‘พี่ป้อม’ปัดแย่งเก้าอี้‘น้องป๊อก’

โฆษกรัฐบาลแจงแทน “บิ๊กตู่" ยังอยู่ พปชร. ส่วนการเลือกตั้งเป็นเรื่องอนาคต "บิ๊กป้อม" ลั่น พปชร.ไม่แตก ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ทุกคนยังอยู่ ยันไม่แย่งเก้าอี้ มท.1 "อนุพงษ์น้องผม" การันตีชู “บิ๊กตู่” แคนดิเดตนายกฯ อยู่ด้วยกันมา 50 ปีแล้ว รัฐสภาทำป้าย “เศรษฐกิจไทย” ตั้งในห้องประชุม "ธรรมนัส" โผล่ประเดิมนั่งเก้าอี้ "ปชป." เสียมือดี "ถวิล ไพรสณฑ์" ย้ายค่ายซบ "ก้าวไกล" เจ้าตัวเผยอยากเห็นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง 

 ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 กุมภาพันธ์   นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสั่งการและข้อปรารภของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่า ในวันนี้มีรัฐมนตรีหลายคนติดภารกิจ แต่นายกฯ เข้าใจสถานการณ์ เพราะรัฐบาลมีความสุจริตใจมุ่งแก้ไขปัญหาที่ทั่วโลกร่วมเผชิญด้วย นายกฯ ยังฝากถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เข้าร่วมประชุมสภาให้มากที่สุด เพราะมีกฎหมายสำคัญหลายฉบับรอการพิจารณาอยู่

นายธนากรตอบคำถามสื่อมวลชน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมาย กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า เรื่องนี้นายกฯ ชี้แจงว่า ขณะนี้นายกฯ ยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเป็นพรรคที่สนับสนุนนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายกฯ ย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณทุกพรรคที่ยืนยันสนับสนุนนายกฯ ในการทำงานทั้งวันนี้และอนาคต ส่วนการเมืองและการเลือกตั้งเป็นเรื่องของอนาคต ขณะที่ทุกพรรคก็ต้องแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรคของตัวเอง ทั้งพรรคเก่าและพรรคใหม่ ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อมาถึงเป็นเรื่องของประชาชนและเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องพิจารณาต่อไป

ด้าน พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีถึงสถานการณ์ภายในพรรค พปชร.ว่า ไม่มีอะไร ก็บอกแล้วทุกครั้ง มีแต่สื่อไปเขียนกันเอง ตอนนี้สบายใจทุกที ส่วนจะมีคนมาร่วมงานกับ พปชร.เพิ่มขึ้นมีใครบ้าง ไม่บอก เอาไว้ใกล้ๆ เวลาก่อน ส่วนความมั่นใจจะได้ ส.ส. 150 เสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็คิดไว้อย่างนั้น ส่วนการขอร้อง ส.ส.ในที่ประชุม พปชร.ให้เข้าร่วมประชุมสภาฯ ก็เรียบร้อย เพราะความจริง ส.ส.พปชร.ก็เข้าประชุมกว่า 80 คนทุกครั้ง แต่ก็ขอร้องพรรคอื่นๆ ด้วยให้เข้าร่วมประชุม

เมื่อถามว่าจะอยู่กับ พปชร.ไม่ไปไหนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า “ไม่ไปไหน ไม่ไปไหน มีแต่พวกสื่อจะไล่ผมให้ไป และยืนยันพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” เมื่อถามว่า คนนอกเริ่มมองว่า พปชร.กำลังจะแตกแล้ว พล.อ.ประวิตรยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า จะแตกอะไรเล่า จะแตกได้อย่างไรก็ผมยังอยู่ ทุกคนก็อยู่กันหลายคน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาฯ พรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ก็ยังอยู่กันทั้งนั้น ยืนยันพรรคยังรักกันเหมือนเดิมไม่มีอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลาที่จะชวน พล.อ.ประยุทธ์มาอยู่กับพรรคแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เขาไม่ต้องมาหรอก เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯ อยู่แล้ว ส่วนกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ไม่ต้องคุย เพราะรู้กันอยู่ว่าอย่างไรก็อยู่กับตน ยืนยันว่ายังอยู่ด้วยกันและอยู่ด้วยกันมาตลอด ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ เพราะอยู่ด้วยกันตลอด อยู่ด้วยกันมา 50 ปีแล้ว

ไม่แย่งเก้าอี้้ "น้องป๊อก"

เมื่อถามว่า ได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แล้วหรือยัง หลังมีกระแสข่าวพรรคเศรษฐกิจไทย สนับสนุน พล.อ.ประวิตรให้เป็น รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “โอย อนุพงษ์นั้นน้องผม มหาดไทย เป็นน้องผม แล้วผมจะไปอยู่ไปแย่งน้องได้อย่างไร” เมื่อถามย้ำว่า เรื่องที่ออกมาเป็นแผนทำให้เกิดรอยร้าวระหว่าง 3 ป.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนว่า ก็ดูเอาเอง เพราะข่าวมาจากผู้สื่อข่าว

ถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยและรวมไทยสร้างชาติ เรียกได้ว่าเป็นพรรคพันธมิตรของ พปชร.ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาก็อยู่ของเขา เราก็อยู่ของเรา เมื่อถามว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ถึงบทบาทการเมืองและขอความร่วมมือในการทำงานเกี่ยวกับการประชุมสภาฯ บ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้คุยเลย แต่คุยว่าออกไปแล้วต้องสนับสนุนรัฐบาล พูดชัดเจนไม่ต้องห่วง ตนพูดอย่างไรก็ต้องอย่างนั้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้อำนวยการ พปชร. ให้สัมภาษณ์ว่า จะมีการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการพรรคถาวรหรือไม่นั้น ต้องรอการประชุมพรรคที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือน เม.ย. พล.อ.ประวิตรได้ไว้วางใจให้มาดูแลในส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงที่จะต้องเตรียมการเลือกตั้ง ส่วนกรณีที่สมาชิก พปชร.ลาออกแค่ส่วนเดียว เป็น ส.ส.เขตไม่กี่คน ทางการเมืองมีเข้ามีออก ส.ส.เขตที่จะออกไปการจะเพิ่มเติมคนใหม่เข้ามาไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้ามี 400 เขต ต้องเพิ่มเติมอยู่แล้ว ในฐานะผู้อำนวยการจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ประสานงานกับรักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อช่วยกันทำงาน ต้องทำให้เห็นว่า 140-150 เขต พปชร.ทำได้อย่างไร

เมื่อถามว่า ยังชู พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ตนมา พปชร.ก็เพราะประเด็นนี้ คาดการณ์ว่าทุกคนในพรรค รวมถึงหัวหน้าพรรค ก็มีเจตจำนงและมีความต้องการในเรื่องนี้อยู่แล้ว ขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ในพรรคพูดคุยกันจะช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อรัฐบาลอยู่ครบเทอมตามวาระในปีหน้าไม่ได้พูดถึงการยุบสภาหรือมีการเลือกตั้งเร็วๆ นี้ เพราะยังมั่นใจว่าทุกคนจะช่วยกันสนับสนุนรัฐบาลให้ทำหน้าที่ต่อไปให้ครบเทอม ส่วนกรณี ส.ส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ต้องการโควตาตำแหน่ง รมว.มหาดไทยให้กับ พล.อ.ประวิตรนั้น ร.อ.ธรรมนัสออกมาปฏิเสธแล้วไม่ได้พูดเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลังที่ 18 ส.ส.ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ล่าสุด นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองจากระบบฐานข้อมูลพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่า ส.ส.ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย 18 คน เป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2565 อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำป้ายพรรคเศรษฐกิจไทย โดยมีการจัดที่นั่งให้กับทั้ง 18 ส.ส.เรียบร้อยแล้ว โดยที่นั่งของพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ด้านหลังพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.มานั่งประจำที่ อาทิ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน นายธนะสิทธิ์ โควสุวรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา เป็นต้น โดยพบว่ามี ส.ส.พปชร.ยังคงนั่งทักทายร่วมกับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย

"ธรรมนัส" นั่งเก้าอี้เศรษฐกิจไทย

ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ปรากฏว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ได้เข้ามานั่งเพื่อร่วมประชุมด้วยภายหลังจากที่พ้นจากการกักตัวที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้เข้ามานั่งที่เก้าอี้ของพรรคเศรษฐกิจไทย โดยมี ส.ส.มานั่งเพิ่มจากเดิม อาทิ นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น ภายหลังการเลิกประชุม ส.ส.พปชร.เข้าไปทักทาย ร.อ.ธรรมนัส รวมถึงได้พูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วย

ที่สำนักงาน กกต. เครือข่ายภาคประชาชน นำโดย นายคุณากร มั่นนทีรัย ทนายความ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.นนทบุรี นายอติเทพ ธิติพันธ์ และนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้พิจารณาเพิกถอนการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.เขต 9 กทม.พรรค พปชร.มีลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิสมัครรับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง เท่ากับองค์ประกอบในการจัดตั้งพรรค พปชร.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้นายทะเบียนพิจารณาเพิกถอน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ว่า ขอเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะให้มารับฟังและชี้แจงการอภิปรายกันให้ครบทุกคนเพื่อเป็นการให้เกียรติสภาฯ เนื่องจากหลายคนยังไม่รู้ว่าบางคนเป็นรัฐมนตรี หรือเรียกว่าโลกลืมก็ได้ อย่างน้อยก็ขึ้นมาร่วมกันถ่ายรูปบนบัลลังก์สภาฯ ให้ครบ 35 คน เป็นวาระสุดท้าย แล้วช่วยรับฟังประเด็นปัญหา กลโกง ทุจริต เอื้อพวกพ้อง รวมถึงชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยด่ามาตลอดตั้งแต่ที่รัฐประหาร แต่พอเข้ามากลับทำเสียเอง ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อย่างเข้มข้น

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคก้าวไกล ต้อนรับนายถวิล ไพรสณฑ์ มือกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลตลอดชีพ ที่สำนักงานใหญ่พรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่

 โดยนายถวิลกล่าวว่า จุดประสงค์ที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อต้องการสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลสานต่อเจตนารมณ์และนโยบายของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะนโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง อีกทั้งเพื่อเป็นกำลังใจให้ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลยึดมั่นและหนักแน่นในอุดมการณ์และเจตนารมณ์ทำงานเพื่อประเทศ ประชาชนต่อไป การเข้ามาเป็นสมาชิกของพรรคก้าวไกลไม่มีความประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการเห็นอนาคตของประเทศไทยมีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ที่ตนได้ต่อสู้ขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน และจะช่วยงานในพรรคทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด.