"ธรรมนัส" ตีปี๊บ! ให้จับตามีกองทัพงูเห่าจากฝ่ายค้านโหวตไว้วางใจ "อุ๊งอิ๊ง" เผย “บิ๊กป้อม” พูดตามสคริปต์ ไม่เจาะลึก ผิดจากที่หวัง ด้าน "สุทิน” เย้ยฝ่ายค้านซักฟอกครึ่งวันแรกมีแต่นามธรรม กล่าวหาลอยๆ คาดหวังไม่ได้ ศึกยังไม่จบประชาธิปัตย์พร้อมหนุนนายกฯ ส่วนท่าที 3 ผู้อาวุโสให้รอมติพรรค
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกว่า จากประสบการณ์เวทีที่ถูกอภิปรายตั้งแต่ปี 2562-2565 มาจนมาถึงปี 2567 ความดุดันในยุคที่ตนเป็นรัฐมนตรีอยู่มีความเข้มข้นกว่า ส่วนข้อมูลเนื้อหาที่อภิปรายตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ แต่ดูแล้วข้อมูลของพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจจะเป็นแต่ละพรรคต่างคนต่างทำ บางพรรคเพิ่งอภิปรายไป อีกพรรคก็ลุกขึ้นมาพูดประเด็นเดิม ทำให้เนื้อหาซ้ำซาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากได้ฟัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายแล้วเป็นอย่างไรบ้าง แกนนำพรรคกล้าธรรมตอบว่า ท่านก็อภิปรายตามสคริปต์ที่เตรียมมา โดยภาพรวมก็พูดดี แต่ไม่ได้เจาะสาระสำคัญหรือเจาะลึกในรายละเอียด
เมื่อถามย้ำว่า ได้คาดหวังไว้ก่อนหรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตรจะพูดในลักษณะไหน จะมีเนื้อหาหลักที่เข้มข้นกว่านี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนคาดการณ์ว่าน่าจะมีประเด็นที่สำคัญ แต่การอภิปราย 10 นาทีของวันนี้ก็เป็นไปอย่างที่เราเห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนมองว่าการอภิปรายของ พล.อ.ประวิตรเป็นไปอย่างอบอุ่น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ต้องยอมรับสไตล์ความเป็นลุงป้อม ท่านเป็นสไตล์แบบนี้ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ ส่วนรายละเอียดคงให้ สส.ในพรรคพูดมากกว่า"
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นคนเคยใกล้ชิด พล.อ.ประวิตรมาก่อน ได้ให้กำลังใจอย่างไร เขาตอบเลี่ยงว่า มาฟังไม่ทันเพราะติดภารกิจข้างนอก จนมาถึงตอนที่ท่านพูดเสร็จแล้ว
ถามว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านได้หยิบยกประเด็นปลาหมอคางดำมาเตรียมอภิปรายด้วย แกนนำพรรคกล้าธรรมเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานตั้งแต่ปี 2550 ถ้าสื่อมวลชนจำได้ ในยุคที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จุดประกายเรื่องนี้ว่าต้องแก้ไขอย่างจริงจัง และตนได้เชิญทุกพรรคการเมืองมาร่วมแก้ปัญหา และขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว. เกษตรฯ ได้เชิญตนและนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส. ฉะเชิงเทรา เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางคำ
จับตากองทัพงูเห่าจากฝ่ายค้าน
ซักว่า จะมีฝ่ายค้านมายกมือให้นายกรัฐมนตรี 10 เสียงหรือมากกว่านั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ให้ดูวันที่ 26 มีนาคมที่จะมีการลงมติ ซึ่งมาจากหลายพรรคที่เป็นฝ่ายค้าน
