ยุบสภา!ลำบากแน่ ‘วิษณุ’ชี้ให้กม.ลูกเสร็จก่อน/ซักฟอก17-18ก.พ.

“ประยุทธ์” ยินดีกับผู้ชนะเลือกตั้งซ่อม ชี้เป็นคนไทยเหมือนกัน วอนเดินหน้าทำเพื่อประชาชน อย่าถูกปั่นให้แตกแยก “บิ๊กป้อม” เตรียมประชุมพรรคครั้งแรก 2 ก.พ. จับตาถกปัญหามรสุมถาโถม ทั้งเคสไล่ 21 ส.ส.-ความพ่ายแพ้ 3 เขต-ท่าทีธรรมนัส ทั่นเต้นโผล่วิเคราะห์ผลหย่อนบัตร เชื่อ “ลุงตู่” เลือกหนทางยุบสภาแน่ วิษณุชี้ 2 กฎหมายลูกจ่อเข้าสภา แต่หากเกิดอุบัติเหตุก่อนยุ่งแน่ ครม.เคาะแล้ว 17-18 ก.พ. ให้ทั่นผู้แทนด่าฟรีออกทีวี

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากบ้านพักภายในกรมทราบราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์( ร.1 รอ.) โดยนายกฯ ยังคงปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข หลังเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย แม้การตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ทั้ง 2 ครั้งจะมีผลเป็นลบ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พล.อ.ประยุทธ์ได้อวยพรเนื่องในวันตรุษจีน โดยขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ มีสุขภาพแข็งแรง บ้านเมืองปลอดภัย แม้ขณะนี้จะทำงานที่บ้าน เพราะอยู่ระหว่างกักตัว แต่ยังทำงานปกติ มีการติดตามการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันแก้ปัญหาในช่วงนี้ 

 “เรื่องการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม.จบแล้ว ใครแพ้ใครชนะประชาชนเป็นคนตัดสิน ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลือกตั้ง ไม่ว่าพรรคไหนก็คนไทยเหมือนกัน อย่าให้สื่อใช้โอกาสการเลือกตั้งมาสร้างความแตกแยก ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจ ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่คิดว่ามีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ย้ำอีกครั้งว่า วันนี้วันดี เป็นวันตรุษจีน ต้องอารมณ์ดี ไม่อารมณ์เสีย การเมืองคือการเมือง ต้องทำงานให้กับประชาชนไว้วางใจ ทำเพื่อคนไทย ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ และยินดีกับผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง พรรคไหนก็ยินดี และขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาว่าจบไปแล้ว ถือเป็นการตัดสินใจของประชาชน อย่าใช้โอกาสนี้สร้างความแตกแยก ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลตั้งใจและช่วยกันทำงานต่อไปเพื่อประชาชนและประเทศ

นายธนกรยังกล่าวว่า มั่นใจว่าวันนี้ประชาชนยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีผลงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ที่สำคัญคือมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เหมือนกับรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้ แม้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.ครั้งล่าสุดพรรคเพื่อไทย (พท.) จะได้รับชัยชนะ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะเป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อมเพียงเขตเดียวที่ไม่ได้ส่งผลต่อเสียงของรัฐบาล ดังนั้นจึงไม่สามารถนำมาวัดกับการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศในสมัยหน้าได้

นายธนกรยังกล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถนำพาประชาชนออกจากวิกฤตได้ ทางที่ดีที่สุดคือคืนอำนาจให้ประชาชน การยุบสภาไม่ใช่เรื่องน่าอายนั้น ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้หวงอำนาจ แต่นายกฯ เข้ามาบริหารประเทศตามมติของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอำนาจย่อมกลับคืนสู่ประชาชนอยู่แล้ว แต่การเรียกร้องของฝ่ายค้านในขณะนี้ ไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชน หรือว่าอยากให้คืนอำนาจให้ฝ่ายค้านได้กลับมามีโอกาสเป็นรัฐบาลอีกครั้งกันแน่

พปชร.นัดประชุม 2 ก.พ.

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ ว่าขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับเลือกตั้งด้วย แต่ไม่ขอวิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง เพราะเป็นธรรมดาที่การเลือกตั้งต้องมีทั้งคนแพ้ คนชนะ แต่ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงพรรค ปชป.จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้แน่นอน ซึ่งว่าที่ผู้สมัครที่เตรียมไว้แล้วคือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ส่วนกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภานั้น ฝ่ายค้านก็ได้เรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งซ่อมอยู่แล้ว ส่วนจะยุบสภาหรือไม่ยุบ ก็ขอตอบซ้ำว่าคนมีอำนาจคือนายกฯ ต้องไปถามท่าน

