กต.ซูฮกผลงาน‘อันวาร์’

“อันวาร์” ชี้ อาเซียนมีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือเมียนมา หวังทุกฝ่ายหยุดยิง ชม "มิน อ่อง หล่าย" ตอบรับดีมาก “กต.” เผย ไทยหนุนมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนคุยกำแพงภาษีสหรัฐ ด้าน “ภูมิธรรม” เตรียมลง จว.ชายแดนใต้ 26-27 เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. นายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวานตอนเย็นที่กรุงเทพฯ ตนได้ประชุมกับกลุ่มที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการของประธานอาเซียน โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นประธาน ซึ่งการหารืออย่างกว้างขวางทำให้เรามีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการเสนอแนวคิดเพื่อสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมา ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนของประเทศ

นายดาโตะ เซอรี อันวาร์ ระบุอีกว่า เช้านี้ตนได้ประชุมทางไกลกับอูมาน วิน ไข รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (NUG) เป็นเวลา 40 นาที การหารือของเรามุ่งเน้นไปที่ความต้องการด้านมนุษยธรรมเร่งด่วนของประชาชนเมียนมา และความสำคัญของการรับประกันว่าความช่วยเหลือจะไปถึงผู้ที่ต้องการมากที่สุด นอกจากนี้เรายังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของการเจรจาอย่างต่อเนื่อง เขาแสดงความเปิดกว้างต่อโอกาสที่จะได้พบปะกันเป็นการส่วนตัวในมาเลเซียในเวลาที่เหมาะสม เช่นเดียวกับการประชุมครั้งก่อนกับสภาบริหารแห่งรัฐ การสนทนาเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ ไม่มีฝ่ายใดคัดค้านการมีส่วนร่วมของเรากับอีกฝ่าย

 “การสร้างความไว้วางใจยังคงมีความสำคัญ และเป็นสิ่งสำคัญที่อาเซียนจะต้องดำเนินการต่อไป จะยังคงร่วมมือกับทุกฝ่ายในการสนับสนุนสันติภาพ ความปรองดอง และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวเมียนมา” ประธานอาเซียนระบุ

นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แถลงข่าวหลังการหารือกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ว่า ตนได้พบกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ส่วนใหญ่หารือกันเรื่องความช่วยเหลือของมาเลเซีย ไทย และเพื่อนบ้านในการฟื้นฟูบูรณะ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาที่เสียหายหนักหลังแผ่นดินไหว พร้อมขอให้เมียนมา สร้างหลักประกันสันติภาพ หยุดความขัดแย้งใหม่ๆ หรือการใช้กำลังทหาร เพื่อทำให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ผล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยทำมานานแล้ว

นายอันวาร์ยังตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เดินทางมากรุงเทพฯ ได้อภัยโทษนักโทษการเมือง 4,800 คน ถือเป็นสัญญาณความปรารถนาอันดียิ่งที่จะเปิดให้อาเซียนได้เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งตนได้บอกกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ถึงความสำคัญของการหยุดยิง ความสำคัญของการเปิดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครอบคลุมทุกภาคส่วนของเมียนมา โดยไม่คำนึงถึงจุดยืนทางการเมือง ซึ่งพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ก็ให้การรับรอง

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเยือนครั้งนี้ของนายอันวาร์ เป็นผลบวกในด้านความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อติดตามต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซีย ส่วนปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลดความรุนแรงในพื้นที่ และการเดินหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก และยังหารือเรื่องความมั่นคงทางพลังงาน โดยฝ่ายมาเลเซียขอบคุณ บริษัท ปตท. ที่ให้ความช่วยเหลือจัดส่งพลังงานทางออนไลน์ รวมถึงเรื่องของสถานการณ์ในเมียนมา และการตอบโต้ของสหรัฐ ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน พร้อมร่วมหาแนวทางรับมือความท้าทายต่างๆ

สำหรับการพูดคุยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอันวาร์กับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดของการหารือ ไทยต้องการสนับสนุนทุกอย่างผ่านอาเซียน แต่ไทยก็มีบทบาทสำคัญแน่นอน เพราะเราเป็นเพื่อนบ้าน ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเมียนมามาโดยตลอด

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เกาะติดสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ถูกชักชวนไปทำงานผิดกฎหมายในเมียนมา ซึ่งล่าสุดทางการไทยได้รับทราบถึงข้อร้องเรียนชาวต่างชาติที่ได้รับการปล่อยตัว แต่ยังติดค้างอยู่ที่ฝั่งเมียนมา และต้องการเดินทางกลับสู่มาตุภูมิโดยเร็ว ขอยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้

นายนิกรเดชกล่าวว่า การหารือครั้งนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางของประเทศไทย ในการสนับสนุนบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน เพื่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกัน เป็นก้าวแรกของอาเซียนในการปฏิสัมพันธ์กับเมียนมาอย่างสร้างสรรค์ พร้อมยืนยันว่า ไทยมีแนวทางในการมีปฏิสัมพันธ์กับเมียนมาเช่นกัน และเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้ประสานและส่งต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสู่เมียนมา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ความจริงแล้วมาเลเซียทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการในการประสานให้เกิดสันติสุขอยู่แล้ว โดยไทยก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะใครก็ตามที่จะสามารถมาช่วยประสานหรือทำให้สันติสุข ไทยก็ต้องการสร้างสันติสุขเช่นกัน ขณะนี้ไทยก็กำลังทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง ตนเองในฐานะที่รับผิดชอบโดยตรง ในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ จะลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจ นายอำเภอ ผู้กำกับสถานีตำรวจ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระดับผู้บังคับกองพัน จนถึงผู้การกรม โดยจะแยกการพูดคุยทีละกลุ่ม ตลอด 2 วันที่ลงพื้นที่ ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้อาจจะเป็นการคุยครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการประมวลสรุปสุดท้ายมาพูดคุยกับงานยุทธศาสตร์ และจะมีการสรุปรายละเอียดต่างๆ ให้ทราบอีกครั้ง

นายภูมิธรรมยังย้ำว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของคณะกรรมการการพูดคุยสันติสุขของฝ่ายไทย ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งแล้วว่าขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ของการกำหนด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ว่าจะเดินไปในด้านใด นอกจากนี้ตนเองยังเตรียมการที่จะประชุมการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกใน 4 อำเภอพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังจากที่ ครม.สัญจรที่ จ.สงขลา ได้มีมติให้พิจารณามาก่อนหน้านี้ ดังนั้น ขอย้ำว่า การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไป.