แจก‘อสม.’500บ.ครึ่งปี ‘ลูกช้าง’ติดโควิดในสภา

ยอดติดเชื้อโควิดทะลุหลักหมื่นเป็นวันที่สี่ เสียชีวิต 17 ราย "บิ๊กตู่" ย้ำยกการ์ดสูงป้องกันตัวเอง "ครม." ไฟเขียวงบกลาง 3,150 ล้านบาท ตอบแทนเป็นขวัญกำลังใจให้ อสม.เพิ่มอีกเดือนละ 500 บาทเป็นเวลา 6 เดือน "ส.ส.ลูกช้าง” แจ้งติดโควิดหลังกลับจากประชุมสภา

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,398 ราย ติดเชื้อในประเทศ 10,177 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,147 ราย ค้นหาเชิงรุก 30 ราย เรือนจำ 19 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 202 ราย หายป่วยเพิ่ม 8,922 ราย อยู่ระหว่างรักษา 94,243 ราย อาการหนัก 527 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 111 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 10 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 14 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,517,869 ราย มียอดหายป่วยสะสม 2,401,306 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม  22,320 ราย 

ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 7 ก.พ. 385,190 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 117,479,975 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 398,093,224 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 5,768,797 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ กทม. 1,897 ราย, สมุทรปราการ 983 ราย, ชลบุรี 610 ราย, นนทบุรี 578 ราย, ภูเก็ต 399 ราย, นครราชสีมา 341 ราย, เชียงใหม่ 212 ราย, ปทุมธานี 197 ราย, ขอนแก่น 173 ราย, นครศรีธรรมราชและมหาสารคาม จังหวัดละ 162 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ แม้ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มจำนวนขึ้นถึงหลักหมื่นต่อเนื่อง แต่อัตราของผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตยังถือได้ว่าค่อนข้างต่ำ

"ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ แสดงความห่วงใยประชาชนที่มีการเดินทางมากขึ้น จึงขอให้ใช้ความระมัดระวัง แม้ไทยจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดี และมีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายมาจากความสมัครใจ แต่ต้องยกการ์ดให้สูงควบคู่กันไป" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้โครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในชุมชน วงเงินจำนวน 3,150 ล้านบาท โดยจะนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ อสม.จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,050,306 คน ในอัตราเดือนละ 500 บาท ต่อคนระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.64-มี.ค.65 เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้รับเดือนละ 1,000 บาทจากภาระงานปกติ

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับกิจกรรมที่ อสม.จะดำเนินการในส่วนภาระงานที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย อสม.เคาะประตูบ้าน แจ้งสถานการณ์โรค ให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ประชาชน, อสม.สำรวจ และลงทะเบียนกลุ่มเป้าหมายในชุมชนให้ได้รับการฉีดวัคซีน ติดตามอาการกลุ่มเสี่ยงหลังฉีดวัคซีนที่บ้านในชุมชน ส่งต่อผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์และติดตามกลุ่มเป้าหมายจนกว่าจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2, สำรวจ เฝ้าระวัง คัดกรองและติดตามกลุ่มเสี่ยงในชุมชนอย่างต่อเนื่อง, ร่วมสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขในการติดตามผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน หรือเข้ารับการแยกกักในชุมชน, ดูแลให้คำแนะนำและประเมินคัดกรองสุขภาพจิตเบื้องต้น ทั้งสำรวจ คัดกรองความเครียด สำรวจคัดกรองโรคซึมเศร้า และประเมินภาวะซึมเศร้า รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชน

"ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ อสม.และ อสส.ร่วมดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโควิด-19 ในชุมชนตั้งแต่เดือน ก.พ.2563 โดยมีผลดำเนินงานคือ ให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพตนเองแก่ประชาชนจำนวน 7,424,625 คน, เฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงจำนวน 1,098,782 คน, เคาะประตูบ้านต้านภัย COVID-19 จำนวน 14,020,134 หลังคาเรือน, ค้นพบกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการและส่งต่อให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวน 3,514 คน, อสม.แนะนำกลุ่มเป้าหมายตรวจ ATK และรายงานผลการตรวจผ่าน Application สมาร์ท อสม.  จำนวน 37,643 ครั้ง, อสม.เชิญกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีโรคประจำตัวมารับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 14,864,145 เข็ม และเข็มที่ 2 จำนวน 9,638,559 เข็ม" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

วันเดียวกัน นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 3 พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า  เรียนพ่อแม่พี่น้องชาวชุมพรที่เคารพรักทุกท่านครับ โดยที่ผ่านมาก่อนจะเดินทางไปประชุมสภา หรือกลับจากปฏิบัติหน้าที่ผมจะทำการตรวจ ATK ทุกครั้ง เนื่องจากต้องพบปะชาวบ้านเป็นประจำ และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ไปประชุมสภาแต่กลับมาตรวจ ATK ผลก็เป็นลบปกติ แต่วันเสาร์ช่วงค่ำที่ผ่านมา ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย จึงได้ตรวจ ATK อีกครั้ง ซึ่งผลเป็นบวก จึงได้ไปตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเพื่อความแน่ใจ แล้วกลับไปนอนพักที่บ้านเพื่อรอผล และได้รับการยืนยันผลเช้าวันจันทร์ (วันนี้) ว่าผลตรวจเป็นบวก ซึ่งขณะนี้ผมได้เข้าสู่ระบบการรักษาของโรงพยาบาล ได้ X-ray ปอด และตรวจเลือดแล้ว ปกติดีทุกอย่างครับ

"ต้องขอกราบขอโทษพ่อแม่พี่น้องชาวชุมพรที่ผมได้ไปร่วมงานในพื้นที่เป็นอย่างสูง ต้องขออภัยทุกท่านที่ใกล้ชิดผมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอให้ท่านได้ตรวจหาเชื้อ และสังเกตอาการด้วยนะครับ" นายสุพลระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตั้งรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จบใน ‘15กันยา’

"ภูมิธรรม" เผย "ป.ป.ช." ส่งผลตรวจคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีแล้ว รอ "สลค.-กฤษฎีกา" ตรวจซ้ำ เพราะไม่รู้ใครเสี่ยงมีคดีกี่คน พยายามให้เสร็จใน 1

ชี้เป้าโกงเลือกตั้ง กกต.แจก ‘1ล้าน'

"ประธาน กกต." ย้ำนายจ้าง-ผู้บังคับบัญชา ต้องอนุญาตให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกนายก อบจ.ราชบุรี ตามกฎหมาย เผยได้รับเบาะแสเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง

‘อ้วน’ ปลุกผีเขื่อนเสือเต้น

รัฐบาลจุดพลุสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น "ภูมิธรรม" อ้างประชาชนประสบภัยพิบัติทุกข์ร้อน ต้องจมอยู่กับน้ำขังน้ำหลากมาเป็นเวลานาน เผยมีการประสานงานกับเวิลด์แบงก์ศึกษาผลกระทบ