ถามย้ำว่า ที่ระบุว่าเสียงจากฝ่ายค้านมีของพรรคประชาชนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสเลี่ยงตอบว่า จากฝ่ายค้าน แต่อย่าให้ระบุพรรค ส่วนเสียงที่เติมจะมีจำนวนเท่าไหร่นั้นเป็นไปอย่างที่ตนเคยพูด พูดคำไหนก็เป็นคำนั้น
เมื่อถามว่า เสียงจากฝ่ายค้านมาเพิ่ม 10 เสียง รวมกับพรรคกล้าธรรมเป็น 34 เสียงใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่านายกรัฐมนตรีมีคะแนนล้นหลามอยู่แล้ว
ด้านนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงต้นของวันแรก ว่า เท่าที่ฟังนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในส่วนนายณัฐพงษ์และ พล.อ.ประวิตรไม่ต่างจากที่คาดหมาย คือเป็นนามธรรม เป็นการกล่าวหาลอยๆ มากกว่า ยังขาดตัวบ่งชี้ทางพฤติกรรม เช่น คำว่าดีลแลกประเทศ พยายามฟังว่าไปดีลกันเมื่อไหร่ เรื่องอะไร ยังเป็นการพูดลอยๆ คลุมเครือ ยังไม่เห็นชัดว่าไปดีลกันอย่างไร ส่วนเรื่องพฤติกรรมขาดภาวะผู้นำ รวมถึงการครอบงำ ก็ยังไม่เห็นตัวบ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร เลยดูเหมือนว่าการอภิปรายครั้งนี้ เมื่อเทียบกับการอภิปรายทุกครั้งที่ผ่านมายังไม่มีความหนักแน่นพอ
นายสุทินกล่าวว่า จะมีเป็นรูปธรรมบ้างคือนายวิโรจน์ ที่ดูเหมือนเป็นตัวชี้หรือตัวบ่งชี้พฤติกรรมอยู่ แต่มันเป็นรายละเอียดที่ต้องไปศึกษาอีกครั้ง และต้องฟัง น.ส.แพทองธารตอบ ซึ่งดูน่าสนใจที่นายวิโรจน์ แต่อาจจะใช้อารมณ์บดบังสาระมากไปหน่อย หากเขาตัดเรื่องอารมณ์ เรื่องวาทะการเสียดสีออก ตนว่าสาระจะน่าสนใจกว่านี้ ดังนั้นเท่าที่ผ่านมาในช่วงเช้าวันแรก ในฝ่ายรัฐบาลไม่มีอะไรน่าหนักใจ คิดว่าสมมุติฐานของตน ฝ่ายค้านข้อมูลน้อยอาจจะเป็นความจริงอยู่ โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้านอาจจะเบาหวิวกว่าที่คาด เบาไป เบาที่ตนพูดถึงคือกล่าวลอยๆ ไม่มีตัวบ่งชี้
เหน็บไม่ชัดเจนไม่หนักหน่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพาดพิงคนในตระกูลชินวัตร จะมีการพิจารณาฟ้องกลับหรือไม่ นายสุทินตอบว่า เป็นช่วงที่นายวิโรจน์อภิปราย พูดชัดเจนถึงครอบครัวและเจาะจงให้ร้าย ถ้าไม่ใช่ความจริงเขาก็มีสิทธิ์ฟ้อง ถ้าเขาตอบแล้วและยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง เรื่องนี้ก็ถึงขนาดฟ้องร้องกัน เขากล่าวหาชัดเจน หนักหน่วงมาก
ถามว่า หลังจากฝ่ายค้านอภิปรายจะมีการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไป นายสุทินกล่าวว่า จริงๆ ถ้าทุกคนอภิปรายเรื่องทุจริต และเพื่อแสดงความหนักแน่นควรจะยื่นต่อ ป.ป.ช. ซึ่งต้องดูว่าเขาจะยื่นหรือไม่ เพราะเรื่องภาษีเท่าที่ตนฟังยังไม่ได้สรุป เพียงแต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ต้องฟังนายกฯ ตอบ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรอภิปรายเป็นอย่างไร เขาตอบว่า ท่านพยายามทำให้ดีที่สุดของท่านแล้ว ก็ให้กำลังใจ แต่ถามว่าหนักแน่นหรือเป็นข้อกล่าวหาที่น่าสนใจหรือไม่ ไม่ถึงขั้นนั้น เข้าใจว่าท่านจั่วหัวมากกว่า ต้องรอดูว่าจะมีคนอภิปรายขยายซ้ำหรือไม่ ถ้าอภิปรายเพียงแค่นี้ไม่น่าจะถึงขั้นไม่ไว้วางใจ เมื่อถามอีกว่าคิดเห็นอย่างไร กรณีที่นายกฯ ตอบ พล.อ.ประวิตรที่ลุกขึ้นอภิปราย นายสุทิน กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นมุกให้ทุกคนผ่อนคลายมากกว่า ย้อนให้เป็นการผ่อนคลาย ให้ทุกคนสนุก แต่การตอบจริงๆ จังๆ เชื่อว่าจะมีอีกรอบนึง
กรณี พล.อ.ประวิตรระบุว่า ไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่จะมาฝึกหัดนั้น สส.พรรคเพื่อไทยผู้นี้ตอบว่า เป็นวาทกรรมที่พูดกันมาตลอดว่าเป็นสนามเด็กเล่นบ้าง นายกฯ ฝึกหัดบ้าง ตนว่าไม่ใช่เรื่องฝึกหัดหรอก เพราะการมีทีมงานที่ดี พี่เลี้ยงที่ดี อาจจะดีกว่า ดีกว่านายกฯ ที่อาวุโสแต่ไม่มีทีมงาน อย่างไรก็ตามเท่าที่ฟังการอภิปรายมายังคาดหวังไม่ได้ ถ้ามีคนมาขยายความให้อาจจะทำให้ข้อกล่าวหามีน้ำหนัก สิ่งหนึ่งที่ฝ่ายค้านต้องพูดให้ชัดคือ ต้องขีดเส้นให้ได้ชัดเจนระหว่างครอบงำกับแนะนำ ถ้าฝ่ายค้านไม่สามารถขีดเส้นแบ่งตรงนี้ให้ชัดได้ การอภิปรายตรงนี้จะไม่มีน้ำหนัก ยิ่งภาวะผู้นำยิ่งพูดยาก เรื่องนี้ถ้ามันเป็นธรรมชาติมันแบ่งยาก ความเป็นพ่อ การเป็นคนในพรรคหรืออดีตผู้นำพรรค ด้วยความเป็นห่วงลูกพรรค อาจจะแนะนำกันบ้าง แบบนี้มันคือธรรมชาติ ถ้าจะบอกว่าครอบงำมันต้องระบุด้วยว่าขั้นไหน มันต้องไปดู ดังนั้นฝ่ายค้านน่าจะต้องทำงานหนักในประเด็นนี้
ซูฮก 'ลุงป้อม' ถล่มนายกฯ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า ในการขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจของ พล.อ.ประวิตร นับเป็นประเด็นสะท้อนปัญหาของการบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างชัดเจน ในทุกประเด็นชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง และความไม่พร้อมของความเป็นผู้นำรัฐบาล ในการบริหารประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน รวมถึงความมั่นคงของประเทศที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย และสร้างผลกระทบในระยะยาวของประเทศต่อไป โดยเฉพาะคำอภิปรายของท่านหัวหน้าที่ชี้ให้เห็นถึงความอ่อนด้อยประสบการณ์ของนายกฯ ได้อย่างชัดเจนตลอดทั้ง 10 นาที เช่นที่ระบุว่า
“ผมเห็นใจท่านนายกรัฐมนตรี ที่ท่านต้องมาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่ท่านไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องความมั่นคงของชาติสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศชาติไม่ใช่เวทีที่มือสมัครเล่นจะมาซ้อมมือได้นะครับ”
ทั้งนี้ จากทิศทางการอภิปรายของหัวหน้าพรรค เชื่อว่าตรงใจกับประชาชนที่ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก และมองไม่เห็นถึงโอกาสที่จะลืมตาอ้าปากได้ หากยังปล่อยให้นายกฯ คนนี้บริหารงานราชการต่อไป จะกระทบความเป็นอยู่ของที่น้องประชาชน ซึ่งพรรคได้ติดตามเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน ที่แสดงความคิดเห็นในช่องทางสื่อต่างๆ ล้วนประเมินผลงานของรัฐบาลภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีชุดนี้ยังสอบไม่ผ่าน เหมือนที่ประกาศนโยบายของตนเองออกไป
ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีว่า ยืนยันว่าพรรค ปชป.จะโหวตเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งต้องรอการประชุมพรรคก่อนว่าจะมีมติอย่างไร เราก็มีมารยาทอยู่แล้วในการร่วมรัฐบาล เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยวันที่ 26 มี.ค. พรรค ปชป.จะมีการประชุมก่อนลงมติ ทั้งนี้เราเชื่อมั่นอยู่แล้วว่าไปในทิศทางเดียวกัน
เมื่อถามว่า ผู้อาวุโสทั้ง 3 ท่านของพรรค ปชป.จะโหวตอย่างไร เขาตอบว่าต้องไปถามท่านเอง เราให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว
ถามว่า จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพรรคใช่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ต้องรอวันนั้นดีกว่า ตนตอบแทนใครไม่ได้อยู่แล้ว
ช่วงค่ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรก ว่า ทุกคนก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ซึ่งการอภิปรายก็เป็นการตอบข้อสงสัย ไม่ใช่เป็นการอภิปรายเพื่อเค้นหาความผิด ถ้าเราคิดแบบนี้ ถ้ามีคนสงสัย คนที่ตอบก็มาตอบอยู่ในกติกา เคลียร์กันเป็นประเด็นไป ถึงวันนี้จะไม่มันไม่สะใจ แต่ก็เป็นการตีแผ่ข้อเท็จจริง เราไม่ได้ต้องการให้เกิดความมันหรือปะฉะดะกันเลือดโชก เราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เราก็ตอบ ส่วนข้อมูลก็มาจากหลายๆ แห่ง บางข้อมูลก็เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง อย่างกรณีที่บอกว่าเอาสนามกอล์ฟอัลไพน์มาแลกกับเขากระโดง มันเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง เราก็ชี้แจงแล้วก็ตอบ ไม่มีการแทรกแซง หรือได้รับความกดดันจากผู้หลักผู้ใหญ่
เมื่อถามว่า มองการชี้แจงของนายกฯ เป็นอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯ ก็มีความมั่นอกมั่นใจก็เลยตอบชี้แจงสั้นๆ ในกรณีของกระทรวงมหาดไทย ถ้าลงลึกไปในรายละเอียด เราก็จะเอาข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ เพราะนายกฯ ตอบได้แต่เพียงกรอบนโยบายเป็นภาพกว้าง จะไปตอบมาตรากฎหมายที่เกี่ยวกับที่ดิน นายกฯ ก็คงตอบไม่ได้ ถ้าตอบได้ก็คงไปเป็นอธิบดีกรมที่ดินแล้ว
เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านจะยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นห่วงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวนี้มันเหมือนเป็นขั้นตอนพิธีกรรม ถ้าส่งไปแล้วมันไม่มีหลักฐานอะไรมายันว่ารัฐบาลทำอะไรที่บกพร่อง เราก็ไปแก้ต่าง ซึ่งทั้ง ป.ป.ช.และหน่วยงานอิสระที่ตรวจสอบต่างๆ ก็ยังไม่เคยมีที่คนไม่ทำผิด คนไม่บกพร่อง และถูกกลั่นแกล้ง ตนก็ไม่เคยเห็น เชื่อว่าถ้าเราไม่ได้ทำผิดหรือทำอะไรบกพร่องโดยเจตนาที่ทุจริต ก็ไม่มีอะไรที่ต้องน่ากังวล
"สุดท้ายมันไปจบที่การไว้วางใจ เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็พร้อมที่จะโหวตไว้วางใจนายกฯ ไม่มีขาด ผลโหวตก็น่าจะเป็นเอกฉันท์ นี่คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ถ้าผู้แทนราษฎรไว้วางใจด้วยคะแนนเสียงที่ล้นหลามและไม่มีข้อกังขาใดๆ คิดว่าการดำเนินการอะไรต่อก็ไม่มีผล แต่จะไปห้ามเขาก็ไม่ได้ หากจะมีการยื่นหน่วยงานอะไรก็แล้วแต่ คนที่ถูกยื่นก็ต้องเอาหลักฐานไปหักล้าง" นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านฝีมือตกจากรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทำไมไม่มองว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ทำอะไรบกพร่อง จนทำให้ฝ่ายค้านมาซักฟอกจนยืนไม่อยู่ รัฐบาลอาจจะทำอะไรไม่ถูกใจ แต่ก็ไม่มีที่จะไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆ สิ้นเปลืองเงินเดือนไปวันๆ เราก็ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่บางทีมันอาจไม่ปัง แต่ผลของการปฏิบัติงานก็เห็นอยู่ว่าบรรลุเป้าหมาย บรรลุนโยบายตามที่ได้รับการมอบหมายมา
"รัฐบาลมีความพร้อมมากกว่า รัฐบาลรู้ในสิ่งที่ตนเองทำอะไรไปในช่วง 6 เดือนของการเป็นรัฐบาล ใครถามอะไรมาเราก็ตอบได้หมด ซึ่งเขาก็ถามเพื่อประชาชน เมื่อตอบได้ก็ต้องจบเป็นเรื่องๆ ไป" นายอนุทินกล่าวเมื่อถามว่า รัฐบาลเก็งข้อสอบถูกใช่หรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการ มธ. ชี้ 319 เสียงไม่การันตี ‘รัฐบาลแพทองธาร’ อยู่ครบเทอม
นักวิชาการ ธรรมศาสตร์ ระบุแม้ ‘อิ๊งค์’ ตอบโต้ได้และรอดกฎหมาย แต่ยังมีมิติศีลธรรมจรรยาที่ต้องพิสูจน์ ชี้คะแนน 319 สะท้อนเสถียรภาพรัฐบาล แต่หากทำไม่ได้ตามที่พูด อาจอยู่ไม่ครบเทอม ข้อมูลฝ่ายค้านไม่มีอะไรใหม่ ยกเว้นประเด็นไอโอ ที่ดึงความสนใจมากกว่าตัวเนื้อหาซักฟอก
วาทะและคำท้า : เมื่อ ’แพทองธาร’ บีบ ‘พรรคประชาชน‘ เปิดตัวเลือกพันธมิตรการเมือง!
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ โดยมีระยะเวลาอภิปรายถึง 37 ชั่วโมง และผลการโหวตในเช้าวันที่ 26 มีนาคมไม่ได้พลิกโผแต่อย่างใด
‘อ้วน-ทวี’ระทึก! ศาลรับร้องจุ้นสว.
เซ่นพิษฮั้วเลือก สว. ศาล รธน.มติเอกฉันท์รับคำร้องสอบ "ภูมิธรรม-ทวี"
10เม.ย.ชี้ชะตาชั้น14 หมออมรสรุปสอบชงแพทยสภา/อิ๊งค์ฉลุย319เสียงไว้ใจ
ผ่านฉลุย โหวตลงมติไว้วางใจ "แพทองธาร" ท่วมท้น 319 ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง
บิ๊กเต่าสยบนาคี รวบ‘แก๊งโกงยา’ ทำรัฐสูญ60ล้าน
"บิ๊กเต่า" นำทีม ป.ป.ช.-ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จับ “พ.อ.หญิง-หมอหญิง” ตัวการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก
จับตาครม.เคาะ‘กาสิโน’
จับตา! คลังชง “กาสิโน” เข้า ครม. “จุลพันธ์” เผยส่งกลับร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ถึงมือเลขาฯ ครม. ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว