ผ่านฉลุย โหวตลงมติไว้วางใจ "แพทองธาร" ท่วมท้น 319 ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง "งูเห่า" โผล่หนุน 7 เสียง ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป "อิ๊งค์" ขอบคุณทุกเสียงที่ไว้ใจ บอกคุยพ่อแล้วยังไม่ปรับ ครม. "ชวน" ตวัดมีดโกนไม่ประเมินผลซักฟอก ให้ไปถามพ่อนายกฯ ผ่านหรือไม่ "เท้ง" ชิงออกตัวปรี่หา "นายกฯ อิ๊งค์" ถามประเด็นสงสัยไม่ใช่ไปยินดี ลั่นอภิปรายไม่เสียของ เตรียมยุทธการโรยเกลือต่อ "หมออมร" สรุปผลสอบจริยธรรมแพทย์ "รพ.ตำรวจ-รพ.ราชทัณฑ์" ปมชั้น 14 เสนอวงประชุมใหญ่แพทยสภาลงมติ 10 เม.ย.นี้
ที่รัฐสภา วันที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า สดชื่นดีค่ะ
จากนั้นก่อนการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธารได้เป็นประธานประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.), นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.), พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.), นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณ สส.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณที่ช่วยกันอย่างเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชี้แจงในประเด็นต่างๆ หรือการควบคุมให้เกิดความเรียบร้อยในสภา และผ่านไปได้ด้วยดี ครั้งนี้ที่มีการอภิปรายเกิดขึ้น ตนพูดจากความจริงใจได้เลยว่าขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล
"การชี้แจงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ประชาชนเข้าใจ ดิฉันอยากรู้จักกับพรรคร่วมคนอื่นๆ ซึ่งอาจจะนัดกันทีหลัง และขอบคุณ สส.ของพรรค พท. ไม่ว่าจะเป็น สส.ที่ส่งให้ ข้อความที่ส่งให้ รู้สึกอบอุ่น เมื่อวานนี้ไปก็รู้สึกนอนไม่หลับ เพราะรู้สึกว่าวันนี้จะทำอะไรต่อ เพราะยังมีความมั่นใจ ได้ไปดูคลิปที่รัฐมนตรีได้ชี้แจง เชื่อว่ารัฐบาลของเราจะเปลี่ยนชีวิตของประชาชนได้จริง รัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรคไม่เหมือนกันหรอก แต่ก็เชื่อว่าจะตกลงกันได้ ขอบคุณที่มีการตัดสินใจและเปิดใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่านับถือ และทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น รัฐบาลของเราต้องทำให้คนมีกินมีใช้จริง ตอนนี้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ความเดือดร้อนมีตรงไหนก็ขอให้พูดกันแล้วเราจะช่วยกัน รัฐบาลของเราจะเข้มแข็งต่อไปจนจบสมัยแน่นอน" น.ส.แพทองธารกล่าว
ด้านนายอนุทินกล่าวว่า ขอบคุณจากใจ ท่านนายกฯ เก่งมาก ท่านนายกฯ มีวุฒิภาวะ มีการพัฒนาความเป็นผู้นำขึ้นทุกวัน พรรค ภท.ในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็มีความมั่นใจในการนำของนายกฯ แพทองธาร และยืนยันว่าพรรค ภท.จะให้ความมั่นใจและความไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ส่วนนายพีระพันธุ์กล่าวว่า ได้เห็นภาวะความเป็นผู้นำของ น.ส.แพทองธาร ได้เห็นการสร้างความปรองดองในพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธารจะได้รับการแก้ไข
นายวราวุธกล่าวว่า รัฐนาวาลำนี้พวกเราจะเห็นแล้วว่าใครจะเก่งแค่ไหนก็แล้วแต่ ถ้านายใหญ่รอด นายกฯ รอด พวกเราก็รอด จึงอยากให้ความมั่นใจกับนายกฯ ว่าพรรคร่วมฯ ต้องทำทุกอย่างให้รอดให้ได้ ส่วน พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า นายกฯ ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ทำให้พวกเขามีขวัญกำลังใจ ที่สำคัญอย่ากดลงมติผิด เพราะกดผิดชีวิตเปลี่ยน ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อม และเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน รวมทั้งนายเดชอิศม์กล่าวว่า พรรค ปชป.ไม่มีโหวตสวนสักคนเดียวแน่นอน ซึ่งเสียงที่จะโหวตนายกฯ นับไว้ที่ 21 เสียงไว้ก่อน เนื่องจากเป็นเอกสิทธิ์ สส. แต่รับรองว่าไม่มีโหวตไม่สนับสนุนอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับนายไผ่กล่าวว่า มั่นใจว่าวันนี้พรรคกล้าธรรมจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน
ฉลุย 319 ไว้วางใจ งูเห่าโผล่
ต่อมาเวลา 10.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อลงมติในญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะจำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ โดยประธานได้ชี้แจงการลงมติว่า เป็นการลงคะแนนนั้นจะใช้การลงคะแนนโดยเปิดเผย ผ่านการกดบัตรออกเสียงลงคะแนน ซึ่งมี สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้รวม 493 คน ดังนั้นการลงมติไม่ไว้วางใจต้องได้คะแนน 247 คะแนนขึ้นไป โดยมีผู้แสดงตนจำนวน 488 คน
ผลการลงคะแนนปรากฏว่า ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร 162 เสียง ไม่เห็นด้วย 319 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนไม่มี ถือว่าคะแนนไม่ไว้วางใจไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงถือว่า น.ส.แพทองธารได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป และปิดการประชุมในเวลา 10.13 น. พร้อมด้วยเสียงปรับมือจาก สส.ในห้องประชุม
มีรายงานด้วยว่า หลังปิดการประชุม ระหว่างที่ น.ส.แพทองธารและ สส.พรรคเพื่อไทยถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เดินเข้ามาหา น.ส.แพทองธาร ลักษณะคล้ายเข้าไปแสดงความยินดีและมีการถ่ายภาพร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสียงไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร 319 เสียง แบ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 312 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 140 เสียง, พรรคภูมิใจไทย 68 เสียง, พรรครวมไทยสร้างชาติ 35 เสียง, พรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียง, พรรคกล้าธรรม 24 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา 9 เสียง, พรรคประชาชาติ 8 เสียง, พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง, พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง และพรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง
นอกจากนี้ ยังมีพรรคฝ่ายค้านที่ลงมติไว้วางใจ น.ส.แพทองธารอีก 7 เสียง ประกอบด้วย พรรคไทยสร้างไทย 5 เสียง ได้แก่ นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์, นายฐากร ตัณฑสิทธิ์, นางสุภาพร สลับศรี, นายหรั่ง ธุระพล และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์, พรรคพลังประชารัฐ 1 เสียง คือ น.ส.กาญจนา จังหวะ และพรรคไทยก้าวหน้า 1 เสียง คือ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์
ส่วนเสียงไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร 162 เสียง เป็นพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคประชาชน 141 เสียง, พรรคพลังประชารัฐ 19 เสียง, พรรคไทยสร้างไทย 1 เสียง คือนายนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง คือนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ
ขณะที่งดออกเสียง 7 เสียง มาจากพรรคประชาชาติ 1 เสียง คือนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ, พรรคเพื่อไทย 1 เสียง คือนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ, พรรคภูมิใจไทย 1 เสียง คือนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ, พรรคประชาธิปัตย์ 4 เสียง ได้แก่ นายจุรินท์ ลักษณวิศิษฏ์, นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายสรรเพชญ บุญญามณี
ทั้งนี้ มี สส.ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่เข้าร่วมประชุม คือ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติไทยพัฒนา และนายสุพล จุลใส สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งทั้ง 2 คนลาป่วย ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไม่มาร่วมประชุม ส่วน สส.ฝ่ายค้านที่ไม่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ พรรคประชาชน น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ลาป่วย และนายสิริน สงวนสิน สส.กทม. ลาป่วย
เวลา 12.40 น. ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะเดินทางออกจากรัฐสภาเพื่อไปเข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาล ได้แวะเยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ ในโรงอาหารอาคารรัฐสภา พร้อมถ่ายภาพร่วมกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและข้าราชการที่มาขอถ่ายภาพด้วย โดยนายกฯ ได้เดินไปที่ร้าน "ขะนมปังปิ้ง" สั่งขนมปังนมน้ำตาลและสังขยา พร้อมระบุว่า จะเอาไปให้ลูก และมัทฉะลาเต้
'อิ๊งค์’ คึกบอกพ่อไม่ปรับ ครม.
