ธรณีพิโรธเขย่ากรุง แรงสุดใน100ปี/ตึกสตง.ถล่มดับ3/กทม.ประกาศภัยพิบัติ

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กม. ศูนย์กลางเมืองมัณฑะเลย์ เมียนมา พร้อมอาฟเตอร์ช็อก 21 ครั้ง แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ทั่วไทย  "กทม." โดนหนัก อาคารก่อสร้าง สตง. 30 ชั้นแห่งใหม่ย่านจตุจักร มูลค่า 2,136 ล้านบาท ถล่มทับคนงานบาดเจ็บ 68 ราย เสียชีวิต 3 ราย เร่งช่วยผู้สูญหาย "ทำเนียบฯ-สภา-อาคารสูง" ปชช.ตื่นตระหนก วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น "ภูมิธรรม" รับแรงสุดในรอบ 100 ปี "ผู้ว่าฯ กทม." ประกาศเขตประสบสาธารณภัยระดับ 2 "นายกฯ อิ๊งค์" บินด่วนกลับจากภูเก็ต สั่งทุกหน่วยดูแลความปลอดภัย ปชช.  คุยวิศวกร-กรมโยธาฯ การันตีตึกในกรุงเทพฯ สร้างได้มาตรฐาน "สส.ปชน." จี้ถอดบทเรียน "นายกสมาคมวิศวกรฯ" เตือนอาคารเก่าสร้างก่อนปี 2550 เร่งประเมินกำลังต้านแผ่นดินไหว

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เวลา 13.20 น. ตรวจพบแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร มีศูนย์กลางบริเวณเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน 320 กิโลเมตร ทำให้รู้สึกได้บริเวณกว้างในประเทศไทย จากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกครั้งแรก ขนาด 7.1 เมื่อเวลา 13.32 น., ครั้งที่ 2 เวลา 13.45 น. ขนาด 5.5, ครั้งที่ 3 เวลา 14.24 น. ขนาด 4.0, ครั้งที่ 4 เวลา 14.37 น. ขนาด 5.2, ครั้งที่ 5 เวลา 14.42 น. ขนาด 3.9, ครั้งที่ 6 เวลา 14.57 น. ขนาด 4.7, ครั้งที่ 7 เวลา 15.21 น. ขนาด 4.0, ครั้งที่ 8 เวลา 15.45 น. ขนาด 3.7, ครั้งที่ 9 เวลา 15.52 น. ขนาด 3.8

ครั้งที่ 10 เวลา 15.52 น. ขนาด 3.8, ครั้งที่ 11 เวลา 16.06 น. ขนาด 4.2, ครั้งที่ 12 เวลา 16.11 น. ขนาด 3.8, ครั้งที่ 13 เวลา 16.26 น. ขนาด 4.3, ครั้งที่ 14 เวลา 16.30 น. ขนาด 4.5, ครั้งที่ 15 เวลา 16.55 น. ขนาด 4.9, ครั้งที่ 16 เวลา 17.28 น. ขนาด 3.1, ครั้งที่ 17 เวลา 17.30 น. ขนาด 4.1, ครั้งที่ 18 เวลา 17.50 น. ขนาด 3.0, ครั้งที่ 19 เวลา 17.53 น. ขนาด 2.8, ครั้งที่ 20 เวลา 17.59 น. ขนาด 4.0 และครั้งที่ 21 เวลา 18.10 น. ขนาด 3.3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลถึงประเทศไทยภาคเหนือ ภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายจุด มีผลกระทบกับอาคารต่างๆ ในพื้นที่หลายเขต ซึ่งสถานการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวยังก่อให้เกิดอาฟเตอร์ช็อก

นายนัฐวุฒิ แดนดี รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา  กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ห่างจากประเทศไทยทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อ.ปางมะผ้า ประเทศไทย 326 กิโลเมตร ทำให้เกิดแรงสั่นไหวที่รับรู้ได้ทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว และกรุงเทพมหานครฯ ที่มีสภาพดินอ่อน ตึกสูงได้รับผลกระทบ

"เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบนบก ไม่มีโอกาสเกิดสึนามิ ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ" รองอธิบดีกรมอุตุฯ ระบุ

นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดจากรอยเลื่อนมีพลังสะกาย ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ในประเทศไทยรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคตะวันออก ภาคกลาง กทม. และปริมณฑล สำหรับจุดเหนือศูนย์เกิดอยู่ห่างจาก กทม.ประมาณ 1,100 กม.

แผ่นดินไหวทำตึกก่อสร้างถล่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่  ถนนกำแพงเพชร 2 ตรงข้ามศูนย์การค้าเจเจมอลล์ แขวง/เขตจตุจักร กรุงเทพฯ สูง 30 ชั้น สัญญาการก่อสร้างมูลค่า 2,136 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 11 ไร่ ใจกลางย่านการค้าตลาดนัดจตุจักร ใกล้ MRT กำแพงเพชร ติดสถานีกลางบางซื่อ ตรงข้าม JJ MALL ซึ่งก่อสร้างถึงชั้นบนสุดได้ถล่มลงมา

โดยอาคารดังกล่าวมีคนงานกว่า 400 คน แต่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุมีคนงานเท่าไหร่ เพราะคนงานบางส่วนได้วิ่งหนีออกมาได้จำนวนหนึ่ง และยังติดอยู่ภายในซากอาคารอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ ในพื้นที่ สน.เตาปูน พ.ต.ท.อิทธิกร ตรีประภากร สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุมีแผ่นดินไหวทำให้เครนที่กำลังก่อสร้างคอนโดนิชโมโนบางโพ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร สูงกว่า 20 ชั้น ถล่มลงมา ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับเครน ตกลงมาจากเครนทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นายธีระพงษ์ ใยยอง อายุ 37 ปี พนักงานขับเครน  นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณดังกล่าว

สอบสวนทราบว่า ระหว่างเกิดแผ่นดินไหวเครนโยกร่วงลงมากระแทกตึกด้านข้าง ทำให้คนขับร่วงลงมาจากเครนเสียชีวิตตะแคงข้างศีรษะกระแทกพื้นจมกองเลือดบริเวณชั้น 8 เบื้องต้นประสานแพทย์นิติเวช ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ นำศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป

พื้นที่ สน.ดินแดง พ.ต.อ.ภษิต กะเตื้องงาน ผกก.สน.ดินแดง รับแจ้งเหตุแผ่นดินไหว ทำให้เครนที่ก่อสร้างแอสปาย-วิภา วิคตอรี่คอนโด หักในระหว่างการก่อสร้าง พื้นที่ สน.ดินแดง พบผู้บาดเจ็บคือ นายพิชิตชัย บุญป่อง อายุ 44 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการสอบถามทราบว่า เครนที่ก่อสร้างแอสปาย-วิภา วิคตอรี่คอนโด หักในขณะเกิดแผ่นดินไหว ส่วนนายพิชิตชัย บุญป่อง ซึ่งเป็นผู้ขับเครนได้กระโดดลงจากเครนและออกมายังที่โล่งก่อนที่เครนจะหัก ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงได้ทำแผลเบื้องต้นรอนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวยังทำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน ซึ่งอยู่ที่ทำเนียบฯ และรัฐสภา ต่างแตกตื่นวิ่งลงมาอยู่บริเวณที่โล่ง เช่นเดียวกับหน่วยงานราชการอื่นๆ และห้างร้าน บริษัทเอกชน ต่างก็ตื่นตระหนกวิ่งออกจากอาคารกันอย่างจ้าละหวั่น

ที่ จ.ภูเก็ต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจราชการที่ จ.ภูเก็ต ได้ประชุมด่วนทางไกลกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยนายกฯ สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เข้ารักษาความปลอดภัยประชาชนเต็มรูปแบบ

น.ส.แพทองธารแถลงว่า ขณะนี้มีแผ่นดินไหวที่แรงและเกิดเหตุตึกถล่มที่บริเวณเขตจตุจักร ซึ่งได้รับรายงานจากกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ฉุกเฉิน และแจ้งทั่วประเทศให้ทำเสมือนว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินทั้งหมด

 “ขอให้ประชาชนไม่อยู่ในตึกสูง ห้ามใช้ลิฟต์เด็ดขาด ไม่ว่ากรณีที่อยู่สูงแค่ไหนก็ตาม ให้ใช้บันไดเท่านั้น ออกมาอยู่ในพื้นที่โล่ง และตอนนี้ทุกหน่วยงานทุกกระทรวงได้ทราบและสั่งการเตรียมการหมดทุกกระทรวงแล้ว เพราะฉะนั้นประชาชนขอให้อยู่ในความสงบ ไม่ต้องกังวลมากเกินไป ขอให้ระวังตัว และขณะนี้ตามโรงเรียนต่างๆ ได้มีการสั่งการแล้วว่าให้ทุกคนกลับบ้านก่อนเพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้น" น.ส.แพทองธารกล่าว

จากนั้นนายกฯ และคณะได้เดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต รีบกลับกรุงเทพฯ โดยด่วน และจะเรียกทุกหน่วยงานประชุมอีกครั้งในเวลา 17.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ

เวลา 16.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม  พร้อมด้วย พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม  ลงพื้นที่เข้าตรวจตึกถล่มย่านจตุจักร กทม. โดยได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิกู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหาร วิศวกรโครงการ และหัวหน้าคนงาน ร่วมกันหารือ เพื่อเช็กจำนวนคนที่เข้าไปทำงานในอาคารดังกล่าว ก่อนวางแผนในการกู้ภัยช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากอาคาร

ภูมิธรรมรับหนักสุดรอบ 100 ปี

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้นทางของแผ่นดินไหวอยู่ที่ประเทศพม่า หลังจากเกิดเหตุทุกคนก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนหมด ตนนั่งอยู่ที่กระทรวงกลาโหมชั้น 2-3 ตอนแรกนึกว่าเวียนหัว แต่มาดูแล้วก็เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งได้ตรวจสอบกับศูนย์อำนวยการทั้งหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่เคยเกิดมาในรอบ 100 ปี สำหรับกรุงเทพมหานครตอนนี้เรากำลังกังวลว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอีก ซึ่งต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด

รองนายกฯ กล่าวว่า ใน กทม.เกิดเหตุอาคารถล่ม 2 จุด คือจุดนี้เป็นจุดที่ใหญ่ที่สุด และอีกส่วนเป็นตึก 3 ชั้นห้องแถวเก่า แถวบางขุนเทียน ซึ่งได้ส่งหน่วยงานเข้าไปดูแล้ว สำหรับตึกที่เกิดเหตุนี้เป็นตึกสูงประมาณ 30 ชั้นของสำนักงบประมาณที่กำลังจะสร้างขึ้น กำลังตรวจสอบคนงานที่รอดออกมาอยู่ เพราะตึกมีผู้รับเหมาหลายราย ซึ่งต้องตรวจสอบเป็นชั้นว่าแต่ละชั้นมีคนเท่าไหร่

"ปัญหาขณะนี้คือการรวบรวม เนื่องจากไม่สามารถใช้เครื่องมือขนาดใหญ่ได้ จึงต้องส่งคนที่เชี่ยวชาญเข้าไป และปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ซึ่งเจ้าของโครงการได้เข้ามาร่วมให้ข้อมูลแล้ว ได้เน้นย้ำอยากให้มีผู้รอดชีวิตมากที่สุด เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ยังไม่ยืนยันสัญชาติ และมีผู้สูญหายอยู่ 90 ราย สามารถช่วยออกมาได้ 1 ราย กทม.จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ โดยมีทุกหน่วยเข้ามาช่วย รวมถึง 4 หน่วยของทหาร และนครบาลของจราจร ให้เคลียร์เส้นทางไปยังโรงพยาบาล" รองนายกฯกล่าว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามในประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตประสบสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ซึ่งขณะนี้สถานการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวยังอาจสามารถก่อให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกได้ ทำให้กรุงเทพมหานครยังคงต้องเร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และเฝ้าระวังในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนพร้อมการแก้ไขพื้นที่ที่อาจยังมีอันตรายและมีผลกระทบต่อสาธารณชน จึงประกาศให้พื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564-2570 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ในการบริหารจัดการสาธารณภัยระดับที่สอง

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย วิทยุด่วนให้ผู้ว่าฯ กำชับไปยังรองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ สแตนด์บายให้อยู่ในพื้นที่ ห้ามลา ห้ามขาด พร้อมที่จะตรวจสอบความเสียหาย เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชน เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดโดยด่วน

เวลา 17.00 น. น.ส.แพทองธารเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พร้อมเรียกประชุมด่วนร่วมกับรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. รายงานผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชม.

น.ส.แพทองธารแถลงว่า ตอนนี้ได้รับรายงานจากทุกฝ่าย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว และอยากจะบอกประชาชนว่า ตึกที่ได้รับความเสียหายคือตึกที่ก่อสร้าง ได้พูดคุยกับวิศวกรและกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้บอกตึกต่างๆ ในกรุงเทพฯ ถือว่าสร้างได้มาตรฐาน หากมีแผ่นดินไหวที่แรงกว่านี้ก็ยังสามารถรับได้ แต่ทุกตึก ตอนนี้ความจริงแล้วมีการตรวจความพร้อมว่ามีอะไรเสียหายบ้าง แต่ตอนนี้สามารถกลับเข้าที่พักได้หมดแล้ว ความจริงตึกที่มีปัญหาคือตึกที่กำลังก่อสร้าง เพราะมีเรื่องความแข็งแรงและตัวของผนัง

อิ๊งค์ยันอาคาร กทม.ปลอดภัย

นอกจากนี้ ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เหตุที่เกิดศูนย์กลางอยู่ที่มัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นหลายรอบติดกัน ตอนนี้ประมาณ 12 ครั้ง โดยมีความแรง 7.2 ริกเตอร์ ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนชาวไทยทั้งในภาคเหนือและกรุงเทพฯ และได้รับรายงานว่าปัจจุบันนี้ความแรงลดลงเหลือ 4.9 ริกเตอร์ ซึ่งสามารถกลับเข้าไปในตัวตึกอาคารสูงได้แล้ว

"ประเทศไทยต่ำกว่าเส้นอันตราย โดยเส้นอันตรายที่ขีดไว้คือ 6 ริกเตอร์ ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบที่น้อย ขอย้ำว่าเป็นการเกิดแผ่นดินไหวบนบก ไม่ได้เกิดบนทะเล ดังนั้นจึงไม่มีการเกิดสึนามิแน่นอน" น.ส.แพทองธารกล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทางผู้ว่าฯ กทม.ถึงเหตุการณ์ที่อาคารก่อสร้าง ว่าเป็นอาคารในพื้นที่เขตจตุจักรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นจุดเดียวที่ได้รับผลกระทบที่เสียหาย และเสียหายแค่อาคารก่อสร้างเท่านั้น และในเรื่องของการเดินทาง เรื่องรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบความปลอดภัย คาดว่าจะกลับมาให้บริการได้ปกติอีกครั้งตอนเช้าวันที่ 29 มี.ค.นี้

 “ยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าเหตุการณ์ของอาฟเตอร์ช็อกจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับพี่น้องประชาชน และพี่น้องประชาชนที่อยู่ในอาคารสูงที่ไม่ได้รับความเสียหายสามารถกลับขึ้นไปอยู่อาศัยได้แล้ว รวมถึงบ้านพักอาศัย หากไม่แน่ใจให้แจ้งกับทาง กทม.ให้เข้าไปตรวจสอบ สุดท้ายนี้ขอให้ประชาชนดูเรื่องข้อมูลข่าวสารที่มาจากหน่วยงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นจากสถานีโทรทัศน์ NBT และข่าวสารจากกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยในกรุงเทพมหานครจะมีศูนย์บัญชาการที่ กทม. และในภาพรวมของประเทศอยู่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่ง กทม. ตอนนี้มีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่เสาชิงช้า โดยผู้ว่าฯ กทม.อยู่ที่นั่น” นายกฯ กล่าว

น.ส.แพทองธารกล่าวด้วยว่า ใครที่ยังไม่สบายใจ มีวิศวกรถึง 2,000 คน ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย ฉะนั้นเรื่องของตึกต่างๆ ฝ่ายนิติบุคคลสามารถติดต่อกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เลย จะมีวิศวกรช่วยดูแล ซึ่งจะทำให้คนกลับไปอยู่ในตึกได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และแน่นอนตอนนี้รัฐบาลระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนเข้าช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ ฉะนั้นสามารถติดต่อภาครัฐได้ทุกหน่วยเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้เหตุการณ์กลับเข้ามาสู่เหตุการณ์ปกติแล้ว ขอให้ทุกท่านกลับเข้าที่พักได้แล้ว ส่วนตึกถล่มที่จตุจักรตอนนี้กำลังทยอยนำคนที่ติดอยู่ออกมา

ต่อมาเวลา 18.40 น. น.ส.แพทองธารพร้อมคณะลงตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ย่านจตุจักร ที่ถล่ม และรับฟังรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยได้กำชับผู้ปฏิบัติงานทุกคนให้ระมัดระวังความปลอดภัยของตัวเองในการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นห่วงเกรงว่าซากตึกที่หล่นลงมาแล้วบางส่วนอาจจะถล่มลงมาได้อีก พร้อมกำชับเรื่องของความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหารและจิตอาสา มูลนิธิต่างๆ ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ในส่วนของผู้ที่ติดอยู่ใต้ตึกถล่ม ขอให้พยายามนำออกมาให้ได้ โดยนำอุปกรณ์สำรวจค้นหาเข้ามาช่วยในการปฏิบัติภารกิจ

จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะเดินทางไปที่ศาลาว่าการ กทม. ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการประสานงาน  เพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป

นายกวิศวกรเตือนเช็กตึกเก่า

มีรายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 17.25 น. ยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จตุจักรถล่ม มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 68 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) 5 ราย, ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน (สีเหลือง) 19 ราย, ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน (สีเขียว) 44 ราย โรงพยาบาลที่นำส่ง 68 ราย ประกอบด้วย รพ.ทหารผ่านศึก 4 ราย, รพ.วิชัยยุทธ 5 ราย,  รพ.พญาไทพหลโยธิน 9 ราย, รพ.เปาโลโชคชัย 4 20 ราย, รพ.ลาดพร้าว  11 ราย, รพ.เพชรเวช 4 ราย, รพ.ภูมิพล 15 ราย และเสียชีวิต 3 ราย

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุอาคารถล่มเช่นเดียวกัน

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือการสร้างช่องทางสื่อสารที่ชัดเจนจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เฉพาะจุดที่มีเหตุตึกถล่มของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพราะยังมีหลายจุดที่พบว่ามีอาคารร้าว ประชาชนก็อยากทราบข้อมูลข่าวสารที่ตรงกันจากรัฐบาลว่าจะต้องติดต่อทางใด รวมถึงคนมีหน่วยงานที่ออกมาแถลงความคืบหน้าของสถานการณ์

ส่วนนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน กล่าวว่า จากสถานการณ์หน้างานวันนี้ เห็นได้ชัดว่ารัฐผิดพลาดอย่างรุนแรง ขอให้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด ทางผมในฐานะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย จะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหานี้ต่อไปครับ” นายภัทรพงษ์กล่าว

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่ารุนแรงและเป็นอันตรายมาก ส่วนตัวไม่เคยประสบเหตุเช่นนี้มาก่อน ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว ซึ่งรัฐบาลจะต้องออกมาตรการให้ข้อมูลเพื่อให้ประชาชนได้ปฏิบัติตัวและความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย

 “นี่คือขั้นสุดแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องเดี๋ยวนี้ เราเจอสึนามิมา เราเจอแผ่นดินไหวตั้งกี่รอบ ที่จริงเรื่องนี้สามารถเตรียมการทำแผนล่วงหน้าได้” ดร.สุชัชวีร์กล่าวส่วน ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเตือนอาคารเก่าที่มีการก่อสร้างก่อนปี 2550 จะต้องเร่งประเมินกำลังต้านแผ่นดินไหว และเสริมกำลัง หากจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารสูงใน กทม. เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงแบบนี้ได้อีกในอนาคต

มีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้ว่า ขณะนี้ เกิดความเสียหายกว้างขวางในหลายพื้นที่ และอาจมีแผ่นดินไหวต่อเนื่อง (aftershock) ระดับ 6-7 ภายใน 2-3 วัน และระดับ 4-5 ภายใน 7 วันนี้ โดยทางการเมียนมาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ภาคสะกาย มัณฑะเลย์ มะก่วย พะโค กรุงเนปยีดอ และรัฐฉานตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอให้คนไทยในเมียนมาเตรียมอุปกรณ์ยังชีพฉุกเฉินให้เพียงพอสำหรับ 3 วัน และมีเอกสารสำคัญ รวมถึงเงินสดติดตัวไว้ด้วย ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หอการค้าขอนแก่นคาดผลพวงแผ่นดินไหวทำตลาดบ้านและคอนโดอีสานคึก!

หอการค้าขอนแก่น ระบุบ้านและคอนโดภาคอีสานเริ่มคึกคัก จากอานิสงส์เหตุแผ่นดินไหวที่กรุงเทพฯ พบขอนแก่นยังคงเป็นจังหวัดแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึง

'สถานทูตจีน' กำชับบริษัทจีนปฏิบัติตามกฎหมายไทย ร่วมมือการสอบสวนกรณีตึกสตง.ถล่ม

เพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยตอบคำถามสื่อข่าว