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในช่วงเช้าวิปพรรคได้ไลน์แจ้ง  ส.ส.พรรคขอยกเลิกการนัดประชุมพรรคในวันที่ 1 ก.พ. ไปเป็นวันที่ 2 ก.พ.ที่อาคารรัฐสภา ชั้น 6 ห้องประชุมพรรค เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของปี 2565 ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคจะเข้าร่วมประชุมด้วย ท่ามกลางสถานการณ์สำคัญที่พรรคเจอ 2 มรสุมสำคัญคือ เหตุการณ์การขับ ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พร้อมสมาชิกรวม 21 คนพ้นพรรค และการพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 3 เขต โดยเฉพาะล่าสุดหลังแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.แล้ว ร.อ.ธรรมนัสได้โพสต์เฟซบุ๊กทิ้งเป็นปริศนาว่า  the enemy of my enemy is my friend หรือศัตรูของศัตรูคือมิตร ทำให้ ส.ส.พรรควิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยเฉพาะผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 3 เขตที่แพ้ ซึ่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และความนิยมของพรรคที่ลดลง โดยเฉพาะคิวต่อไปจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคจะส่ง น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ทำให้ ส.ส.หลายคนเริ่มประเมินสถานการณ์ และทิศทางของพรรคในอนาคตกันอย่างหนัก

นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. ในฐานประธานภาค กทม. พรรค พปชร.กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม. ว่าทำให้พรรคได้รับผลกระทบ ซึ่งพื้นที่ กทม.มีความอ่อนไหว บางครั้งตัดสินใจกันในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ยังเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังขายได้ ซึ่งการเข้ามาบริหารประเทศจะมีทั้งเรื่องบวกและลบ แต่ยังเชื่อว่าประชาชนชาว กทม.จะยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ ส่วนในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า กทม.เขต 9 พรรคจะยังส่งนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ลงสู้ศึกหรือไม่ คงต้องรอพรรคเป็นผู้พิจารณา

    ส่วนที่ทำการพรรคเพื่อไทย มีการประชุม ส.ส.พรรค รวมทั้งนายสุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส.กทม.เขต 9 เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก ซึ่งนายสุรชาติได้กล่าวขอบคุณ ส.ส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ที่ให้การสนับสนุนและเลือกตนเองเป็นผู้สมัคร และขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกเข้ามาทำงาน ถือเป็นการตอบรับทางด้านคุณค่าจากประชาชนในฐานะผู้แทนราษฎรเดินดินที่พรรคเพื่อไทยมีมากที่สุด ขอให้ชัยชนะครั้งนี้เป็นของผู้แทนเดินดินของพวกเราทุกคน

นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรค พท. ได้แต่งกลอนต้อนรับนายสุรชาติว่ารับใช้ประชาชนคนหลักสี่ จตุจักรคนดีศรีสมัย ชื่อสุรชาติ เทียนทอง คล้องดวงใจ เพื่อประชาธิปไตย เพื่อไทย เพื่อทุกคน

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 24 ส.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ครบปีที่ 8 ซึ่งถือเป็นการดำรงตำแหน่งของนายกฯ ที่ยาวนานเทียบเท่ากับจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกฯ ที่มาจากการรัฐประหารเมื่อปี 2491 ถือว่านานเกินกว่าที่ประชาชนจะทนไหว แต่ในเดือน พ.ค.ชะตากรรมของ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่รอด นอกจากพรรคจะชนะการเลือกตั้งซ่อมอย่างถล่มทลายแล้ว พรรคพลังประชารัฐยังได้คะแนนต่ำกว่า 3 อันดับแรก และต่อไปจะมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างที่อาจเป็นตัวชี้วัดตัดสินอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพว่ากำลังถึงเวลาดับลงแล้ว

 “ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ยอมจำนนโดยดี ปล่อยอำนาจในมือ สยบต่อความต้องการของประชาชน อย่าปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง หยุดเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและนายทุน โปรดยุบสภาภายในต้นปีนี้ หมดเวลาของทหาร คืนอำนาจประชาชนไปสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว” น.ส.อรุณีกล่าว

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 ว่าไม่เหนือความคาดหมาย ซึ่งกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ และกระแสความนิยมของพรรค พปชร.รูดตกเหวลงไปพร้อมๆ กัน ความเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถนำมาโฆษณาขายได้เหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่ง

เหตุการณ์แบบนี้เกิดเป็นคำถามด้วยซ้ำไปว่า เลือกตั้งใหญ่คราวหน้าจะยังมีพรรค พปชร.เป็นพรรคหลักพรรคหนึ่งในสนามหรือไม่

 “การเลือกตั้งคราวนี้แม้จะไม่ส่งผลเปลี่ยนแปลงกับการเมืองในภาพใหญ่ แต่รหัสสัญญาณที่ปรากฏออกมา ก็พอจะหยิบยกมาวิเคราะห์ความเป็นไปทางการเมืองได้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงตรงนี้ฟันธงว่าอยู่ยาก ไม่ใช่ยากธรรมดา โคตรยาก อายุรัฐบาลเหลือปีกว่าๆ มีคำถามแล้วว่ารัฐบาลชุดนี้จะจบลงอย่างไร คำตอบตามวิถีการเมืองแบบสังคมไทยก็มองได้ 3 ประการด้วย คือ 1.นายกฯ ลาออก เลือกนายกฯ กันใหม่ 2.เกิดการรัฐประหาร และ 3.ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน”

