ฝ่ายค้านปั่นกระแส "บิ๊กตู่" ยุบสภาไม่เกิน 22 พ.ค. ก่อนถูกยื่นซักฟอก "ก๊วนธรรมนัส" เสี่ยงตกม้าตายยกทีม อดีต กกต.ชี้มติขับ 21 ส.ส.พปชร. ศึกนี้ยังไม่จบ ลุ้น กกต.ชี้ขาด 14 ก.พ. บอกมีระทึก ศพการเมืองที่ระเนระนาด อาจเป็นศพที่เรี่ยราดของพวกชื่อเป็นสมาชิกสองพรรค "บิ๊กน้อย" ก็โคม่า หลังทำปืนลั่น
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ล่ม 2 ครั้งติดกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สาเหตุที่ล่มเกิดจากปัญหาเสียงปริ่มน้ำ และ ส.ส.กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ออกไปจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อีก 21 เสียง แยกไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ร่วมโหวตเป็นองค์ประชุม ถือเป็นเรื่องน่าอับอายที่สภาล่มซ้ำซากล่มทุกอาทิตย์ที่มีการประชุม ตอนนี้เรือเหล็กของ พล.อ.ประยุทธ์มีทั้งหมด 245 เสียง ปัจจุบันมีเสียง ส.ส.ทั้งหมด 473 เสียง ครึ่งหนึ่งคือ 237 เสียง เรือเหล็กลุงตู่มี 245 เสียง เมื่อหักเสียงเกินกึ่งหนึ่ง และหักเสียงประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ อีก 3 เสียง เท่ากับรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งเพียง 5 เสียง ทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรี มีภารกิจ มีหน้าที่ที่ต้องไปปฏิบัติงาน ถ้านับองค์ประชุมเมื่อไหร่ก็ล่มเมื่อนั้น
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มีทางเลือกอยู่ 2 ทางคือ ปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงปิดสมัยประชุมตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. แต่นายกฯ ประกาศแล้วว่าไม่ปรับ และไม่เอากลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสเข้าร่วมด้วย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องชิงยุบสภาก่อนวันที่ 22 พ.ค. เพราะเป็นสมัยประชุมสภาที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
"อาการแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอมตายกลางสภาแน่ นี่คือสถานการณ์ทางการเมือง ทางเลือกของ พล.อ.ประยุทธ์คือจะต้องยุบสภาก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม" นายยุทธพงศ์วิเคราะห์ไว้
มีรายงานว่า เช้าวันที่ 7 ก.พ. ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี พรรค พปชร. จะมอบหมายตัวแทนเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งนี้ มีกระแสว่า ร.ต.ปรพลจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในช่วงบ่าย ตามคำเชิญชวนของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่านายเสกสกลได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.ไปก่อนหน้านี้แล้ว
“ถือเป็นการขยับของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นอีก 1 พรรคที่ถูกจับตามองอาจเป็นพรรคสำรองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนพรรค พปชร.จะมีการประชุมพรรค เวลา 15.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่ทำการพรรค โดยมีการแจ้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค จะเข้าร่วมประชุมด้วย โดยขอความร่วมมือส.ส.ทุกคนเข้าร่วมการประชุม”
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีต กกต. กล่าวถึงมติขับ ร.อ.ธรรมนัส และ 21 ส.ส. ออกจากพรรค ว่าการวินิจฉัยของ กกต.ในวันที่ 14 ก.พ. มีแนวทางออก 2 ทางคือ ทางแรก มติของพรรคที่ให้ ส.ส.ทั้ง 21 คน ออกจากพรรค เป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ในกรณีนี้ไม่เป็นปัญหา ส.ส.ทั้ง 21 คน ต้องหาพรรคใหม่สังกัดใน 30 วัน และ 18 คนที่สมัครเข้าพรรคเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2565 มีผลทำให้ชื่อไปอยู่พรรคใหม่โดยสมบูรณ์
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ทางที่ 2 ในกรณีที่ กกต.วินิจฉัยว่าการลงมติไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 42 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง หากพบว่ามติของพรรคขัดต่อกฎหมาย ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งเพิกถอนมติดังกล่าวได้ โดยการเพิกถอนมติหมายถึง มติดังกล่าวไม่มีผลบังคับ นั่นหมายความถึง 21 คนยังมีสถานะเป็นสมาชิกพรรค พปชร. และความยุ่งยากจะอยู่ที่ 18 คน ที่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ตามหนังสือตอบของ กกต. ที่มีต่อการสอบถามจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 4 ก.พ.2565 ส.ส. 18 คนดังกล่าว จึงอาจมีสถานะการเป็นสมาชิกพร้อมกัน 2 พรรคในวันที่ กกต.วินิจฉัย ซึ่งตามมาตรา 26 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดว่า หากนายทะเบียนพบว่ามีการซ้ำซ้อนของสมาชิกพรรคการเมือง ให้แจ้งกลับหัวหน้าพรรคให้ลบชื่อผู้นั้นออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยเป็นการแจ้งเมื่อพบ ซึ่งหมายความว่าต้องแจ้งในวันที่ 14 ก.พ. หาก 18 คนนั้นมีสถานะเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยด้วย ซึ่งการลบชื่อสมาชิกที่ซ้ำซ้อน ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. มิใช่การลงมติขับที่เปิดโอกาสให้หาพรรคใหม่ใน 30 วัน แปลว่า 18 คนอาจหลุดจาก ส.ส.โดยไม่เข้าเงื่อนไขถูกขับตามมาตรา 101 (9) ของรัฐธรรมนูญ
"เป็นหลุดจากการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรค เกมการให้พรรคขับนั้นคมยิ่ง แต่เกมที่ให้คนร้องว่ามติไม่ชอบก็คมไม่แพ้กัน คนวางหมาก แก้หมากแต่ละฝ่ายล้วนไม่ธรรมดา เป็นคมที่เฉือนคม จึงต้องรอดูว่าการวินิจฉัยของ กกต.ในวันที่ 14 ก.พ.จะเป็นอย่างไร และทางแก้ของแต่ละฝ่ายจะเป็นเช่นไร ศึกธรรมนัสยังไม่จบ จึงอย่าเพิ่งนับศพใคร เพราะศพที่ระเนระนาด อาจเป็นศพที่เรี่ยราดของฝ่ายตัวเองได้”นายสมชัยระบุ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เฟซบุ๊กชื่อ อาน้อย วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้โพสต์ข้อความเมื่อ 3 ก.พ.ว่า “ขอลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เพื่อรับหน้าที่หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย สานต่อนโยบายของพี่ป้อม” นั้น อาจการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 เพราะบุคคลดังกล่าวยังไม่ปรากฏว่าได้เป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว แต่กลับกระทำการในลักษณะชี้นำ หรือครอบงำพรรคเศรษฐกิจไทย แม้ต่อมาแอดมินจะออกมาแก้ข่าวว่าอาน้อยมิได้รู้เห็นด้วยก็ตาม แต่เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการตีปลาหน้าไซ ที่สำคัญความผิดได้สำเร็จไปแล้ว ดังนั้นจะไปร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อดำเนินการไต่สวน สอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปในวันจันทร์ที่ 7 ก.พ.นี้
เช่นเดียวกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. เผยว่า กรณีมีข่าวสมาชิกพรรค พปชร. จำนวนกว่า 100 คน ร้อง กกต.ให้ตรวจสอบมติพรรค พปชร. ที่ขับ ส.ส. 21 คนนั้น คำว่าสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนเป็นเงื่อนไขในการใช้สิทธิ ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่า การใช้สิทธิดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย กกต. จึงควรตรวจสอบก่อนว่า ผู้ร้องทุกคนยังเป็นสมาชิก พปชร.จริงหรือไม่ หากคำร้องดังกล่าวเป็นความเท็จ จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 101 หรือไม่ ดังนั้น วันที่ 7 ก.พ. จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ไปถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจมูลกรณีตามคำร้องของสมาชิกกว่า 100 คน
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ปฏิทินการเมืองกับปฏิทินดวงเมือง” ว่า ปฏิทินการเมืองกับปฏิทินดวงเมืองสอดรับกันจริงๆ เลือดจะไปลม จะมาตามประสาของดาวเกตุที่มีอิทธิพลต่อการสร้างความลับลมคมใน สับสนอลหม่าน มีผลให้เกิดความไม่ปกติกับบ้านเมืองในทุกๆ ด้าน สภาล่มซ้ำซาก ถามว่าแล้วรัฐบาลจะล่มไหม ก็ในเมื่อรัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก แต่เสียงข้างมากล่มแล้วล่มอีก ก็เป็นคำตอบอยู่ในตัวแล้วว่าชะตาชีวิตใกล้จะขาดเต็มที และในวันที่ 7 ก.ค. ดาวมฤตยูย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ จะสร้างแรงสั่นสะเทือนหวั่นไหวอย่างรุนแรงทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งก่อนและหลังวันเคลื่อนย้ายของดวงดาว ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย
“ปลายเดือน พ.ค. สภาเปิด ทีนี้แหละทั้งการเมืองและดวงเมืองอีนุงตุงนังกันไปหมด ดาวสำคัญๆ ขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวปะทะกันแรงทั้งภายนอกและภายใน และก็มีเรื่องใหญ่ๆ ในสภาถึงขั้นแตกหักจะอยู่หรือไปก็อยู่ในช่วงนั้นเหมาะเจาะกับการโคจรของดวงดาวพอดีต้นเดือน มิ.ย. 2565 พ.ร.บ.งบประมาณจะเข้าสภานี่ก็เรื่องใหญ่ ถ้าไม่ผ่านรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้แล้วก็จะตามมาด้วยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ายื่นเมื่อไรห้ามยุบสภา ขืนให้ยื่นก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายหนักเข้าไปอีก และก็เคยมีบทเรียนที่เจ็บปวดมาแล้ว ใครจะยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบเก่าล่ะ ก็ยุบเสียก่อนไม่ดีกว่าหรือ นอกจากนี้ ญัตติแก้ไข รธน.ห้าม ส.ว.โหวตนายกฯ จ่อคอหอยตามเข้ามา นี่ก็เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งของทั้งสภาล่างและสภาบน พรรคร่วมรัฐบาลก็จะปั่นป่วน คงจะไม่แทงกั๊กแบบเก่าแน่นอน จะถอนตัวหรือไม่ถอนตัวแตกหักกันก็ตอนนี้”นายวันชัยวิเคราะห์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