ลั่นสู้ปัญหาทุกดอก! บิ๊กตู่ยันไม่เป็นนายกฯตลอดไป/ก๊วน21ส.ส.ยังวุ่น

“บิ๊กตู่” พร้อมสู้ปัญหาทุกดอก ลั่นไม่เคยสงวนเป็นนายกฯ ตลอดชาติ อย่ากังวลไม่ยึดติดอำนาจ ยังกั๊กนั่งหัวหน้า พปชร. ลุยผู้นำสมัย 3 หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขู่อยากเลือกตั้งสภาต้องไม่ล่ม “ก๊วนธรรมนัส” จ่อแถลงทิศทางสัปดาห์หน้า 

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า การเมืองมีทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ถ้าเรามัวแต่ว่ากันไปกันมาไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น อะไรที่มันช่วยได้ เป็นข้อมูลที่จะเตือนหรือบอก รัฐบาลพร้อมทำความเข้าใจให้ตรงกัน ทุกอย่างจะแก้ได้ วันนี้ต้องไปดูแลในเรื่องงบประมาณปี 66 เพราะถือเป็นสิ่งที่เป็นความเป็นความตายของประเทศและประชาชน เรามีโอกาสมากมาย ฉะนั้นอย่าทำลายโอกาสของเรา ด้อยค่าในการทำงานที่ดีๆ บางทีมันไม่เหมาะสม แต่ตนว่าใครไม่ได้อยู่แล้ว ห้ามความคิดคนไม่ได้ แต่ยินดีที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังต้องทำอยู่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ท่านไม่รักตน แต่ขอให้รักประเทศชาติของท่าน รักคนไทยเพื่อนพี่น้องร่วมชาติของท่าน ทุกคนต้องคิดแบบที่ตนคิดแบบนี้ คิดแบบนี้มาตลอด ถึงอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นตรงนี้ หลายคนเป็นห่วงสุขภาพ ต้องขอขอบคุณ ตนคิดว่ายังมีแรงที่จะทำตรงนี้ได้อยู่ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสงบเรียบร้อย ความมีเสถียรภาพของบ้านเมือง ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่มีการทุจริตหรือเรียกรับผลประโยชน์ ยืนยันตรงนี้ว่าตนเองทำอย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง

นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องกฎหมายลูก 2 ฉบับในภาวะที่สภาล่มประจำว่า ในส่วนของกฎหมายลูก ส่วนตัวอยากให้จบได้เร็วตามที่กำหนดไว้ ทุกคนอยากจะเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าอยากเลือกตั้งต้องทำให้กฎหมายลูกเสร็จ โดยสภาต้องไม่ล่ม ยืนยันว่ากฎหมายสำคัญที่รัฐบาลออกไปทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสิ้น และต้องผ่านให้ได้ ถ้าทุกอย่างรวนไปหมดจะแก้อะไรไม่ได้ และกลับไปสู่ที่เดิม กลับไปสู่ความวุ่นวายมหาศาล อย่าลืมว่ามีบทเรียนมาแล้วในทุกเรื่องเหมือนสึนามิ

เมื่อถามว่า นายกฯ ยังไม่ชัดเจนในเรื่องการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงว่ายังมีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ยังไม่ตอบอะไรทั้งนั้น มีปัญหาอะไรหรือ อะไรที่ยังไม่จำเป็นผมก็ยังไม่ต้องพูด เป็นเรื่องที่ผมต้องตัดสินใจของผมเอง”

ลั่นสู้กับปัญหาทุกดอก

ซักว่า นอกจากการตัดสินใจของตัวเอง ต้องขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า ไม่รู้จะตอบอย่างไร และสื่อก็ไปคุยกับ พล.อ.ประวิตรเองแล้วกัน สิ่งสำคัญวันนี้ต้องสร้างการรับรู้ให้กับสังคมและประชาชน จากเดิมคุยกันปากต่อปาก ลองไปเปิดโทรศัพท์ดูมีการสร้างความขัดแย้งสร้างความไม่เข้าใจ 80% อยู่ในนั้น จริงบ้างไม่จริงบ้าง

 “อะไรที่มันไม่ใช่ข้อเท็จจริงอย่าไปเปิดมันเลย อะไรที่พูดมาแล้วเชื่อถือไม่ได้ บางคนเครดิตไม่ควรจะพูดอะไรออกมาก็ไปเผยแพร่แบบนี้ แล้วบ้านเมืองมันจะจบหรือไม่ บ้านเมืองต้องการความสงบสุขไม่ใช่หรือ ต้องการความรักความสามัคคีไม่ใช่หรือ ผมไม่จำเป็นต้องสงวนเป็นนายกฯไปตลอดชาติตลอดชีวิตเมื่อไหร่เล่า ก็ทำเท่าที่ผมทำได้ ฉะนั้นไม่ต้องมากังวลว่าผมอยากจะมีอำนาจต่อไป มีอำนาจเพื่ออะไร เพื่อผลประโยชน์หรือ ยืนยันไม่เคยมีผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ตั้งแต่อยู่ 7-8 ปี" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

ถามว่า คิดว่าสถานการณ์ทางการเมืองวันนี้เตะถ่วงการทำงานของนายกฯและรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ถ่วงตนไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเขาดึงตนไว้ก็จะทำงานให้หนักขึ้น 2-3 เท่า ไม่เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นภาระที่จะต้องมานั่งสู้ ไม่สนใจ เสียเวลาตน หน้าที่ของตนคือการบริหารบ้านเมืองให้ดีที่สุด

เมื่อถามอีกว่า เบื่อการเมืองวันนี้หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจพร้อมตอบว่า ตนเบื่อประเทศไทยไม่ได้ เบื่อกับปัญหาไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาให้กับพวกเขาไม่ว่าจะมาอย่างไรตนก็สู้ทุกดอก สู้กับปัญหานะ ไม่ได้สู้กับคน ตนไม่ใช่เป็นศัตรูของใครทั้งสิ้น ต่างคนต่างมีบทบาทหน้าที่ ถ้าทุกอย่างดึงมาการเมืองทั้งหมดแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น

ส่วนประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งครบวาระ 8 ปีหรือยังนั้น นายกฯ ชี้แจงว่า “ทั้งหมดเป็นเรื่องของกฎหมาย ก็ไปว่ากันมา ฉันก็อยู่เท่าที่อยู่ อยู่ได้เมื่อไหร่ก็แค่นั้น กฎหมายมันก็มีกำหนดอยู่แล้ว เป็นเรื่องการพิจารณาของคนอื่น ผมพิจารณาเองได้เสียเมื่อไหร่”

ต่อข้อถามว่า แสดงว่าพร้อมที่จะลุยและจะอยู่ต่อเป็นนายกฯ สมัยที่ 3 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสวนว่า ลุยอะไร มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในวันข้างหน้า สื่ออย่ามาถามดักหน้าวันนี้ มันยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น อยู่ไปตามหน้าที่ที่มีก่อน วันหน้าเป็นเรื่องของวันหน้า

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ที่ใช้เวลานานถึง 25 นาที ได้มีแดดส่องเข้ามาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าแดดส่องนายกฯ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวตอบกลับมาว่า กลัวแดดกันหรือ พร้อมเอามือแตะที่หัวใจก่อนจะกล่าวว่า “ร้อนใจมากกว่า ประชาชนเขาร้อนใจหรือไม่ล่ะ เขาเดือดร้อนหรือไม่ ผมร้อนแบบเขา แต่แดดแค่นี้ไปกลัวอะไรกับแดด”

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า คาดว่าจะสามารถเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาในสัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาองค์ประชุมแน่นอน เพราะมีเสียง ส.ว.สนับสนุนด้วย รวมทั้งแต่ละร่างทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เสนอ จึงมั่นใจว่ากฎหมายลูกทั้งสองฉบับจะเดินหน้าต่อได้ เพราะหากไม่สามารถเดินหน้าได้จะไม่สามารถไปสู่การเลือกตั้งได้เช่นกัน

ธรรมนัสจ่อแถลงทิศทาง

มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า จะมีการประชุม กกต.เพื่อรับรองมติคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรค พปชร. ในการขับ ส.ส.จำนวน 21 คน ในวันที่ 14 ก.พ. โดยหลังจาก กกต.มีมติรับรองในวันที่ 14 ก.พ. ตามกระบวนการ จะต้องมีการตอบหนังสือมายังสภาผู้แทนราษฎรภายใน 3 วัน ซึ่งจะทันเส้นตาย 30 วันที่จะครบกำหนดในวันที่ 18 ก.พ.

รายงานแจ้งอีกว่า การตรวจสอบมติขับ 21 ส.ส. ยังคงเป็นปัญหา โดยนอกจากนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะยื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบแล้ว ล่าสุด เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมัย  รามัญอุดม ซึ่งอ้างเป็นสมาชิกพรรค พปชร.พร้อมพวกรวมกว่า 100 คน ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ก็ให้ตรวจสอบเช่นกันว่ามติไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า นายแสวง บุญมี รักษาการเลขาธิการ กกต. ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยในหนังสือระบุว่า ได้ตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง จากระบบข้อมูลพรรคการเมืองของ กกต. พบว่ามี ส.ส.สมัครเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยจำนวน 18 คน เมื่อวันที่ 30 ม.ค.

รายงานจากพรรคเศรษฐกิจไทยแจ้งว่า สำหรับที่ทำการพรรคแห่งใหม่ จะใช้อาคารยูทาวเวอร์ ที่อยู่ติดกับถนนศรีนครินทร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงและทำความสะอาด คาดว่าในสัปดาห์หน้าสมาชิกจะย้ายที่ทำการมายังที่ทำการแห่งใหม่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ได้เดินทางมาดูสถานที่แล้ว ก่อนจะมีการแถลงข่าวทิศทางการทำงานทางการเมืองของพรรคเศรษฐกิจไทยในสัปดาห์หน้าเช่นกัน

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามในคำสั่งที่ พท.0082/2565 เมื่อวันที่ 28ม.ค. เรื่อง ขอให้ยุติการใช้คำว่า ว่าที่ผู้สมัคร ในการประชาสัมพันธ์ตนเองหรือประชาสัมพันธ์ให้พรรค แต่ปรากฏว่า แม้จะมีคำสั่งหัวหน้าพรรคประกาศในเว็บไซต์ พท.แล้ว แต่เมื่อไปดูหลายเพจเฟซบุ๊กของสมาชิก พท.เพื่อไทยในพื้นที่ กทม. ยังคงมีการใช้คำว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ประชาสัมพันธ์การลงพื้นที่ การทำกิจกรรมให้กับประชาชนอยู่

วันเดียวกัน นายชินวรณ์ได้ออกมาเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากหัวหน้าพรรค ปชป. ได้หารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอเลื่อนระเบียบวาระร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่...) พ.ศ..... เพื่อให้ทันต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและเลือกตั้งเมืองพัทยา และได้มีการหารือกับทุกพรรคการเมืองซึ่งเห็นชอบด้วยที่จะให้เลื่อนญัตติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา ดังนั้น ในวันที่ 7 ก.พ. ตนจะนำเรื่องดังกล่าวขอเลื่อนในที่ประชุมวิปรัฐบาล เพื่อดำเนินการขอเลื่อนในที่ประชุมสภาวันที่ 9 ก.พ. โดยจะได้พิจารณาในคราวต่อไป

รองประธานวิปรัฐบาลระบุว่า เนื้อหาที่จะแก้ไขคือมาตรา 34 ที่ปัจจุบันห้ามข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. สมาชิกท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือโทษ ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวย้อนแย้งกับการให้พรรคมีส่วนร่วมและรณรงค์หาเสียง ดังนั้น จึงต้องแก้ไขให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวสามารถเข้าไปช่วยหาเสียงให้แก่ผู้สมัครของพรรคตนเองได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์