หยามฝ่ายค้าน ถ้าแน่ประกาศ เลิก‘คนละครึ่ง’

โฆษกรัฐบาลซัด "พท.-ไทยสร้างไทย" จ้องดิสเครดิต "บิ๊กตู่" ท้าไม่เอา "คนละครึ่ง-บัตรคนจน" แน่จริงประกาศเป็นนโยบายพรรคเลือกตั้งครั้งหน้ายกเลิกไปเลย โว 3 โครงการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 25 ล้านได้ประโยชน์ ใช้จ่ายแล้ว 8.8 พันล้าน โพลชี้คนไทยปลื้มคนละครึ่งเฟส 4 อยากให้มีต่อจนโควิดหาย

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย  ระบุรัฐบาลประกาศจะลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็น 20 ล้านใบ  หมายถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าที่ผ่านมารัฐบาลพยายามเข้าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในทุกเรื่องเท่าที่สามารถจะทำได้ แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ซึ่งเป็นเหมือนกันหมดทั่วโลก โดยโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกมาเพื่อต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ช่วยลดค่าครองชีพ ซึ่งจะมีประชาชนได้ประโยชน์จำนวนมาก 

"ถ้าพรรคเพื่อไทยคิดว่าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง  โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงโครงการ ช้อปดีมีคืน และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นแค่การหลอกล่อให้คนไทยดีใจชั่วคราวเท่านั้น ก็ขอให้ประกาศเป็นนโยบายพรรคออกมาเลยว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยจะยกเลิกทุกโครงการเหล่านี้ การเลือกตั้งสมัยหน้าประชาชนจะได้ตัดสินใจถูกว่าควรจะเลือกพรรคเพื่อไทยให้กลับมาบริหารประเทศอีกหรือไม่" โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ

ส่วนที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ระบุโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงนั้น นายธนกรกล่าวว่า นายรัฐภูมิไม่ควรแค่ออกมาพูดเพื่อหวังจะเป็นข่าวแล้วหายหน้าไปเฉยๆ แต่ควรเสนอเป็นนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยในการเลือกตั้งสมัยหน้าไปเลยว่าจะยกเลิกโครงการคนละครึ่ง ประชาชนจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าการเลือกตั้งสมัยหน้าควรมีที่นั่ง ส.ส.ให้กับพรรคไทยสร้างไทยในสภาหรือไม่ ตนอยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ช่วยปรามลูกพรรค เพราะแต่ละคนโชว์ความเขลาบ่อยๆ ไม่เป็นผลดีกับพรรคเลย ไม่ควรสร้างภาพไปวันๆ ประชาชนรู้ทันหมดแล้ว โครงการคนละครึ่งประชาชนชื่นชอบและได้ประโยชน์   เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เกิดการจับจ่ายใช้สอยทำให้มีเม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ

นายธนกรเปิดเผยว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกวันที่ 1 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ล่าสุดข้อมูลวันที่ 4 ก.พ. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 24.99 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 8,886.93 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้ 1) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 15.88 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 7,084.1 ล้านบาท 2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 8.54 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,691.26 ล้านบาท และ 3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 0.57 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 111.57 ล้านบาท

 “โครงการคนละครึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานราก ไม่ได้มีลักษณะของการแจกเงิน แต่เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนส่งต่อกำลังซื้อไปยังผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถมีรายได้จากการขาย สินค้าและการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ฝากเตือนประชาชน-ร้านค้า ใช้จ่ายโครงการตามที่กำหนดไว้ ภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบการกระทำความผิดจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้อีก และมีโทษตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้ โครงการเฟส 4 ใช้จ่ายได้ 3 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะสามารถเพิ่มเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกเกือบ 7 หมื่นล้านบาท” นายธนกรกล่าว

กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยกับโครงการคนละครึ่งเฟส 4” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,033 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.4 จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ขณะที่ร้อยละ 18.2 จะไม่เข้าร่วม และร้อยละ 14.4 ได้เข้าสู่โครงการช่วยเหลืออื่นๆ ของภาครัฐแล้วจึงไม่สามารถลงทะเบียนได้

สำหรับเรื่องที่อยากขอแก่รัฐบาลกับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.3 อยากให้เพิ่มวงเงินให้มากกว่านี้ รองลงมาร้อยละ 32.5 อยากให้มีระยะเวลาในการใช้โครงการมากกว่านี้ และร้อยละ 29.9 อยากให้เพิ่มยอดค่าใช้จ่ายต่อวันให้มากกว่า 150 บาท สุดท้ายเมื่อถามว่าอยากให้มีโครงการคนละครึ่งต่อไปหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.3 อยากให้มีต่อไปจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะหายไป ขณะที่ร้อยละ 30.7 ไม่อยากให้มี อยากให้นำงบประมาณไปใช้อย่างอื่นมากกว่า

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เผยผลสำรวจเรื่อง "ความต้องการประชาชนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,127 ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.1 เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งทุกเฟส โครงการช้อปดีมีคืน และเที่ยวไปด้วยกัน ในขณะที่ร้อยละ 85.6 เข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้บริโภค ช่วงต้นปี 2565 นี้ ที่น่าพิจารณาคือ มุมมองของประชาชนต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้บริโภค พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 มองว่า โครงการของรัฐบาล เช่น คนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เที่ยวไปด้วยกัน ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน, ร้อยละ 85.5 โครงการของรัฐบาล มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม, ร้อยละ 84.6 เป็นโครงการที่มีประโยชน์มากกับประชาชนส่วนใหญ่ และร้อยละ 84.4 จูงใจช่วยทำให้ออกมาซื้อของจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.3 ต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการใช้สิทธิให้ทั่วถึง, ร้อยละ 90.1 ต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการตรวจสอบป้องกันการโกงในระบบ และการขายสิทธิเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสลงทะเบียนได้ทั่วถึงครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และร้อยละ 88.5 ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการอื่นๆ มาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องมากขึ้น โดยให้ดูความต้องการที่แท้จริงของประชาชน

ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.9 พอใจโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ช่วยเหลือลดภาระของประชาชน เช่น คนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เที่ยวไปด้วยกัน เป็นต้น และร้อยละ 15.1 ไม่พอใจ เพราะไม่เคยลงทะเบียนได้ มีการโกง และเข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐบาล เป็นต้น

ที่น่าสนใจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.3 ต้องการให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกกลุ่มสังคม เช่น เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อยฐานราก คนวัยทำงานระยะแรก คนจบใหม่หางานทำ เพื่อสร้างการหมุนเวียนเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ขณะที่ร้อยละ 8.7 ไม่ต้องการ นอกจากนี้ หรือร้อยละ 91.5 ต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว เช่น การสร้างงาน สร้างรายได้เสริมอื่นๆ ที่ตรงความต้องการของประชาชนและการเสริมสร้างฝีมือทักษะแรงงาน ขณะที่ร้อยละ 8.5 ไม่ต้องการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์