“ทักษิณ” ติวการบ้าน “อิ๊งค์” เชื่อตอบได้ทุกเรื่องตรงไปตรงมา ตอก ปชน. อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ ลั่นไม่มีใครมีสิทธิ์แลกประเทศ ยันมอนิเตอร์ซักฟอก ด่ามาได้ยิน รับ “ยิ่งลักษณ์” ยังไม่ได้กลับสงกรานต์นี้ “ปธ.วิปรัฐบาล” ประเมินไม่ราบรื่น ขู่ฝ่ายค้านอย่าดรามาป่วนหนัก ระวังเสนอปิดอภิปราย "หัวหอกองครักษ์" ยันไม่ประท้วงพร่ำเพรื่อ รอดูหน้างานเป็นหลัก “อีโต้อีสาน” ลั่นเอาแน่ขืนแตะนาย เพื่อไทยจัด 3 ทีมรับมือ มั่นใจเสียงโหวตไว้วางใจแน่นปึ้ก "เฉลิม" ปัดข่าวร่วมอภิปรายฯ “อนุทิน” การันตี ภท.เสียงไม่แตก นายกฯ ยังไม่มีคุยปรับ ครม. “พปชร.” รุกฆาต “แพทองธาร” จบศึก ยื่น ป.ป.ช.-ศาล รธน.
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 24-25 มี.ค.นี้ ได้ให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้างว่า นายกฯ คงตอบได้ และคงตอบได้ทุกเรื่อง อะไรที่อยู่ในกติกาตอบได้หมด ส่วนเป้าใหญ่ที่เป็นตัวนายกฯ กับนายทักษิณนั้น คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก อะไรตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็ต้องบอกให้รู้ว่ามันไม่อยู่ในกติกา
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะเก็งข้อสอบถูกหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า หากเราอยู่ในโลกความเป็นจริง เขาถามอะไรมาเราก็ตอบตามนั้นได้ หากเขาไม่มีคำถามที่พิสดาร ถามตรงไปตรงมา เราก็ตอบได้ นายกฯ เป็นคนรุ่นใหม่ คงต้องพูดอะไรตรงไปตรงมา
ส่วนกรณี น.ส.แพทองธารรับประทานอาหารเย็นร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล วันที่ 21 มี.ค. คิดว่าจะเป็นกำลังใจหรือไม่ บิดาของนายกฯ กล่าวว่า ได้เจอนายกฯ เมื่อสักครู่ ยังเห็นว่าอารมณ์ดีอยู่ ได้นั่งคุยกันและทำการบ้านนิดหน่อย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นขึ้น ซึ่งคืนนี้นายกฯ หลับสบายเลย ไม่น่ามีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาคือ การดีลแลกประเทศ และดีลหลังจากนี้คือการดีลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ นายทักษิณกล่าวว่า เป็นวาทกรรม เป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าไปใช้วาทกรรมเยอะ ดูแล้วไม่เหมาะ ใครจะเอาประเทศไปแลก ใครมีสิทธิ์แลกประเทศ อย่าไปใช้วาทกรรม มันเลอะเทอะ หมดสภาพ
ส่วนที่นายทักษิณเคยระบุว่าอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาเล่นน้ำสงกรานต์ในปี 68 ตอนนี้ใกล้จะถึงสงกรานต์แล้วติดขัดอะไรนั้น นายทักษิณกล่าวว่า ความอยากกับความเป็นจริงอาจจะไม่ตรงกัน อยากให้มาแต่ยังมาไม่ได้ จังหวะเหมาะเมื่อไหร่ค่อยมา เมื่อถามย้ำว่าเงื่อนไขอะไรบ้างที่ทำให้ยังมาไม่ได้ นายทักษิณกล่าวว่า ความเหมาะสม ซึ่งมีคำจำกัดความของมันอยู่ ความเหมาะสมยังไม่ใช่เวลานี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 24 มี.ค. จะมีการมอนิเตอร์ช่วยนายกฯ หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ผมมอนิเตอร์แน่นอน หากอยากด่าผม ผมได้ยิน ด่าได้เลย ผมได้ยินนะ” เมื่อถามอีกว่า หากมีประเด็นที่แตะนายทักษิณ แต่นายทักษิณไม่มีโอกาสได้ชี้แจง นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร ขอให้ใจเย็นๆ ขอกันกินมากกว่านี้อีก
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับชนชั้นนำของบ้านเรายังดีอยู่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาเลย มีแต่คนมีปัญหากับตน หากใครอยากมีปัญหากับตน ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่ได้ไปตีรันฟันแทงด้วย
ส่วนกรณีฝ่านค้านจะมียุทธการโรยเกลือนั้น อดีตนายกฯ กล่าวว่า เอาเกลือที่ไหนมาโรย เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวตนจะโรยน้ำตาล เขาโรยเกลือ ตนโรยน้ำตาล อย่างไรก็ตาม ตนอยู่ในการเมืองมา 50 ปี ตั้งแต่อายุ 25 ปี เห็นพวกนี้มาเยอะแล้ว ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรแล้ว
เมื่อถามว่า มองการเมืองของพรรคประชาชนอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า อยากให้พรรคประชาชนเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่จริงๆ อายุน่ะใช่ อยากให้เป็นรุ่นใหม่จริงๆ คนรุ่นใหม่เขาตรงไปตรงมา ไม่ใช้วาทกรรม มีอะไรก็ถามกันตรงๆ ตอบกันตรงๆ แล้วก็จบ คนรุ่นใหม่เขาจะไม่ยืดเยื้อ
เมื่อถามย้ำว่า การสาดวาทกรรมใส่กัน ในอนาคตพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะกลับมาจับมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต ฉะนั้น วันนี้พูดไม่ได้ ตอนนี้บทบาทอยู่คนละฟาก ต้องว่ากันไป บทบาทตอนนี้คือฝ่ายค้านกับรัฐบาล อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยน่าจะยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้
ทั้งนี้ นายทักษิณเปิดเผยด้วยว่า จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 13-14 เม.ย.
วิปรัฐบาลขู่ปิดอภิปราย
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 24-25 มี.ค.ว่า ดูแล้วไม่ราบรื่น เป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่การยอวาที ฝ่ายค้านคงกล่าวหาบุคคลในครอบครัวนายกรัฐมนตรีเยอะๆ เพราะต้องการให้รัฐบาลประท้วงมากที่สุด จะได้ถูกประชาชนบูลลี่ แต่ถ้าฝ่ายค้านทำผิดข้อบังคับการประชุมจริงๆ จำเป็นต้องประท้วง
“ถ้าตีรวนปั่นป่วนมากๆ รัฐบาลมีสิทธิ์เสนอให้ปิดการอภิปรายได้ ยกมือตัดสิน ฝ่ายค้านก็แพ้อยู่แล้ว ถ้าอภิปรายกันดีๆ 2 วัน ไม่ว่ากัน แต่อย่ามาดรามาว่ากันมากไป เรื่องกีดกันการอภิปราย ฝ่ายค้านได้ 28 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง กีดกันตรงไหน ยุติธรรมไหม ถ้าจะก่อกวนมากๆ ก็เป็นสิทธิฝ่ายรัฐบาลเสนอปิดอภิปราย เราไม่ได้ขู่ และไม่อยากทำ” นายวิสุทธิ์ระบุ
ส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แนะนำนายกรัฐมนตรีให้ควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าอ่อนไหวคำพูดแดกดันของฝ่ายค้านนั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง นายกฯ อยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เด็ก มีประสบการณ์ทำงานการเมือง มั่นใจควบคุมอารมณ์ได้ ไม่มีโกรธ ซึ่งชาวบ้านอยากฟังเหตุผล ข้อเท็จจริงมากกว่าวาทกรรม
นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ของพรรค เปิดเผยว่า จะไม่ท้วงติงในที่ประชุมสภาฯ ถึงกรณีทำหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ทบทวนการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีผู้นำฝ่ายค้านลงชื่อรับรองการแก้ญัตติแค่คนเดียว เพราะเมื่อประธานสภาฯ ยืนยันการแก้ไขญัตติถูกต้อง
“อยากแนะนำ สส.ไม่ให้ประท้วงพร่ำเพรื่อ ประชาชนจะเบื่อ นิดๆ หน่อยๆ ต้องทนเอา การจะประท้วงต้องดูข้อเท็จจริงกับข้อบังคับการประชุมประกอบกัน หากฝ่ายค้านเอ่ยชื่อถึงท่านทักษิณ และอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องดูคำพูดหน้างาน เจตนา และข้อบังคับการประชุม มาพิจารณาว่าจะประท้วงหรือไม่ ย้ำว่าต้องดูหน้างานเป็นหลัก ไม่สามารถบอกได้ว่าพูดประโยคใดแล้วจะประท้วงทันที” นายประยุทธ์ระบุ
นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย หรือ "อีโต้อีสาน" หนึ่งในทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาฯ กล่าวว่า ทีมงาน สส.ทั้งหมดในชุดดังกล่าว จะไม่ประท้วงสะเปะสะปะ จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ แต่จะต้องอภิปรายภายใต้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพราะเป็นการอภิปรายนายกฯ หากมีการเอ่ยอ้างคนในครอบครัวนายกฯ เราคงจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ได้ เพราะมีกรอบข้อบังคับอยู่ เตือนฝายค้านไว้ว่าระวังจะเข้าตัวเอง อย่าอภิปรายนอกกติกา
เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายเอ่ยชื่อพาดพิงถึงนายทักษิณ ทำได้หรือไม่ นายธีระชัยกล่าวว่า หากมาอภิปรายแบบก้าวร้าว เตือนไว้ว่าจะยิ่งส่งผลลบกับฝ่ายค้านเอง เพราะดูแล้วฝ่ายค้านคงไม่มีหมัดเด็ดอะไรมาอภิปรายนายกฯ คงแค่เอาข้อมูลเก่าๆ มาอภิปราย
“ถามว่าคุณจะให้พ่อกับลูก ต้องเลิกจากความเป็นพ่อเป็นลูกกันหรือไงวะ มันเป็นไปไม่ได้ คนเป็นพ่อเป็นลูกกัน เมื่อนายกฯ มีพ่อเป็นอดีตนายกฯ จะไม่ปรึกษากันเลยหรือ ยืนยันนายกฯ มีอำนาจเต็ม ผมตั้งฉายาฝ่ายค้านชุดนี้ว่า บักสีหาเหตุ ภาษาอีสานคือ หาเหตุไปเรื่อยๆ อันนี้ไม่ได้ก็หาเหตุอื่น ผมอยู่สภามานาน เป็น สส.หลายสมัย ก็ไม่เคยเห็น สส.ฝ่ายค้านยุคไหนเหมือนยุคนี้ ทำตัวเหมือนเด็กยังไม่ได้หย่านม ขอให้พูดแบบสร้างสรรค์ อย่ามาพูดแบบกักขฬะ อย่าพูดแบบปากตลาด” นายธีระชัย ระบุ
ยกอิ๊งค์วันเดอร์วูแมน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกฯ กล่าวว่า ฟังฝ่ายค้านออกแขก ทั้งแสดงความดูถูก เหยียดเพศ หยาบคาย มาตลอดสัปดาห์ ถึงขนาดลงทุนใช้ภาษาต่ำสะดือ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากของ สส. ที่เรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และพูดเสมอว่าอยากทำการเมืองใหม่ มีบางช่วงที่เลยเถิดขนาดบอกตนเองเป็นขบวนการไรเดอร์ เลยทำให้พอเห็นว่าอภิปรายสองวันนี้น่าจะเป็นหนังภารตะ วิ่งไล่ไปมาตามต้นไม้ กว่าจะหาประเด็นได้ คนฟังคงจะหลับเสียก่อน
ส่วนกรณีรองหัวหน้าพรรคประชาชนระบุนายกฯ มีภาวะความกังวลมากในการอภิปรายครั้งนี้นั้น ขอแนะฝ่ายค้านว่า อย่าไปคิดแทนคนอื่น เพราะดูจาก 2-3 วันมานี้ นายกฯ มีความสุขสดชื่น และถือว่าพร้อม ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ เตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงผลงานของรัฐบาลในรอบ 6 เดือนอย่างแน่นปึ้กเรียกว่าฝีมือระดับ Wonder Woman เลยทีเดียว
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 24 มี.ค. ต้องอยู่กันจนถึงเช้าของวันที่ 25 มี.ค. พรรคจึงได้เตรียมทีมที่จะสลับปรับเปลี่ยนที่เข้าไปนั่งในห้องประชุมสภาฯ และพักหรือทำงานได้บ้าง เพื่อที่จะไม่ให้รู้สึกว่าเวลาที่ฝ่ายค้านอภิปราย ไม่มีฝ่ายรัฐบาลนั่งอยู่ในห้องประชุมเลย หรือแม้กระทั่งเวลาที่นายกฯ ชี้แจง ซึ่งขณะนี้กำลังไล่ลงชื่อกันอยู่ ส่วนทีมที่สองจะเป็นทีมสื่อสาร ทีมดูแลสื่อออนไลน์ต่างๆ จะให้ไปอยู่ที่อาคารรัฐสภาเลย เพื่อที่จะได้สรุปประเด็นของผู้อภิปราย และผู้ชี้แจงแต่ละคน เพื่อป้องกันการนำประเด็นไปทำให้เกิดการเข้าใจผิด สำหรับทีมที่สามจะเป็นทีมที่เราเตรียมไว้สำหรับเรื่องข้อบังคับการประชุมต่างๆ
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านออกมายืนยันว่ามีข้อมูลที่เป็นเรื่องทีเด็ดทีขาดเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวนายกฯ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะพรรคเก็งข้อสอบมาแล้วประมาณหนึ่ง ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งบางเรื่องจะเป็นการตอบคำถาม เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัยด้วย
เมื่อถามย้ำ มั่นใจเสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นายดนุพรกล่าวว่า แน่นอน ค่อนข้างมั่นใจ ว่าเสียงโหวตไม่น่ามีปัญหา ที่เป็นห่วงคือเสียงโหวตของฝ่ายค้านมากกว่า ว่าเขาจะมากันครบหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธารนั้น ล่าสุด มีรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และรู้สึกแปลกใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะในขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังอยู่พรรคเพื่อไทย จะไปร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างไร คงไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิด ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะไปร่วมประชุมสภาตามปกติในวันที่ 24 และ 25 มี.ค. นี้ แต่จะไม่ร่วมอภิปราย แม้จะมีความขัดแย้งกับตระกูลชินวัตร แต่เมื่อยังอยู่พรรคเพื่อไทย ต้องดูความเหมาะสมด้วย เพราะถ้าจะไปร่วมอภิปราย อาจจะทำให้เกิดการประท้วง และทำให้ สส.พรรคเพื่อไทยอึดอัดใจได้ เนื่องจากหลายคนยังให้ความเคารพนับถือกันอยู่
ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การประชุมพรรควันนี้ ไม่ใช่การเช็กเสียง สส.ของพรรครอบสุดท้าย ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะพรรคมีเสียงอยู่เท่านี้ ซึ่ง สส.พรรคภูมิใจไทยพร้อมสนับสนุนนายกฯ และไม่เคยมีเสียงแตกแถว โดยจะลงคะแนนเสียงไว้วางใจให้กับนายกฯ ครบทุกคน ไม่มีเสียงแตก และไม่มีเห็นต่าง ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมสมาชิกของพรรคทุกครั้ง ก่อนที่จะมีการอภิปราย เพื่อกำหนดทิศทางการลงคะแนนให้เป็นไปในทางเดียวกัน ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ให้ออกความคิดเห็นในที่ประชุมพรรค แต่เมื่อพรรคมีมติแล้วทุกคนต้องปฏิบัติตาม
นายกฯ ยังไม่คุยปรับครม.
เมื่อถามถึงแนวทางการชี้แจงของพรรคภูมิใจไทย เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างการอภิปรายมักจะนำข้าราชการมาร่วมชี้แจงควบคู่ในสภาด้วย นายอนุทินกล่าวว่า หากมีความจำเป็นที่ต้องชี้แจงในรายละเอียด เมื่อนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงในสภาแล้ว มีทีมคณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองข้าราชการประจำ หรือข้าราชการการเมืองมาชี้แจงเพิ่มเติม โดยมีหลักฐานมายืนยันก็จะทำให้เกิดความชัดเจน ทำให้ข้อสงสัยต่างๆ ได้รับการเคลียร์ ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน
ส่วนดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้พูดคุยเบื้องต้นถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น นายอนุทินยืนยันว่า ไม่มี ไม่มีทาง และไม่ได้พูดคุยกันเลย ซึ่งก่อนหน้านี้นายกฯ ได้ย้ำกับสื่อมวลชนแล้วว่า มีความประสงค์อยากให้รัฐมนตรีได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องแบกความกังวลใดๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะประเมินการทำงานของรัฐมนตรีเอง ดังนั้น เรื่องการปรับ ครม. พวกเราเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าเป็นอำนาจนายกฯ ทั้งสิ้น คงไม่เอาเรื่องนี้มาพูดคุยในโต๊ะอาหาร และในวันนั้นนายกฯ เชิญรับประทานอาหาร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกฝ่ายมีความสบายใจในการสนับสนุนนายกฯ ซึ่งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้คำยืนยันเช่นนั้น
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นลำดับการอภิปรายกำหนดไว้ตามสัดส่วนเวลา ส่วนรายชื่อในการอภิปรายของพรรคประชาชนนั้น ทางพรรคจะมีการทยอยเปิดอีกครั้ง สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ จะมีการสลับเป็นวันแรก และวันที่สองบ้าง
สำหรับประเด็นภาพรวมวันแรกจะเป็นเรื่องใดบ้างนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะมีความหลากหลาย ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับตัวของนายกฯ โดยตรง ในบางประเด็นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับบางกระทรวงบ้าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของนายกฯ โดยตรง ทั้งนี้ เราไม่ได้แบ่งถึงขนาดว่าวันแรกต้องเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ในแต่ละวันนั้นจะมีไฮไลต์อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พอจะสามารถแย้มประเด็นที่พอจะทำให้รัฐบาลต้องหวั่นไหวได้หรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากรั่วเพื่อทำให้รัฐบาลต้องหวั่นไหว รัฐบาลอาจจะไม่หวั่นไหว รอติดตามในการอภิปรายเลยดีกว่า อาจจะเป็นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้อภิปรายเปิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มั่นใจ มีการพูดคุยกันแล้ว รวมถึงในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เท่าที่พูดคุย เขายังมั่นใจว่าจะครบถ้วน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายนัดประวัติศาสตร์ เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ คนเดียว และมีความเข้มข้น เพราะฝ่ายค้านพร้อมเต็มที่ นายกฯ จะเป็นนายกฯ หุ่นเชิด นายกฯ นอมินีหรือไม่ รอดูในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะการอภิปรายในสภาจะไปขอให้คนในครอบครัวบางคนมาช่วยก็ไม่ได้ และอย่าดูเฉพาะตอนอภิปรายอย่างเดียว
รุกฆาตหลังจบซักฟอก
ทั้งนี้ หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีเรื่องอื่นต่อหลายเรื่องที่นำมาอภิปรายมีปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้นที่นำมาขยายผลได้ เช่นเรื่องผลประโยชน์ชาติ หรืออาจจะแปลงเป็นคำร้องต่างๆ เช่น คำร้องยื่นกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือมีการส่งคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับตัวนายกฯ ซึ่งหากทั้งข้อกฎหมาย ความถูกต้องต่างๆ พร้อมทั้งองค์ประกอบ จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นมา
“ต้องรอฟัง อาจจะเปิดมาด้วยกรณีที่ชัดเจน เรื่องของตัวนายกฯ เลย การครอบครองที่ธรณีสงฆ์ เป็นเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หากมีข้อกฎหมายครบถ้วน ถ้านายกฯ ไปกระทำอย่างนั้น ก็ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลมีบรรทัดฐานในการวินิจฉัยไว้อยู่แล้ว และยังมีบรรทัดฐานที่ศาลฎีกาด้วย กรณีอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ และในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการพูดถึงเรื่องการครอบงำ ที่ครอบงำทั้งตัวนายกฯ และตัวพรรคการเมือง เรื่องนี้อย่าประมาท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบไปตั้งเยอะ การอภิปรายไม่ไว้วางใจมันก็จะเสริมเรื่องเข้าไปอีก เกิด กกต.ฟังขึ้นมาแล้วลงมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ สนุกแน่” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐระบุ
ส่วนการลุกขึ้นอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประมาณ 10 นาที จะเป็นการอภิปรายภาพรวม ประเด็นที่เป็นสาเหตุของปัญหาต่างๆ แต่จะไม่ลงรายละเอียด เพราะรายละเอียดเป็นเรื่องของ สส.พลังประชารัฐที่จะอภิปราย ซึ่งอาจจะสอดรับกับดีลแลกประเทศของพรรคประชาชน เพราะการให้นายทักษิณได้อำนาจในการควบคุมประเทศกลายเป็นปัญหาในส่วนที่เป็นผลประโยชน์ อย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวถึงคือ เป็นผลประโยชน์ของส่วนตนของพรรคพวกมาเป็นตัวตั้งก่อนในการกำหนดนโยบาย
“อย่างเรื่องกาสิโนชัดเจน คือกำหนดขึ้นมาจากผลประโยชน์ก่อน คือการมีแล้วได้ผลประโยชน์ ส่วนว่าผลประโยชน์เป็นอย่างไร ก็รอฝ่ายค้านขยี้เอา รับรองขยี้ลึกเลยได้รู้ว่าจะได้เท่าไหร่ด้วย ซึ่งทั้งหมดมันมหาศาลผลประโยชน์ที่เขาจะได้ แล้วค่อยหาคำมาอธิบายเช่นว่าทำแล้วจะดีกับประเทศอย่างไร พยายามแต่งปรุงเข้าไป แต่มันก็รู้เท่าทันกัน หรือ MOU 2544 ที่ไปแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลกับกัมพูชา ตั้งขึ้นมาจากอะไร ก็จากผลประโยชน์ส่วนตัวก่อน เหมือนกับตั้งบริษัทเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว รับสัมปทานอะไรต่างๆ เป็นแสนๆ ล้านเลย รวมถึงตอนหลังเรื่องธุรกิจการเงินที่จะซื้อหนี้ประชาชน ก็จะเปิดช่องให้มีการทำธุรกิจการเงินโดยลดอำนาจธนาคารกลาง ทั้งหมดมีอย่างเดียวก็คือ เอาประเทศไปเพื่อที่จะไปหาผลประโยชน์” นายไพบูลย์ระบุ
เลขาธิการ พปชร.ย้ำว่า พล.อ.ประวิตรตั้งใจมากในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และเป็นเชิงสัญลักษณ์ด้วยว่า พปชร.เอาจริง เราทำจริงทุกเรื่อง เป็นรัฐบาลก็จริง เป็นฝ่ายค้านก็เอาจริง ทั้งหมดที่ทำมา ความคาดหวังคืออยากให้มีการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตรตั้งใจอยู่แล้วว่าจะต้องกลับมา ที่ส่วนตัวมองว่าการยุบสภามีโอกาสเกิดขึ้นได้ ในช่วงก่อนปลายปีนี้ พูดไว้เลยว่ามันมีเหตุที่จำเป็นต้องยุบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จบแล้ว สรุปผลสอบแพทยสภา ปมทักษิณนอนชั้น 14 ชงที่ประชุมใหญ่ลงมติ 10 เม.ย.
ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภาฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา สอบสวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจเป็นเวลาร่วมหกเดือน
ย้อน ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลืมแล้วหรือ ‘ทักษิณ’ ก็คือหนึ่งในท็อปๆคนโกงของประเทศ ที่ศาลตัดสินแล้ว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมสภาฯระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า
เลือก‘ณรงค์-อภิชาติ’นั่งกต.คนนอก
ผู้พิพากษาทั่วประเทศเทคะเเนนเลือก “อ.ณรงค์-หมออภิชาติ” นั่ง ก.ต.คนนอก คุ้มครองอิสระการทำหน้าที่ตุลาการ “สมชาย เล่งหลัก” ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาเก้าอี้ สว. ปมถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี
โจรใต้จ้องบึ้ม สั่งทุกโรงพัก เข้มถึง27มี.ค.
หน่วยมั่นคงชายแดนใต้สั่งทุก สภ.เฝ้าระวังขั้นสูงสุด ตั้งแต่คืน 25-27 มี.ค.
ฝ่ายแค้นจืดหยันเหยาะน้ำปลา
"อิ๊งค์" ยันแจงซักฟอกตรงประเด็น บอกพูดยาวไม่เป็น ชี้พรรครัฐบาลเข้มแข็ง
รัฐบาลปึ้กพ่วงงูเห่า โหวต‘อิ๊งค์’ท่วมท้น/ปิดฉากซักฟอกถลก2พ่อลูกดีลปีศาจ
ดีลแลกประเทศวันสุดท้ายร้อนฉ่า! รังสิมนต์สับ 2 ไอ้โม่งทำให้เกิดดีลปีศาจชั้น 14 ร