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ มาโรงอาหารรัฐสภาครั้งแรกใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ใช่ เพราะตอนมาสภามาตอนเย็น ซึ่งโรงอาหารปิดแล้ว ไม่มีใครเปิดเลย เมื่อถามว่าโดนอภิปรายโรยเกลือเยอะจึงอยากกินน้ำตาลใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พักการเมืองบ้าง หวานๆ บ้าง เมื่อถามต่อว่าเพราะโดนโซเดียมเข้าไปเยอะ น.ส.แพทองธารหัวเราะก่อนกล่าวว่า ต้องเติมน้ำตาล นึกถึงตอนเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยากกินยาคูลท์ปั่นปีโป้ เมื่อถามว่าได้คะแนนไว้วางใจ 319 เสียง ทำให้ใจฟูใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ดีค่ะ ดีอยู่แล้ว
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าพิธีการเป็นอย่างไร เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าไป พอประธานสภาฯ พูดจบเสียบบัตรปุ๊บเลขขึ้นเลย และตนก็ไม่แน่ใจว่าเลขที่จอใช่ผลหรือยัง และทราบว่าใช่แล้วคือเร็วมาก เพราะตอนที่จะมีการโหวตนายกฯ เป็นการขานชื่อทีละชื่อ ก็ถือว่าเร็ว
ถามว่า เสียงรัฐบาลนั้นท่วมท้นอยู่แล้ว ทำไมถึงยังต้องพึ่งเสียงของงูเห่า น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้พึ่งเลย แต่ต้องมานั่งดูอีกทีว่าอย่างไร จากที่ไหน เพราะไม่ได้บอกอยู่แล้ว อาจจะเป็นความคิด เมื่อถามว่าใจนายกฯ คือไม่ต้องการให้มีภาพงูเห่าใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องการค่ะ ไม่ต้องการให้มีภาพอย่างนั้น แต่จริงๆ ก็ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงอยู่ดี แต่ที่เราคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็คุยกันเรื่องคะแนนโหวตจากพรรคร่วมฯ ยังไงพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมทำงานกันมา ถ้าแค่คะแนนของพรรคร่วมฯ ก็พออยู่แล้ว เมื่อถามว่า 4 เสียงของพรรค ปชป.ที่งดออกเสียง ติดใจอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น ไม่เป็นไร
ซักว่า นายกฯ ไม่ต้องการให้มีเสียงงูเห่า คนที่นำเสียงงูเห่ามาให้ต้องตอบแทนอะไรเขาหรือไม่ หรือไม่ต้องตอบแทนอะไรใดๆ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบว่างูเห่าจากไหน ใครคืองูเห่า เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายค้านประมาณ 7 เสียงมายกให้ นายกฯ กล่าวว่า อืม นายกฯ ย้อนถามด้วยว่าแล้วทราบหรือยังว่า 7 เสียงนี้จากใคร ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าจากพรรคไทยสร้างไทย และพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่นายกฯ จะกล่าวว่า อ๋อค่ะ ไม่มี ไม่ได้คุยอะไรกันไว้ก่อนเลยด้วยความสัตย์จริงที่สุดแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันไว้ก่อนเลย ฉะนั้นไม่ทราบว่าต้องให้อะไร
เมื่อถามอีกว่า เขาจะเอามาต่อรองเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ สมมุติถ้าเขาย้ายมา นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการต่อรองเกิดขึ้นทั้งนั้น อย่างที่เคยบอกไปแล้ว จะปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ อยู่แล้ว ถ้าจะไปทางไหนยังไงก็ไม่เป็นผล
พอถามว่า หลังอภิปรายจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังไม่มีแพลนจะปรับ ครม.ค่ะ เมื่อถามย้ำว่า หากมีการไปกดดันนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อมาให้กดดันนายกฯ ขอเก้าอี้รัฐมนตรี นายกฯ จะฟังหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ ตนรับฟังอยู่แล้วทุกเรื่อง แต่ว่าได้คุยกันอยู่แล้ว
"เรื่องการตั้งรัฐมนตรีก็มีการปรึกษาพูดคุยกันและสอบถาม อย่างเช่นที่จะอภิปรายรอบนี้มีการพูดกับคุณพ่อแล้วว่ายังจะไม่ได้ปรับ ครม. ซึ่งคุณพ่อก็บอกว่า อ๋อเหรอ โอเค อย่างนี้ค่ะ มีแค่นี้ ก็เลยยังไม่คิดจะปรับ ครม.ตอนนี้ และคุณพ่อไม่ได้ถามเรื่องปรับ ครม. แต่ครั้งนี้ยังไงจะปรับหรือไม่ปรับเป็นการคุยกันว่ายังไง ซึ่งดิฉันก็คุยกับคุณพ่ออยู่แล้วว่ายังไม่ปรับ ครม. และเขาก็รับทราบ” นายกฯ กล่าว
ถามว่า หากเขาไปวิ่งผ่านนายทักษิณแบบนี้ต้องฟังหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราฟังเหตุผลอยู่แล้ว แต่ว่าจะปรับหรือไม่ปรับเดี๋ยวเราค่อยคิดอีกทีหนึ่ง เมื่อถามว่าไม่ติดใช่หรือไม่หากพรรคร่วมรัฐบาลจะขอขยับปรับในส่วนของเขา นายกฯ กล่าวว่า อืม ทุกอย่างรับฟังไว้ก่อนได้ เพราะบางทีเราอาจจะคิดไม่ครบก็ได้ ถ้าเราฟังและเราเปิดใจ แล้วก็รู้ว่าอะไรมันดีที่สุด แค่นั้นเอง ทุกเรื่องก็ต้องใช้เหตุผลอยู่แล้ว
ซักว่า นายกฯ จะลำบากหรือไม่ถ้าทุกคนวิ่งไปหาคุณพ่อเพื่อมากดดันนายกฯ ในการปรับ ครม. น.ส.แพทองธารหัวเราะพร้อมกล่าวว่า อันนี้อภิปรายครอบงำยังไม่จบเลย ใช่ไหมคะ ท่านสื่อมวลชนยังไม่จบเหรอ คิดว่าทุกคนถ้าอยากได้อะไร ก็คงจะต้องมีการวิ่งทุกช่องทาง ซึ่งก็ทราบอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ ก็ดูกันเองว่าวิ่งทางไหนแล้วเป็นผลแล้วกันค่ะ
ถามถึงเหตุผลที่ยังไม่ปรับ ครม.ตอนนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังรู้สึกว่าการทำงานกำลังต่อเนื่องได้ดี และคิดว่าอย่างน้อยๆ ทุกคนก็ต้องมีเวลาในการปรับตัว ที่จะเริ่มทำงานให้มันคล่องมือกันต่อไป ก็เหมือนตนนี่แหละ เพราะนี่ก็เป็น ครม.แรกเหมือนที่ตนเพิ่งเข้ามา ก็ทำงานเท่าๆ กัน เพราะฉะนั้นก็ดูกันไป
เมื่อถามว่า ในการอภิปรายเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่นายกฯ ระบุว่าจะยื่นแพทยสภาให้ตรวจสอบเรื่องชั้น 14 นายกฯ กล่าวว่า รอ รออยู่ รอผล เมื่อถามอีกว่าผลจะออกมาเมื่อไหร่ และจะเปิดเผยเวชระเบียนต่อสาธารณะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ มันจะผิดกฎหมายหรือเปล่าเดี๋ยวขอไปเช็กก่อน แต่ตนไม่ทราบไทม์ไลน์ว่าจะได้เมื่อไหร่ เดี๋ยวเช็กดู ถ้าเปิดเผยได้ก็เปิดเผย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกฯ จะขึ้นรถเดินทางออกจากสภา ได้มีนักเรียนที่เข้ามาดูงานที่รัฐสภาได้วิ่งกรูกันไปขอถ่ายภาพร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ซึ่ง น.ส.แพทองธารได้หยุดรอถ่ายภาพร่วมด้วยอย่างเป็นกันเอง
เท้งลั่นซักฟอกไม่เสียของ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวว่า สส.ฝ่ายค้านที่ลงมติไว้วางใจนายกฯ ไม่อยากให้เรียกว่างูเห่า ใช้คำว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์ โดยจุดยืนชัดเจนว่าทำเพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชน
ถามว่า หากมีการปรับ ครม. พรรคกล้าธรรมจะได้เก้าอี้เพิ่มหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราไม่ได้ทำเพื่อตำแหน่งโควตา ครม. แต่เราทำเพื่อให้รัฐบาลเข้มแข็ง
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึง สส.พรรค ทสท.โหวตสวนมติของพรรคฝ่ายค้านว่า ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้เริ่มปรากฏให้เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว พรรคได้พยายามตักเตือนและให้สติ แต่สุดท้ายกลับเลือกเดินในเส้นทางที่ขัดต่ออุดมการณ์และข้อบังคับของพรรค ขัดต่อจริยธรรมร้ายแรง และคำมั่นที่ให้ต่อประชาชน ที่สำคัญยังผิดต่อรัฐธรรมนูญ
"พรรค ทสท.จะดำเนินการทางกฎหมายเอาผิดทางจริยธรรมร้ายแรงให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับนักการเมืองไทยและเยาวชนของชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนจดจำรายชื่อของผู้ที่ทรยศต่อประชาชนและอุดมการณ์ของพรรค เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในอนาคต" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงมติงดออกเสียงว่า เป็นจุดยืนต่อรัฐบาลชุดนี้มาตั้งแต่ต้น เมื่อประชุมพรรคก็ได้ขออนุญาตพรรค
ถามถึงคำชี้แจงของ น.ส.แพทองธารเป็นอย่างไรนั้น นายชวนกล่าวว่า ต้องไปถามพ่อเขา ก่อนอมยิ้ม
ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. ชี้แจงถึงกรณี 4 สส.ของพรรค ปชป.งดออกเสียงว่า ตอนแรกเราจะเสนอให้เป็นมติพรรค แต่ทั้ง 4 คนขอใช้เอกสิทธิ์ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจใช้เอกสิทธิ์ สส.ได้ แต่กฎหมายอีกหลายฉบับใช้เอกสิทธิ์ไม่ได้ ต้องเป็นมติพรรคเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 4 เสียงก็สนับสนุนร่างกฎหมายของรัฐบาลมาโดยตลอด ซึ่งได้แจ้งนายกฯ ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ผลการลงมติที่ออกมาพรรคฝ่ายค้านถือว่าครบถ้วน
ถามว่า หลังการลงมติเสร็จแล้วระหว่างถ่ายรูปได้คุยอะไรกับนายกฯ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตอนที่ตนไปถ่ายรูปตั้งใจไปถามคำถามให้นายกฯ ชี้แจงในหลายๆ อย่าง จากที่เมื่อคืนยังไม่ได้ชี้แจง ตนตั้งใจจะไปถามนายกฯ โดยตรง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอะไร นายกฯ ก็แค่ยิ้ม และถ่ายรูป เมื่อถามย้ำว่าตั้งใจจะไปถามเรื่องอะไรกับนายกฯ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เวลาสั้นๆ ที่เดินไปแสดงสปิริตเมื่อสักครู่นี้ คงไม่ใช่เรื่องที่ตนจะไปไล่ถามทุกคำถาม
“ผมก็ถามสั้นๆ ประโยคสั้นๆ ว่า ท่านนายกฯ ครับ เมื่อวานที่ได้รอนายกฯ ชี้แจง ผมก็ย้ำนายกฯ หลายครั้ง เมื่อคืนให้ท่านชี้แจง ท่านก็กลับเงียบ และไม่ได้ชี้แจงใดๆ ได้แต่ยิ้มและหันหน้าขึ้นไปถ่ายรูป” นายณัฐพงษ์กล่าว
ถามประเด็นที่จะโรยเกลือต่อที่ ป.ป.ช. นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เรากำลังดูเรื่องข้อกฎหมาย มีหลายประเด็น ซึ่งยุทธการโรยเกลือยังมีช่องทางอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนในกรรมาธิการ หรือไปยื่นตามที่ต่างๆ มีตามมาแน่นอนไม่ต้องห่วง และเรากำลังพูดคุยกันภายในพรรคว่าจะจัดการอย่างไรต่อ พร้อมย้ำว่าเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้ทันที ก่อนมาแถลงข่าวนี้ก็ประชุมกันในพรรคมีการพูดคุยกันหลายประเด็นแล้ว
“ผมเชื่อว่ามีหลายช่องทางที่เราสามารถดำเนินการทำได้ เช่น เรื่องภาษี ถึงแม้ไม่ต้องร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยการนำข้อมูลมาเปิดเผยในสภา ก็สามารถทำให้ครอบครัวของนายกฯ จ่ายภาษีได้ เราทุกคนก็ได้ประโยชน์ รวมถึงยังมีอีกหลายช่องทางมากมาย เป็นสิ่งที่พวกเราศึกษากันอยู่” นายณัฐพงษ์กล่าว
ส่วนยืนยันหรือไม่ว่าการอภิปรายในครั้งนี้ไม่เสียของ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ไม่เสียของอย่างแน่นอน หลายอย่างที่เรานำเสนอ จะมีการดำเนินการต่อแน่นอน ขอให้รัฐบาลตั้งรับไว้ให้ดี ข้อมูลที่เรามีบางอย่างนายกฯ ยังตอบไม่ได้
แพทยสภาสรุปผลสอบชั้น 14
วันเดียวกัน ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภาฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา สอบสวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นเวลาร่วม 6 เดือน ทำให้ไม่ต้องรับโทษจำคุกแม้แต่วันเดียว รวมถึงสอบสวนแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ที่ให้นายทักษิณออกไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยกับ "ไทยโพสต์" ถึงความคืบหน้าการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ดังกล่าวว่า กระบวนการสอบสวนของอนุกรรมการเฉพาะกิจ ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำรายงานผลการสอบสวนเสนอต่อกรรมการแพทยสภา ที่เบื้องต้นมีการนัดประชุมในวันที่ 10 เม.ย.
"ตอนนี้ถือว่าการสอบสวนเสร็จแล้ว เหลือขั้นตอนสรุปทำรายงานและตรวจร่างรายงาน แต่กระบวนการสอบสวนการเก็บข้อมูลถือว่าเสร็จครบหมดแล้ว 99.99 เปอร์เซ็นต์ เรียกว่าครบถ้วนเท่าที่จะสอบสวนวินิจฉัยในชั้นอนุกรรมการฯ ซึ่งในส่วนของเวชระเบียนการรักษาตัวผู้ป่วย รพ.ตำรวจ ก็ส่งข้อมูลมาให้ในส่วนที่จะส่งมาได้ ซึ่งอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าสามารถดำเนินการได้แล้วในส่วนของอนุกรรมการฯ ที่ก็เพียงพอที่จะพิจารณาได้ รพ.ตำรวจก็ส่งข้อมูลต่างๆ ตามที่อนุกรรมการฯ ส่งเรื่องไปให้ส่งมา เขาก็ส่งมาให้หมด รวมถึงตัวแพทย์ รพ.ตำรวจ ก็เดินทางมาชี้แจงกับอนุกรรมการฯ หมด คนที่เกี่ยวข้องที่ถูกร้องก็มาชี้แจงกับอนุกรรมการฯ หมดทุกคน” นพ.อมรกล่าว
ถามถึงผลการสอบสวนจะออกมาทางใด นพ.อมรกล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ อยู่ระหว่างร่างสำนวน และอนุกรรมการฯ จะประชุดนัดสุดท้ายเพื่อตรวจร่างสำนวนและสรุปความเห็นครั้งสุดท้าย ก่อนส่งให้ที่ประชุมใหญ่แพทยสภา โดยรายละเอียดผลการสอบสวนขอให้รอเข้าที่ประชุมแพทยสภาก่อน ซึ่งในการสอบสวนทางอนุกรรมการฯ จะมีการลงมติต่อผลการสอบสวนด้วย ซึ่งจะเอกฉันท์หรือไม่เอกฉันท์ก็ต้องรอผลการประชุม จากนั้นพอได้มติแล้วก็ส่งมติและผลการสอบสวนให้ที่ประชุมใหญ่แพทยสภาต่อไป
"เบื้องต้นแพทยสภาจะนัดประชุมประมาณวันที่ 10 เม.ย. โดยแพทยสภา พอพิจารณาผลการสอบสวนแล้วก็จะมีการลงมติว่าจะเห็นชอบด้วยกับผลสรุปของอนุกรรมการสอบสวนฯ หรือไม่ หรือจะมีความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น จะให้สอบสวนเพิ่มเติม ถ้ามีมติให้สอบสวนเพิ่มเติม อนุกรรมการฯ ก็จะรับไปดำเนินการสอบสวนตามที่แพทยสภามีมติมา” นพ.อมรกล่าว
ถามว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนฯ คิดว่าผลการสอบสวนกระบวนการรักษาคนไข้รายดังกล่าว หากเปิดเผยออกมาสังคมจะยอมรับได้หรือไม่ นพ.อมรกล่าวว่า อย่าเพิ่งคาดเดาเลยว่าสังคมจะยอมรับได้หรือไม่ได้ แต่ยืนยันว่าอนุกรรมการฯ ทำตามเอกสาร ข้อมูลต่างๆ เท่าที่เราจะสอบสวนได้ตามมาตรฐานจริยธรรมทางการแพทย์
“เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จหมดแล้ว ก็ยืนยันว่าเราจะชี้แจงสังคมได้ หากสังคมถาม เราก็ต้องตอบได้ ว่าทำไมผลสรุปเป็นแบบนี้ ต้องมีเหตุมีผล มีเอกสารหลักฐานยืนยันให้ เราไม่สามารถไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้องได้” นพ.อมรกล่าว
ประธานอนุกรรมการสอบสวนฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพิจารณาข้อร้องเรียนและการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมแพทย์ เมื่อมีการให้มีการสอบสวนจริยธรรม และอนุกรรมการสอบสวนฯ พิจารณาเสร็จ พบว่าส่วนใหญ่ที่ประชุมแพทยสภาจะเห็นชอบตามผลการสอบสวนของอนุกรรมการสอบสวนฯ ส่วนใหญ่มติจะเป็นเอกฉันท์หมด จะมีแค่บางกรณี เช่น ที่ประชุมเห็นว่าผลการสอบสวนข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ยังขาดเล็กน้อย ก็ขอให้ไปสอบสวนเพิ่มเติม ไปหาข้อมูลมาจะได้ไม่หลุด ซึ่งอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ถูกสอบสวน ส่วนใหญ่ทำงานละเอียดอยู่แล้ว บางครั้งประชุมกันตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงหกโมงเย็น
