พบตำ แหน่งของคนงาน กระจายทั่วซากอาคาร!

พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม เป็นแรงงานชาวเมียนมา มีสัญญาณผู้ติดค้างอีกจำนวน 3  ราย แต่ไม่ทราบยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ต้องเร่งกู้ภัยเต็มที่ "ชัชชาติ" เผยยังมีอีก 49 คนยังไม่ทราบชะตากรรม ด้านนายกสภาวิศวกรระบุการช่วยเหลือล่าช้าเพราะมีความซับซ้อนและยากลำบาก พบตำแหน่งผู้ติดอยู่ภายในกระจายตัวทั่วอาคาร

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหว ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่ไปบริเวณที่ตึกถล่มจตุจักร และจากการที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ซึ่งมีผู้ปฏิบัติงานในอาคาร 96 คน เสียชีวิต 8 คน รอดชีวิต 8 คน เดินมารายงานตัว 1 คน สูญหาย 79 คน ค้นหาตำแหน่งได้แล้ว 30 คน ที่อยู่ในตึกคร่าวๆ เหลืออีก 49 คนที่ยังหาตำแหน่งไม่ได้

ส่วนการดำเนินการจัดการ กรณีที่มีคนร้องเรียนว่ามีการบริหารจัดการหน้างานไม่มีระเบียบนั้น ข้อเท็จจริงคือตนได้เข้าไปดูตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ข้างนอกงานอาจจะดูวุ่นวาย อาจจะมีผู้สื่อข่าวมากันเยอะ แต่พอเข้าไปในรั้วพื้นที่ปฏิบัติงานยืนยันว่ามีการปฏิบัติงานที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง มี ผอ.สำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร เป็นหัวหน้าการปฏิบัติการ หน่วยทหาร และกู้ภัยต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือหนัก เมื่อได้รับการร้องขอก็พร้อมที่จะรับการปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะเอาเครื่องมือหนักเข้าไปปฏิบัติการ เพราะยังติดเรื่องของเศษชิ้นส่วนต่างๆ ที่ทำให้ไม่สามารถเจาะได้ ต้องทยอยเอาชิ้นส่วนออก เพื่อจะเจาะรูให้เข้าไป และเมื่อเจาะรูแล้วก็จะเช็กได้ว่ามีผู้รอดชีวิตหรือไม่ ก่อนจะนำสุนัข K9 เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อยืนยันและค่อยขุดเข้าไป

นายชัชชาติกล่าวว่า ตอนนี้ยังคงดำเนินการค้นหาเพื่อช่วยชีวิต ยังไม่หมดความหวัง พยายามเดินหน้าให้มากที่สุด ทุกคนทำอย่างเต็มที่ เรายังเชื่อว่ามีผู้รอดชีวิต โดยเฉพาะบริเวณชั้นล่างที่เป็นอาคารใต้ดิน เมื่อยุบลงมาอาจจะมีโพรง ก็อาจจะยังมีคนที่ติดอยู่ได้ ขณะนี้อุปกรณ์ไม่ถือว่าขาด กระบวนการเป็นไปตามแผนและมาตรฐาน แต่ต้องใช้เวลา เพราะมีความไม่เสถียรของตัวอาคารสร้างอาคาร

ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้านายกรัฐมนตรีได้สั่งทางกรุงเทพมหานคร 6 ข้อ คือ ประเด็นที่ 1 ให้ไปจัดการบริเวณหน้างานที่ตึกถล่มจตุจักร เนื่องจากมีการร้องเรียนจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ที่รู้สึกว่าน้อยใจที่ไม่ได้เข้ามาร่วมปฏิบัติภารกิจ ซึ่งเมื่อเช้าตนได้เข้าไปเคลียร์ปัญหาเรียบร้อย มีการจัดการลงทะเบียนต่างๆ, ประเด็นที่ 2 คือเน้นย้ำให้มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องต่างประเทศ เพราะมีชาวต่างชาติที่สนใจ บางทีเราอาจจะให้ข้อมูลภาษาไทยเยอะ ซึ่งก็อาจจะต้องมีข้อมูลที่จำเป็นและเชื่อถือได้ในภาคภาษาต่างประเทศด้วย รวมถึงภาษาเมียนมาและภาษาของบุคคลที่สูญหายด้วย

ประเด็นที่ 3 คือเรื่องการตรวจสอบอาคารขนาดขนาดใหญ่ ซึ่งกรุงเทพมหานครมีอำนาจอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหรือผู้อำนวยการการปฏิบัติการ ก็อาจจะมีคำสั่งออกไปเพื่อให้อาคารที่สูงและมีขนาดใหญ่ ได้มีผู้ตรวจสอบอาคาร ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งนี่เป็นกรณีเร่งด่วนที่จะต้องให้มีการตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ด้วย  เพราะอาคารขนาดใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วย

ประเด็นที่ 4 คือการเปิดเส้นทางการจราจรที่ดินแดง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรุงเทพมหานครคุยกับการทางพิเศษฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนี่เป็นปัญหาหลัก เพราะทำให้รถติดมหาศาล ปัญหาคือตัวเครนที่ห้อยอยู่ และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ โดยกรมโยธาธิการฯ ร่วมกับการทางพิเศษฯ โดยมีผู้รับเหมาเป็นเจ้าของอาคารเป็นผู้ปฏิบัติการ ก็ต้องรับผิดชอบในการดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการฯ ก็เริ่มดำเนินการแล้ว ตนคิดว่าจะสามารถให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด แต่เรื่องนี้นั้นไม่ง่าย เพราะเครนที่ห้อยลงมามีน้ำหนักประมาณ 5 ตัน ซึ่งอยู่ติดกับทางด่วน หากเกิดการรื้อถอนแล้วตกลงมาที่ทางด่วนก็จะยิ่งมีอุปสรรคมากขึ้น เป้าหมายคือจะเปิดในวันจันทร์ (31 มี.ค.) ให้ได้ แต่ก็ต้องรอตามสถานการณ์

ประเด็นที่ 5 เรื่องการช่วยเหลือจากต่างประเทศ คืนนี้จะมีเครื่องเอกซเรย์มาจากอิสราเอล และจะถึงประมาณเที่ยงคืน พร้อมทั้งหน่วยต่างๆ ที่จะเข้าช่วยเหลือ โดยจะมีกรุงเทพมหานครเป็นผู้ประสานงาน ตอนนี้มีหลายประเทศที่อยากจะเข้ามาช่วยเหลือ และประเด็นที่ 6 เรื่องการสอบสวนการผิดพลาด สาเหตุที่ตึกถล่มคืออะไร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมโยธาธิการฯ เป็นผู้ร่วมในการสืบสวน โดยได้เริ่มเก็บข้อมูลทั้งหมดของอาคารดังกล่าว ซึ่งอาคารนี้เป็นอาคารราชการ เขาไม่ได้ขออนุญาต แต่แจ้งเพื่อทราบ ซึ่งก็เป็นปกติของอาคารราชการ

ที่แคมป์งานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ถนนกำแพงเพชร​ 2 เวลา 16.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากซากตึกถล่มได้อีกจำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายแทน โท อัง อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา คนงาน ก่อนส่งศพไปชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการค้นหาตรวจสอบพบสัญญาณผู้ติดค้างอีกจำนวน 3 ราย แต่ไม่สามารถยืนได้ว่ายังมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่ อยู่ระหว่างค้นหาร่างเพื่อนำมาตรวจสอบ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิต ณ ขณะนี้ เป็นจำนวนทั้งหมด 9 ราย (ชาย 5 ราย หญิง 2 ราย และยังไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้อีก 2 ราย) ส่วนยอดผู้บาดเจ็บ 8 ราย รวมผู้สูญหายทั้งสิ้น 78 ราย

ต่อมา ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน โดยยอมรับว่าการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาจล่าช้า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสามารถช่วยเหลือผู้ติดอยู่ใต้ซากออกมาได้ 1 ราย ในตำแหน่ง A และยังพบผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ที่จุดเดียวกัน ซึ่งยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ เนื่องจากวัสดุที่ถล่มลงมามีน้ำหนักมาก การใช้มือเปล่าจะทำให้ล่าช้า แต่หากมีเครื่องมือที่สามารถคีบอุปกรณ์วัสดุออกมาได้ก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วขึ้น

เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเป็นหลัก โดยใช้สุนัขเคไนน์และกล้องสแกนเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ติดอยู่ใต้ซากหรือไม่ จากการสำรวจพบว่าตำแหน่งของผู้ติดอยู่กระจายไปทั่วอาคาร ไม่ได้อยู่เฉพาะบริเวณจุดหนีไฟเท่านั้น เนื่องจากขณะเกิดเหตุผู้คนต่างพยายามวิ่งหนีเอาตัวรอด ทั้งนี้ พื้นที่โซน A เป็นจุดที่พบผู้ติดอยู่มากที่สุด โดยมีการระบุตำแหน่งที่ชัดเจนขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้การกู้ภัยเป็นไปได้ยาก เนื่องจากวัสดุที่ถล่มลงมาเรียงตัวเป็นรูปหน้าจั่ว ทำให้การรื้อถอนมีความซับซ้อนมากขึ้น ในอดีตเคยมีอาคารถล่มในลักษณะนี้ แต่เป็นเพียง 5-7 ชั้น ซึ่งมีน้ำหนักน้อยกว่า ขณะที่อาคารที่เกิดเหตุมีถึง 33 ชั้น ทำให้น้ำหนักของวัสดุที่ทับถมกันมากขึ้น การตรวจสอบจากวิดีโอขณะถล่มลงมาพบว่า อาคารโน้มไปทางตำแหน่ง A และมีวัสดุหลายชั้นถล่มทับลงมา ส่งผลให้การกู้ภัยมีความยากลำบาก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หอการค้าขอนแก่นคาดผลพวงแผ่นดินไหวทำตลาดบ้านและคอนโดอีสานคึก!

หอการค้าขอนแก่น ระบุบ้านและคอนโดภาคอีสานเริ่มคึกคัก จากอานิสงส์เหตุแผ่นดินไหวที่กรุงเทพฯ พบขอนแก่นยังคงเป็นจังหวัดแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึง

'สถานทูตจีน' กำชับบริษัทจีนปฏิบัติตามกฎหมายไทย ร่วมมือการสอบสวนกรณีตึกสตง.ถล่ม

เพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยตอบคำถามสื่อข่าว