรหรือขานรายชื่อ นายชวนจึงวินิจฉัยว่ามีการเสนอให้นับองค์ประชุม ซึ่งเป็นข้อเสนอเดียวกัน แต่วิธีการต่างกัน จึงจะขอมติที่ประชุมว่าจะเห็นควรให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีใด

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล  หารือว่า การขอนับองค์ประชุมเวลาแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ และถือเป็นญัตติหรือไม่ เพราะเห็นว่าการนับองค์ประชุมไม่ได้เป็นญัตติ ดังนั้นขอให้ประธานทบทวนคำหารือใหม่ และใช้ดุลยพินิจพิจารณา ถ้าเป็นการขอนับองค์ประชุมเพื่อป่วนสภา ตนคิดว่าเป็นการทำลายความมั่นคงของสภา ผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญา มาตรา 157

ทำให้นายพิเชษฐ์ลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำพูด แต่นายนิโรธไม่ยอมพร้อมกับสวนกลับว่า ขอนับองค์ประชุม เอาแบบมีมารยาทหน่อยในสภา อย่าจริยธรรมตกต่ำให้มากนัก

นายชวนชี้แจงว่า เราปฏิบัติมาอย่างนี้จะไปเอาว่าเหมาะสมหรือไม่ ไม่ได้ ถือว่าเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะตรวจสอบองค์ประชุม เมื่อเสนอให้ตรวจสอบ ประธานมีหน้าที่ให้ตรวจสอบ และการตัดสินใจของประธานต้องยึดข้อบังคับไม่สามารถเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ และขอร้องพวกเราว่ามีสิทธิที่จะกดบัตรแสดงตนหรือไม่แสดงตน แต่โดยหน้าที่ของเราประชาชนเลือกเราเข้ามาทำงาน ฉะนั้นเราต้องร่วมกันทำงาน สภาอีก 2-3 สัปดาห์เท่านั้นก็จะปิดสมัยประชุม หากมีทางใดที่เราจะร่วมกันทำงานในวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ มารอชี้แจงอยู่

นายพิเชษฐ์ลุกขึ้นโดยใช้สิทธิถูกนายนิโรธพาดพิง พร้อมกล่าวว่า อยากให้ประธานวิปฯ ถอนคำพูดว่าการนับองค์ประชุมผิดรัฐธรรมนูญ ผิดอาญา นายนิโรธเป็นประธานวิปฯ ไม่เข้าใจประเพณีของสภาหรือไม่ แต่นายชวนชี้แจงว่าไม่ต้องถอนคำพูดเพราะไม่ได้กล่าวหาใคร เป็นความเห็นของผู้นั้นโดยเฉพาะ ถูกผิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการตรวจสอบองค์ประชุมก็เป็นสิทธิของสมาชิก เมื่อเสนอให้ตรวจสอบก็ต้องอนุญาต ส่วนเหมาะสมหรือไม่ ทุกคนโดยสามัญสำนึกรู้ว่าควรหรือไม่ควร แต่เมื่อเป็นสิทธิต้องยอมให้สิทธิ กระบวนการต้องว่าไปตามกฎเกณฑ์ของการประชุม

อย่างไรก็ตาม สมาชิกของฝั่งรัฐบาลได้พยายามขอร้องให้ผู้เสนอนับองค์ประชุมทั้งสองฝ่ายถอนญัตติออกไปเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสภา โดยนายชวนกล่าวเสริมว่า บางครั้งการใช้สิทธิพร่ำเพรื่อของสมาชิกจะทำให้สภาเสียหาย ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ลุกขึ้นมาตำหนิคำพูดของนายชวน โดยระบุว่า บางครั้งประธานก็ใช้คำพูด ทำให้ฝ่ายค้านเสียหาย

สภาล่มอีกเป็นครั้งที่ 17

“พรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคแรกที่ขอนับองค์ประชุมลักษณะเช่นนี้ อดีตพวกผมก็เป็นรัฐบาล ฝ่ายค้านก็ขอนับองค์ประชุม แต่พวกผมที่เป็นฝ่ายค้านก็ก้มหน้าทำงานและไม่มีพฤติกรรมรุนแรง เช่น ปาข้าวของ ลากเก้าอี้เหมือนฝ่ายค้านในอดีต วันนี้พวกเราไม่ประสงค์จะให้สภาล่ม แต่ที่ขอนับองค์ประชุมเพราะต้องการให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมาทำงานให้ครบ” นายจุลพันธ์ระบุ 

                    นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิง พร้อมอภิปรายว่า ตนในฐานะที่เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน เคยขอนับองค์ประชุมก็จริง แต่จะขอนับก็ต่อเมื่อเป็นวาระที่สำคัญ หรือพบว่าเสียงข้างมากไม่ฟังเสียงข้างน้อย เป็นเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากลากไป ไม่ใช่ขอนับองค์ประชุมแบบพร่ำเพรื่อ หรือจ้องแต่จะขอนับองค์ประชุมเพื่อให้สภาล่ม

จากนั้นนายชวนแจ้งว่า ขอแนะนำให้สมาชิกที่อยู่ในห้องกดบัตรเพื่อจะได้อยู่ห้องประชุม ถ้าเราใช้สิทธิอะไรพร่ำเพรื่อก็จะเสียหายต่อสภา และขณะนี้มีสมาชิก 225 คนแล้ว ตนขอเวลาอีกนิดเดียว ถ้ายังไม่ครบก็ต้องปิดประชุม แต่ไม่อยากให้งานของเราล้มเหลว เพราะยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง งานใดที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต้องช่วยกัน

                    อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วนายชวนก็ได้แสดงผลองค์ประชุม ปรากฏมีเพียง  227 เสียง ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม 237 เสียง ทำให้นายชวนต้องสั่งปิดการประชุมในเวลา 15.02 น.

                    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาล่มครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 17 หรือเป็นครั้งที่ 3 ในเดือนก.พ.

อย่างไรก็ดี ได้มีการเผยแพร่ผลการนับองค์ประชุมที่มี ส.ส.แสดงตนจำนวน 227 คน พบว่า ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่มี ส.ส. 131 คน มีผู้แสดงตนเพียง 5 คน (ไม่แสดงตน 126 คน) รวมถึงนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ผู้ที่เสนอนับองค์ประชุมด้วย พรรคก้าวไกลที่มี ส.ส. 51 คน แสดงตน 5 คน ( ไม่แสดงตน 46 คน )  ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พลังประชารัฐ ซึ่งมี ส.ส. 97 คน มี ส.ส.แสดงตน 76 คน (ไม่แสดงตน 21 คน), พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส. 59 คน แสดงตน 51 คน ( ไม่แสดงตน 8 คน ) ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี ส.ส. 50 คน แสดงตน 36 คน (ไม่แสดงตน 14 คน), พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ส.ส.สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ 16 คน ไม่แสดงตนเพียง 3 คน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, นายสะถิระ เผือกประพันธุ์  ส.ส.ชลบุรี 

ทั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านจำนวน 207 คน ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมในวันนี้ 192 คน  ส่วนฝ่ายรัฐบาล 267 คน ไม่แสดงตนเข้าประชุม 55  คน

                    ด้านนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.กทม. พรรคกล้า พร้อมคณะ เดินทางมาที่รัฐสภา ยื่น 8,000 รายชื่อประชาชนที่เห็นพ้องตรงกันถึงการทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพของฝ่ายนิติบัญญัติจนนำไปสู่สภาล่มต่อนายชวน โดยผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายพงศ์พลกล่าวว่า วันนี้เรามาเสนอเปลี่ยนข้อบังคับการประชุมด้วยการเพิ่มบทลงโทษทางวินัยกับ ส.ส.ที่ไม่แสดงตนทำให้เกิดสภาล่ม สืบเนื่องจากเราได้เริ่มแคมเปญนี้เมื่อสภาล่มครั้งที่ 14, 15, 16 ติดๆ กัน ซึ่งสภาล่มถึง 16 ครั้งนั้นทำให้เกิดความเสียหายมูลค่า 88.6 ล้านบาท ที่เป็นภาษีของประชาชนที่เสียไปโดยเปล่าๆ

นายพงศ์พลกล่าวว่า เมื่อเทียบ ส.ส.ก็เป็นเหมือนพนักงานทั่วไปที่รับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน แต่เมื่อขาดการแสดงตนกลับยังไม่มีบทลงโทษทางวินัยใดๆ เลย พวกเราจึงมาเสนอบทลงโทษทางวินัยให้กับ ส.ส.ที่ขาดการแสดงตน 3 แนวทางคือ 1.ตัดเงินเดือนบางส่วน ถ้าส.ส.คนไหนไม่มาแสดงตนในวันนั้นๆ ก็จะถูกตัดเงินเดือนในวันนั้นออกไป 2.ส.ส.ที่ไม่แสดงตนมากกว่า 25% ของสมัยประชุมสภา ก็จะถูกตักเตือนด้วยใบเหลือง ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิในการโหวต และอภิปรายใน 2 ครั้ง และ 3.การให้ใบแดงกับ ส.ส.ที่ไม่แสดงตนมากกว่า 50% ซึ่งใบแดงนี้มีโทษตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

พปชร.จ่อปรับโครงสร้างพรรค

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี  และนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้าตามปกติ ก่อนที่ทั้งสองคนจะมายืนพูดคุยกันที่หลังตึกไทยคู่ฟ้า

นายเสกสกลกล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้ตำหนิหรือตักเตือนอะไร หลังจากที่เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ไปให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาในประเด็นการหาบ้านหลังใหม่ คือพรรครวมไทยสร้างชาติที่ตนได้ใช้คำว่าจะมาบีบไข่นายกฯ แบบนี้ตลอดไม่ได้ ซึ่งเป็นการพูดภาษาชาวบ้านๆ เพราะตนเองเป็นผู้แทนราษฎรบ้านนอก นายกฯ ก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไร

ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และกรรมการบริหารพรรค พปชร. โพสต์ภาพการประชุมสภาและข้อความในเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งระบุว่า ด้วยความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีใครคิดแปลกแยกเป็นอย่างอื่น หรือเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ดีๆ ที่ได้มุ่งหมายไปในทางเดียวกันคือสนับสนุนท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในสมัยเลือกตั้งครั้งหน้า

แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า นายกฯ ได้เปรยถึงจุดยืนทางการเมืองในขณะนี้ว่า “ยืนยันยังอยู่พลังประชารัฐ เพราะพรรคพลังประชารัฐเสนอตนอยู่ในบัญชีนายกฯ และทราบว่าหัวหน้าพรรคกำลังแก้ปัญหาภายในพรรคให้ได้โดยเร็ว โดยจะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในเร็วๆนี้

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม 16 กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม ส.ส.พรรคเล็ก รวมถึง ส.ส.พรรคฝ่ายค้านบางส่วนที่มีแนวทางตรงกันได้รวมตัวกันเพื่อดูแลอะไรที่เป็นมติของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดผลกระทบประชาชนและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยมีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นหัวหน้ากลุ่ม และมีนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย เป็นเลขาธิการกลุ่ม, นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เป็นประธานที่ปรึกษากลุ่ม

โวยโดนอ้างชื่ออยู่กลุ่ม 16

 “ทางกลุ่มจะออกแถลงการณ์เรื่องเร่งต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว เราไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 8 ปี ก็ยังไม่สมควรที่จะรีบต่อสัมปทาน เราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด ถ้า พล.อ.ประยุทธ์และ ครม.ลงมติต่อสัมปทานดังกล่าว จะมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาดำเนินคดีอาญา และรวบรวมหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ด้วย เราเห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ดำเนินการเช่นนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการเรียกรับผลประโยชน์จากรัฐบาล”นายมงคลกิตติ์กล่าว

สำหรับรายชื่อกลุ่ม 16 ได้แก่ นายมงคลกิตติ์, นายพิเชษฐ, นายพีระวิทย์, นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท, นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่, นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคชาติพัฒนา, นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่, นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย ส่วนที่อยู่ระหว่างการประสานงาน ได้แก่ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน ส.ส.พรรคก้าวไกล 2 คน

รายงานข่าวจากพรรคพลังท้องถิ่นไท กรณีมีชื่อนายนพดล พรรคพลังท้องถิ่นไท มาร่วมงานกับกลุ่ม 16 ทางนายชัชวาลล์  คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ได้สอบถามและพูดคุยกับนายนพดลแล้ว ซึ่งนายนพดลปฏิเสธว่าไม่เคยคุยเรื่องดังกล่าวกับนายมงคลกิตติ์  ไม่ทราบว่าทำไมนำไปกล่าวอ้าง แต่ยอมรับว่าได้พูดคุยเรื่องสถานการณ์ทั่วไปในห้องอาหาร แต่ไม่ทราบว่ามีการนำรูปภาพการพูดคุยกันไปอ้าง ทั้งนี้ ยืนยันว่ายังคงทำงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท และสนับสนุนรัฐบาล  ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 เช่นเดียวกับนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล และโฆษกพรรคก้าวไกล, นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ต่างก็ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกลุ่ม 16 ตามที่นายมงคลกิตติ์กล่าวอ้าง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์