“หากที่ประชุมใหญ่แพทยสภาพิจารณาผลสอบสวนแล้ว มีมติต้องการให้อนุกรรมการสอบสวนฯ ทำการสอบเพิ่มเติมอีก ก็คงมีการขยายเวลาออกไปอีกหนึ่งเดือน แต่บอกตรงๆ อนุกรรมการฯ อยากทำงานของเราให้เสร็จเร็ว ซึ่งทางแพทย์ใหญ่และคณะแพทย์ รพ.ตำรวจที่เราเรียกมาชี้แจง เขาก็ให้ความร่วมมือดี ส่งข้อมูลทุกอย่างมาให้ตามกรอบเวลาที่อนุกรรมการฯ วางไว้ คือภายในไม่เกิน 15 วัน โดยแพทย์ของ รพ.ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ก็มาชี้แจงกับเราหมดทุกคน และพูดคุยตอบคำถามกับกรรมการสอบแบบตรงไปตรงมา" ประธานอนุกรรมการสอบสวนฯ กล่าว
ถามว่า มีการเชิญผู้ป่วย (นายทักษิณ ชินวัตร) มาสอบด้วยหรือไม่ นพ.อมรกล่าวว่า ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับกรอบการสอบสวนของเรา เราจึงไม่ได้ไปเชิญเขาหรือทนายความอะไรมา นอกจากที่เราขอให้ รพ.ตำรวจและแพทย์ รพ.ตำรวจส่งข้อมูลและมาชี้แจงแล้ว อนุกรรมการฯ ยังได้ให้ รพ.ราชทัณฑ์ส่งข้อมูลและคำชี้แจงมาให้อนุกรรมการสอบสวนฯ ด้วย เพราะรพ.ราชทัณฑ์กับแพทย์ของโรงพยาบาลก็มีเรื่องถูกร้องเรียนจริยธรรมมาในครั้งนี้ด้วย เราก็เลยต้องเรียกมาสอบสวนจริยธรรมด้วย
ถามว่า การสอบสวนที่ผ่านมาพบความผิดปกติหรือไม่ในการรักษาพยาบาล นพ.อมรระบุว่า เรื่องรักษาพยาบาล ตนก็ว่าเขารักษาพยาบาลได้ถูกต้องนะ เราก็จะสรุปไปว่ามีการบอกว่าเจ็บป่วยกี่ครั้ง อะไรแบบนี้ แบบนี้มี เราก็สรุปไปตามเอกสารที่เราคิดว่าโอเค ถูกต้องแน่นอน ไม่มีปัญหาอะไร แต่เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน
ซักว่าสรุปรักษาถูกต้องหรือ นพ.อมรกล่าวว่า เรื่องการรักษาตนดูแล้ว อ่านแล้ว แต่ยังไม่อยากพูดอะไรไป เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเอาข้อมูลบางส่วนมาพูดก่อนจะไม่ดี ก็เอาเป็นว่าการตรวจสอบครบถ้วน เอาแค่นี้ก่อน รอวันที่ 10 เม.ย.แล้วกัน วันนั้นมาคุยกันอีก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
8แบงก์รัฐโดดอุ้ม เหยื่อแผ่นดินไหว ฉุดศก.ไตรมาส2
8 แบงก์รัฐออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยประชาชนได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
‘เมียนมา’ดับเฉียด2พัน ไทยส่งทีมฉก.ช่วยกู้ภัย
อาฟเตอร์ช็อกเขย่า "มัณฑะเลย์" ปฏิบัติการกู้ภัยหยุดค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวเมียนมา
ล้อมคอกระบบเตือนภัย ชง‘TraffyFondue’ทุกจว.
ล้อมคอกตามสูตร "รมว.ดีอี" เรียก "ปภ.-กสทช.-โอเปอเรเตอร์"
นัดบุกสภายื่นค้านกม.กาสิโน
ปธ.วิปรัฐบาลคาดสภาฯ ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ 9 เม.ย.นี้
อาฟเตอร์ช็อก!สตง. ‘โยธา-คตง.’รุมสอบตึกถล่ม ‘ประจักษ์’เสียใจยันโปร่งใส
ศูนย์เอราวัณเปิดตัวเลขธรณีวิปโยค คนกรุงสังเวยแล้ว 17 ราย “ปภ.”
องค์กรต้านโกง แฉยับผู้รับเหมา ต้นเหตุตึกถล่ม!
อัยการไขปริศนาตึกถล่มใครต้องรับผิดชอบ ข้อ 11 ระบุชัดแม้ตึกถล่มเพราะเหตุสุดวิสัยแผ่นดินไหว กิจการร่วมค้าอิตาเลียนไทยก็ต้องรับผิดสร้างใหม่เอง “กทม.