นายณัฐวุฒิโพสต์อีกว่า ไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจลาออก เช่นเดียวกับรัฐประหารที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แม้สังคมไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ก็ตาม เพราะถ้าจะรัฐประหารเพื่อกระชับอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ วันนี้สถานการณ์มันเลยจุดนั้นมาแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังกลายเป็นสินค้าหมดสภาพ แล้วต้องสิ้นอายุขัยไปทางการเมืองแล้ว ทางออกที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ การยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน

วันเดียวกัน รายงานจากที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยังรายงานให้ที่ประชุมทราบความคืบหน้าการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพรรคการเมือง ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยกร่างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น จะเสร็จในวันที่ 2 ก.พ. จากนั้นจะส่งมาให้ ครม. โดยไม่ต้องนำเข้า ครม.เพื่อพิจารณาซ้ำ เสร็จแล้วจะส่งให้วิปรัฐบาลวันที่ 7 ก.พ. เมื่อวิปรัฐบาลพิจารณารายละเอียดเรียบร้อย จะแจ้งมาให้ ครม.รับทราบในวันที่ 15 ก.พ. จากนั้นรัฐบาลจะส่งให้สภาไปดำเนินการต่อ

ทั้งนี้ นายวิษณุได้ย้ำว่า “ถ้ากฎหมายประกอบการเลือกตั้งไม่เสร็จ ยุบสภาจะลำบากมาก เพราะไม่รู้จะนับคะแนนอย่างไร ดังนั้น กฎหมายดังกล่าวจึงมีความจำเป็นอย่างสูง” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ช่วยกันรักษา ทำกันให้เรียบร้อยแล้วกัน”  

17-18 ก.พ.ครม.พร้อมฟังคำด่า  

รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุยังได้หารือกับที่ประชุมกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า รัฐบาลพร้อมเมื่อไหร่ ซึ่งนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ เสนอว่าให้อภิปรายในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมการ ซึ่งนายกฯ และรัฐมนตรีไม่มีคนใดขัดข้อง โดยจะส่งวันให้สภาเพื่อจัดสรรเวลาต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสริมว่า “ผมจะพูดในหลักการกว้างๆ ทั่วไป แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดในส่วนที่รับผิดชอบ  

นายธนกรกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์รับทราบญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ. โดยขอให้ปลัดกระทรวง  รัฐมนตรีเตรียมข้อมูลให้พร้อมเพื่อรับศึกอภิปราย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ครม.มีความพร้อมในวันที่ 17-18 ก.พ. ในการชี้แจงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปที่ นพ.ชลน่านกับคณะรวม 173 คนได้เข้าชื่อกัน  โดยนายกฯ มั่นใจว่า ครม.มีความพร้อมชี้แจงในประเด็นต่างๆ ตามที่ นพ.ชลน่านระบุ ไม่ว่าประเด็นด้านเศรษฐกิจตกต่ำ ของแพง การก่อหนี้สาธารณะ การแก้ไขปัญหาโควิด-19  โรคระบาดสัตว์ และการแก้ปัญหาทุจริต เป็นต้น

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงไทม์ไลน์การประชุมสภาในเดือน ก.พ. ว่าวันที่ 8 ก.พ. เป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาเรื่องร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศที่ค้างการพิจารณา วันที่ 9-11 ก.พ. เป็นการประชุม ส.ส.ตามวาระ วันที่ 16 ก.พ. งดการประชุมเนื่องจากวันมาฆบูชา วันที่ 17-18 ก.พ. ประชุมสภา และในช่วงปลายเดือน วันที่ 23-25 ก.พ. กำหนดให้มีการประชุม แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา หรือการประชุมสภาปกติ

เมื่อถามว่าการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นพ.สุกิจกล่าวว่า ประธานสภาฯ ได้มอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาคนที่ 1 ดูแลเรื่องดังกล่าว ซึ่งนายสุชาติจะนัดประชุมวิปร่วมของสภาในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 14.00 น. เพื่อกำหนดวันและเวลาที่แน่นอน และนอกจากนี้จะเชิญครม.เข้าร่วมการประชุมเพื่อประสานงานกันด้วย จึงน่าจะชัดเจนในวันที่ 2 ก.พ.

วันเดียวกัน ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) คณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 นำโดย รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ได้เข้าพบแกนนำพรรคเพื่อรณรงค์ให้ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และคณะร่วมพูดคุย โดยนายชัยธวัชระบุว่า พรรคพร้อมช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อในแคมเปญนี้ และเมื่อกฎหมายเข้าสู่สภา พรรคก็พร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะมีจุดยืนให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 มาตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาก็เคยร่วมผลักดันร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา แต่เสียดายที่เสียงส่วนใหญ่ในสภาเวลานั้นยังฝืนความรู้สึกของประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์