ยอดติดเชื้อรายใหม่ 13,182 ราย เสียชีวิต 24 ราย "กทม." พุ่ง 2,757 ราย "ปากน้ำ" ทะลุพัน "สธ." ชี้เมืองกรุงกระจายทุกเขต "วัยรุ่น-คนทำงาน" แพร่เชื้อสู่ครอบครัว "ผอ.สำนักระบาดฯ" ระบุโอมิครอนไทยอยู่ช่วงขาขึ้น เหตุเปิดกิจกรรมทางสังคมเพิ่ม คาดอีก 2-3 สัปดาห์จุดพีกป่วยโควิด 3 หมื่นรายต่อวัน วอน ปชช.ร่วมมือการ์ดอย่าตก
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,182 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,003 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,933 ราย ค้นหาเชิงรุก 70 ราย เรือนจำ 40 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 139 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,531,051 ราย หายป่วยเพิ่ม 8,571 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 2,409,877 ราย อยู่ระหว่างรักษา 98,830 ราย อาการหนัก 547 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 111 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 11 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 19 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 22,344 ราย
ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ก.พ. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 509,843 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 117,989,818 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 400,431,898 ราย เสียชีวิตสะสม 5,781,795 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 9 ก.พ. ได้แก่ กทม. 2,757 ราย, สมุทรปราการ 1,133 ราย, ชลบุรี 641 ราย, นนทบุรี 560 ราย, ภูเก็ต 425 ราย, สมุทรสาคร 366 ราย, นครราชสีมา 306 ราย, ราชบุรี 293 ราย, มหาสารคาม 277 ราย และเชียงใหม่ 252 ราย
นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ กทม. 2,757 ราย เสียชีวิต 9 ราย ว่าเป็นการกระจายของเชื้อทั่ว กทม. และกระจายอยู่ในทุกกลุ่มอายุ ส่วนใหญ่พบในวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งสายพันธุ์โอมิครอนมีการแพร่กระจายในครอบครัวได้ง่ายขึ้น โดยผู้ป่วยเสียชีวิตในระลอก 5 ยังคงเป็นผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ มีโรคประจำตัว และมีประวัติการเข้ารับการวัคซีนที่ไม่ครบถ้วน หรือไม่ได้รับวัคซีน
"การเสียชีวิตสะสมลดลงแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะมีการระบาดของโอมิครอน แต่ว่าลักษณะของโรคไม่มีความรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังเป็นสีเขียว มีสีเหลืองในส่วนน้อย ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบผู้ป่วยสีแดง โดยใน กทม.พบผู้ป่วยที่สูงขึ้น เฉลี่ย 1,800-2,000 ต่อวัน แต่ว่าลักษณะของโรคยังไม่แสดงถึงความรุนแรง ผู้เสียชีวิตรายวันลดลงจาก 5-10 รายต่อวัน เหลือ 1-2 รายต่อวัน แต่ขอเน้นย้ำมาตรการต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา บุคลากรทางการแพทย์” นพ.สุทัศน์กล่าว
ถามว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯจะสูงขึ้นอีกแค่ไหน ผอ.สปคม.กล่าวว่าขณะนี้อยู่ในแนวโน้มสูงขึ้น แต่จะสูงขึ้นกว่านี้ไม่มาก และน่าจะทรงตัวได้ ซึ่งการติดเชื้อในกรุงเทพฯ ที่สูงขึ้นก็เป็นไปตามคาดการณ์ และสอดคล้องกับสถานการณ์ประเทศไทย
"ผู้ป่วยในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งยังมาจากปริมณฑลที่บริษัทต่างๆ ส่งพนักงานที่ติดเชื้อเข้าไปรักษาด้วย และยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อจากผู้ที่กลับเข้าไปทำงาน สำหรับคลัสเตอร์ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ยังเป็นแหล่งชุมชน ตลาด พบบ้างประปราย ส่วนค่ายมวยก่อนหน้านี้พบ ขณะนี้ปรับปรุงก็ไม่พบแล้ว ส่วนแคมป์ก็พบน้อยลง" ผอ.สปคม.กล่าว
ขณะที่ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การประเมินสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก จะเห็นว่าต่างประเทศทางยุโรป อเมริกา อยู่ในช่วงขาลงของการระบาด พบติดเชื้อลดลง แต่ขณะที่ทวีปเอเชียและไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น ปัจจัยหลักของไทยเกิดจากการเปิดกิจกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้นมาก จะเหลือก็เพียงผับบาร์ คาราโอเกะที่ยังไม่ได้เปิด แต่ก็สามารถเปิดในรูปแบบร้านอาหารได้ ฉะนั้นตอนนี้เหมือนกับใช้ชีวิตปกติแล้ว การติดเชื้อจึงเพิ่มขึ้นแน่นอน
นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ไม่อยากให้กังวลเรื่องตัวเลขติดเชื้อ อยากให้ดูจำนวนป่วยหนักและเสียชีวิตเป็นสำคัญ โดยข้อมูลล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่างรักษาทั้งที่โรงพยาบาล (รพ.) และรักษาที่บ้าน (Home Isolation) รวมประมาณ 90,000 คน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอยู่ใน รพ. และพบว่า 90% ของคนที่อยู่ใน รพ.ไม่มีอาการหรือมีเล็กน้อยมาก ส่วนผู้ที่อาการรุนแรงต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ มีประมาณ 111 คน คิดเป็นอัตรา 0.1% ของผู้ติดเชื้อ ซึ่งพยายามประคองให้ไม่เกินวันละ 200 คน จากที่เคยพบสูงถึง 1,300 คน ในช่วงเดลตา ทำให้ไม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยโรคอื่นๆ
"คาดว่าอีก 2-3 สัปดาห์จะมีตัวเลขป่วยหนักเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยปลายเดือนก.พ.ถึงต้นเดือน มี.ค.จะถึงจุดพีกของการระบาด ตามที่สำนักระบาดฯ คาดการณ์ไว้ในเส้นฉากทัศน์ ในเงื่อนไขที่ว่าหากไม่มีมาตรการอะไรเลย จะมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ถึง 30,000 คนต่อวัน แต่ตัวเลขจะอยู่นานแค่ไหน ก็อยู่กับมาตรการที่ประชาชนช่วยกัน เพราะไม่มีใครอยากเห็นตัวเลขที่สูงเกินคาดการณ์ไว้ วันนี้พบผู้ป่วย 13,000 คน ดังนั้นต้องช่วยกันลดปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อ เนื่องจากขณะนี้พบการติดเชื้อในครอบครัวเป็นหลัก ดังนั้นต้องช่วยกันลดปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อ ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เลี่ยงเข้าสถานที่แออัด หมั่นล้างมือ ช่วงนี้ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกับคนที่มีความเสี่ยงสูง และหากบ้านที่มีกลุ่มเสี่ยง 608 และเด็ก ก็ขอให้คนอื่นในบ้านเว้นระยะห่าง เลี่ยงรับประทานอาหารร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัย และเข้ามารับวัคซีนเข็มกระตุ้น" ผอ.กองระบาดวิทยากล่าว
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยต่อสุขภาพจิตของประชาชน สั่งการส่วนราชการหน่วยงานลงพื้นที่ติดตามรับฟังปัญหาให้คำปรึกษาพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนทุกคนดูแลสุขภาพจิตของตัวเอง รวมถึงคนรอบข้างและครอบครัว เปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน สร้างสังคมแห่งความเห็นอกเห็นใจ ร่วมมือฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรับทราบสถานการณ์การระบาดโควิดและแนวทางการบริหารจัดการผู้ติดเชื้อทั้งที่อยู่ในครอบครัว ชุมชน และสถานประกอบการ เนื่องจากในปัจจุบันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน โดย ผวจ.สมุทรสาครได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเน้นย้ำการแยกกลุ่มอาการของผู้ป่วยให้ได้อย่างชัดเจน โดยใช้เกณฑ์การประเมินที่สำนักงานสาธารณสุขตั้งไว้ แล้วให้แพทย์แต่ละโรงพยาบาลเป็นผู้วินิจฉัยเพื่อส่งต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อไปพักรักษาตัว หรือกักตัวยังสถานที่ที่มีความเหมาะสม อย่าให้มาแออัดอยู่แต่ในโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว
จ.เชียงใหม่ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้เชียงใหม่ได้มีมติกำหนดแนวทางการควบคุมโรคในสถานการณ์ปัจจุบัน ตามแนวทางกรมควบคุมโรค โดยเน้นสอบสวนค้นหากลุ่มเสี่ยงสูงให้ครอบคลุม และกักตัวกลุ่มเสี่ยงสูงลดการแพร่เชื้อ เพื่อรับมือการแพร่ระบาดโควิดโอมิครอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ
“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป
ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท
บี้ MOU44 เดือด ‘นพดล’ เกทับ! จบออกซ์ฟอร์ด
ปะทะคารมเดือด! “นพดล” โต้ “หมอวรงค์” หาความรู้เรื่องเอ็มโอยู 44 ให้ลึกซึ้ง โต้คนอย่างตนไม่ตอบมั่วๆ เพราะจบกฎหมายจากออกซ์ฟอร์ดและจบเนติบัณฑิตไทยและเนติบัณฑิตอังกฤษ
ลุ้นระทึก! เลือก ‘อบจ.’ 3 จว. ‘กกต.’ จับตาที่อุดรฯแข่งดุ
“เลขาฯ แสวง” มั่นใจเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี แข่งขันสูงไม่ใช่ปัญหา แต่ช่วยกระตุ้นประชาชนออกมาใช้สิทธิ เผยมีเรื่องร้องเรียน 2 เรื่อง ใส่ร้ายระหว่างผู้สมัคร เร่งตรวจสอบ
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี