อิ๊งค์ลุยภูเก็ตดันท่องเที่ยว ติดดาบ‘กลต.’สกัดปั่นหุ้น

ครม.เห็นชอบงบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ไฟเขียว "พ.ร.ก.ตลาดทุน" เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. สกัดปั่นหุ้น ฟันทุจริตตลาดหลักทรัพย์ ฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน "นายกฯ อิ๊งค์" ลงพื้นที่ภูเก็ต ดันซอฟต์พาวเวอร์ท่องเที่ยวภาคใต้ "สรวงศ์” แย้ม "เราเที่ยวด้วยกัน" ใช้ช่วงโลว์ซีซันหนุนเมืองน่าเที่ยว คาดเริ่ม พ.ค. จ่อต่อมาตรการฟรีวีซ่าจีน แต่ลดเหลือ 30 วัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 มีนาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569  วงเงินงบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงบปี 2568 จำนวน 27,900 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ทั้งนี้ ถึงงบประมาณจะเพิ่มขึ้นจากงบปี 2568 แต่เราปรับลดค่าใช้จ่ายประจำที่ไม่จำเป็นออก โดยเพิ่มเป็นงบลงทุนมากขึ้น ตลอดจนงบประมาณด้านการพัฒนามนุษย์  เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา รวมทั้งจัดสวัสดิการสังคม การพัฒนาระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงได้

นายกฯ กล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนและความน่าเชื่อถือในตลาดทุน ตลอดจนมีมาตรการที่สามารถยับยั้งและปราบปรามการกระทำผิดในตลาดทุนเพื่อรักษาความมั่นคงในเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแผนไปตรวจเยี่ยมตลาดหลักทรัพย์  แต่เดี๋ยวคงต้องจัดไป

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบตามที่คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการต่ออายุใบอนุญาตการประกอบธุรกิจโรงแรม โดยมีการจัดตั้งวันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งเป็นการปรับปรุงเพิ่มจากที่เคยมีแล้ว เช่น การยกเว้นการตรวจสอบคนต่างด้าวชาวจีน และการยกเว้นให้คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย มีการปรับปรุงกระบวนการกฎหมายและระยะเวลาพิจารณาอนุญาตด้านอาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์ จากเดิม 178 วันเหลือ 86 วัน รวมทั้ง ครม.ให้ทุกกระทรวงทบทวนกฎกระทรวงที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ  และแก้ไขปรับปรุงกฎต่างๆ แล้ววางแผนมาเสนอ  ครม. ในระยะเวลา 1 เดือนข้างหน้านี้

ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง แถลงว่า เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์หากย้อนหลัง 1 ปีที่ผ่านมา อยู่ในสภาวะที่ทรงตัว อยู่ที่ 1,600-1,700 จุด และค่อยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,400-1,500 จุด และสิ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดหลักทรัพย์หายไปคือ ไม่เชื่อมั่นว่ากฎหมายของเราจะสามารถกำกับหรือดูแลของหลักทรัพย์ในตลาดได้อย่างทั่วถึง ซึ่งตัวที่มีปัญหามากสุดคือการขายหลักทรัพย์โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์อยู่ในครอบครอง (การขายชอร์ต) โดยพบว่ามีการซื้อขายชอร์ตเป็นปริมาณสูงมาก หรือการขายหุ้นออกแล้วซื้อหุ้นคืนทีหลัง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่

โดยสิ่งที่เราแก้ไขคือ การเพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจสอบ และการกำกับดูแลการขายชอร์ต  และเมื่อมีการออกกฎหมายฉบับนี้ เมื่อทราบว่ามีการซื้อจากต่างประเทศ คนทำจะมีโทษปรับและโทษอาญาที่ค่อนข้างรุนแรง และคิดว่าสามารถปราบได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด และค่อนข้างเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน นอกจากนี้ยังมีการแจ้งที่ประชุม ครม.รับทราบถึงเหตุผลและความจำเป็น ซึ่งจะพบว่ากรณีใหญ่ๆ ที่พบความเสียหายเป็นหมื่นล้าน เนื่องจากกระบวนการสกัดกั้นอาจไม่ทันท่วงที ดังนั้นจึงได้มีการยกระดับการทำหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน เพิ่มความเข้มแข็งของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนให้เข้มงวดมากขึ้น

นายพิชัยกล่าวว่า ร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้ยังกำหนดสิทธิของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้ครอบคลุมถึงการดำเนินการแทนผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย ต้องไปดูว่าผู้ถือหุ้นกู้กลุ่มไหนได้รับการดูแลหรือไม่ ไม่ใช่ว่าใครมือยาวสาวได้สาวเอา และต้องเข้าไปกำกับถึงการฟื้นฟูองค์กรว่า ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่รายย่อย เพื่อกำกับตั้งแต่เริ่มมีปัญหาทุจริต การไล่จับและการฟื้นฟู จนจบกระบวนการล้มละลาย

"บางกรณีพื้นฐานหุ้นดี ผลประกอบการดี แต่อยู่ๆ หุ้นลง เพราะมีข่าวว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายได้นำหุ้นไปจำนองไว้หรือนำไปลงทุนอย่างอื่น เมื่อถูกปัญหาหุ้นลงมา ก็ถูก Forced sell หรือการบังคับขาย ดังนั้นอาจจะต้องเพิ่มมาตรการทางกฎหมายเพื่อให้กรณีเหล่านี้ตรวจสอบได้ ทั้งการกระทำผิด และมีมาตรการยับยั้งความเสียหาย เช่น หากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าอาจจะมีการทุจริตในโครงการขนาดใหญ่ หรือ ก.ล.ต.อาจสงสัยว่าเกิดการซื้อขายหุ้นที่อาจเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้บริหารหรือไม่ ก็สามารถเข้าไปชี้และยับยั้งตั้งแต่ต้น" นายพิชัยระบุ

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบในหลักการให้  ก.ล.ต.สามารถเป็นพนักงานสอบสวนในคดีได้ การดำเนินการเรื่องนี้เพื่อดูแลตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำให้สภาวะเศรษฐกิจเกิดความเชื่อถือในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับประเทศต่างๆ ที่เจอปัญหาเดียวกัน เช่น ในสหรัฐอเมริกาหรือเกาหลีใต้ ทั้งนี้ คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งหากตรงตามหลักการ จะมีการประกาศเป็น พ.ร.ก.ต่อไป

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.  นายกฯ จะเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต กล่าวบรรยายพิเศษในงานสัมมนา Thailand Sustainable Tourism Conference 2025 ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ในหัวข้อ “ซอฟต์พาวเวอร์ กลไกการสร้างความยั่งยืนให้การท่องเที่ยวไทย” ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ศักยภาพของวัฒนธรรมไทยและอัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ งาน TSTC 2025 จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศไทยก่อนเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Sustainable Tourism Conference (GSTC) 2026 ซึ่งเป็นการประชุมด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก โดยปีนี้ จังหวัดภูเก็ตจะเดินทางไปรับธงเป็นเจ้าภาพการจัดงาน GSTC 2025 ที่ประเทศฟิจิ

นายจิรายุกล่าวด้วยว่า หลังจากพิธีเปิดงาน นายกฯ มีกำหนดการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยคาดว่าการหารือครั้งนี้จะนำไปสู่มาตรการเชิงรุกในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันว่า แพ็กเกจนี้ไม่ใช่ว่าจะออกก่อนสงกรานต์ เนื่องจากเดิมโครงการนี้ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโควิดประเทศไทย แต่ปัจจุบันนี้จะดำเนินการในช่วงโลว์ซีซัน โดยกระทรวงได้ขออนุมัติไป แต่นายกฯ มีโจทย์ให้กระทรวงคิดเพิ่มหลักเกณฑ์ โดยกระทรวงเสนอจะนำจังหวัดน่าเที่ยวเข้าไปร่วมในโครงการ หากจะใช้สิทธิ์ต้องใช้สิทธิ์ควบคู่กันไปทั้งจังหวัดหลักและเมืองน่าเที่ยว  อาจจะมีบังคับหรือความร่วมมือใช้สิทธิ์ในวันธรรมดาให้มากขึ้น และในเรื่องของข้าราชการที่อาจจะต้องทำงานเวิร์กฟรอมโฮมและทำงานต่างจังหวัดได้โดยไม่ถือเป็นวันลา จะมีมาตรการเหล่านี้เข้ามาบวกเพิ่ม โดยอยากจะดำเนินการให้เร็วที่สุดก่อนช่วงโลว์ซีซัน คือหลังจากสงกรานต์  ประมาณเดือน พ.ค.และ มิ.ย. ซึ่งจะเริ่มใช้ ตอนนี้ได้คุยกับกระทรวงการคลัง และให้เพิ่มเติมในการใช้สิทธิ์เข้าไป

 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการต่อมาตรการฟรีวีซ่ากับประเทศจีนหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า จะมีการต่อมาตรการดังกล่าว แต่จำนวนวันกำลังพิจารณา ปรับการพำนักจาก 90 วัน เหลือ 30 วัน โดยได้พูดคุยกับนายกฯ ว่าการให้พำนักใน 90 วันอาจจะเยอะเกินไป เพราะดูจากตัวเลขแล้วนักท่องเที่ยวส่วนมากอยู่ไม่เกิน 15 วัน แต่หากเข้ามาเรียนมวยไทย ทำอาหาร ที่ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย อาจจะมีการต่ออายุหรือขอกรณีพิเศษ โดยจะมีการนำเสนอ ครม.ในเร็วๆ นี้ เพราะได้มีการหารือกับ รมว.การต่างประเทศแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง