แฉ‘กาสิโน’หนุนซอฟต์พาวเวอร์

"วันนอร์” ไม่หนุนหรือเชียร์   Entertainment Complex แต่อยากให้ดูข้อมูลรอบด้าน ให้ ปชช.ตัดสิน ปฏิเสธไม่ได้ไทยมีบ่อนทุกจังหวัด คนไทยชอบเสี่ยง 70% เล่นเสี่ยงโชครอบบ้าน เห็นกับตาแห่นั่งรถตู้ไปปอยเปตทุกวัน "พริษฐ์" แฉรัฐบาลรับการสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์จาก บ.ทำกาสิโนที่เคยถูกออสเตรเลียสอบเอี่ยวการฟอกเงิน-อาชญากรรมในจีน-ติดสินบนในญี่ปุ่น หวั่นล็อกสเปกได้ใบอนุญาติทำกาสิโนถูกกฎหมาย "ประเสริฐ" ปัดเอื้่อประโยชน์ล็อกสเปก อ้างร่าง กม.สถานบันเทิงฯ ยังไม่เข้า ครม.

ที่รัฐสภา เวลา 10.00 น. วันที่ 20 มีนาคม    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนาในหัวข้อ  “Entertainment Complex : ก้าวใหม่ของเศรษฐกิจสังคมไทย” ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร

โดยนายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เรื่อง Entertainment Complex เป็นเรื่องที่หลายวงการให้ความสนใจ และความจริงเรื่องนี้สภาเคยตั้งคณะกรรมการศึกษามาแล้ว แต่ถึงเวลารายงานก็ยุบสภาไปเสียก่อน ในฐานะที่ตนเป็นประธานสภาฯ ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นได้ว่าดีหรือไม่ แต่อยากให้ความเห็นจากที่เคยไปดูงานมาหลายที่ ซึ่งก็มีข้อถกเถียงกัน มีทั้งถูกและผิด  เพราะอาจจะมองไม่ครบรอบด้าน และมองคนละมุม

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เรื่องนี้ควรจะได้มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง รัฐบาลก็มองเห็นเรื่องการฟื้นเศรษฐกิจให้กับประเทศและการท่องเที่ยว การลงทุน แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องขัดกับจริยธรรม และเป็นการมอมเมาประชาชน ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง แต่มุมมองหนึ่งที่ตนคิดว่าไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่อยากพูดถึงจากความเป็นจริง ว่าเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้เราเรียกว่าการพนัน ซึ่งเป็นคำที่ใช้มาตั้งแต่โบราณ รวมถึงใช้คำว่าบ่อนด้วย ซึ่งมีมานานแล้ว มีเยอะด้วย แม้แต่จังหวัดไกลๆ อย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีบ่อน และไม่ใช่จังหวัดหนึ่งมีบ่อนเดียว แต่มีหลายบ่อน แต่กฎหมายไม่ได้อนุญาตให้มี แต่ก็มีตลอด ถ้าจะไม่ให้มีเป็นไปได้หรือไม่ก็ต้องมาคิดกัน

ประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า นอกจากบ้านเราจะมีบ่อนแล้ว รอบบ้านเราก็มี อย่างกัมพูชา เมียนมา และลาว มีเปิดหลายแห่ง ซึ่งคนไปเล่น 70%  ก็คือคนไทย เราก็ห้ามเขาไม่ได้ ตนก็เห็นมาแล้ว แต่ไม่ได้ไปเล่น เช่น เวลาไปเที่ยวก็แวะไปดูความเป็นไป เพราะตนเป็นคนไม่ค่อยกล้าเสี่ยง ก็เห็นว่าคนไทยไปเล่นบริเวณชายแดนและที่ไกลๆ อาจจะเป็นเพราะคนไทยเป็นคนชอบเสี่ยงหรือไม่ ชีวิตนี้อยู่ในความเสี่ยง คนประเทศอื่นอาจจะไม่เหมือนเรา ดังนั้น เมื่อจะออกกฎหมายก็ต้องดูความเหมาะสม เหตุผล ข้อดีข้อเสีย ที่จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน

 “เท่าที่สังเกตรอบบ้านเรา ผมเห็นคนไทยไปเล่นก็ไม่ใช่คนมีเงินมีฐานะ แต่เป็นคนไม่มีฐานะนั่งรถตู้ไปปอยเปตทุกวัน วันละหลายร้อยคน ผมนั่งดูแล้วคนที่ไปการแต่งตัวบ่งบอกถึงคนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า แต่แม่ค้ามีเยอะกว่า ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงจะชอบเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะเป็นนโยบายของผู้ชายที่ให้ผู้หญิงไม่ต้องอยู่บ้าน ตัวเองจะได้ไปที่อื่นได้ จะได้ไม่ต้องมีผู้คุม” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวด้วยว่า การจะทำเรื่องนี้ขอให้ดูข้อมูลรอบด้าน แล้วเอาเรื่องอุดมการณ์กับเรื่องความเป็นจริงในสังคม เพราะคนไทยเราไม่ชอบมองความเป็นจริง เราปฏิเสธความเป็นจริงหลายอย่าง เช่น เรื่องบ่อนที่เราบอกว่าไม่อนุญาตให้มี แต่ความเป็นจริงมีหรือไม่  สิ่งที่ตนพูดมาทั้งหมดไม่ได้เชียร์ว่าให้มีหรือไม่ให้มีบ่อน เพราะขึ้นอยู่กับกาลเวลา และการพิจารณาโดยรอบด้าน ผู้ตัดสินใจคือประชาชน เพราะรัฐบาลก็มาจากประชาชน คนค้านก็ประชาชน จึงขอให้ตัดสินใจให้ดี

ขณะเดียวกัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ต่อ น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่ง น.ส.แพทองธารมอบหมายให้นายประเสริฐ​ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาตอบแทน

โดยนายพริษฐ์กล่าวว่า ภารกิจทั้งหมดของซอฟต์พาวเวอร์ ถูกขับเคลื่อนผ่านกลไกสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ หรือทักก้า  (THACCA) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเมื่อวันที่ 8 มกราคม ทักก้าแถลงประกาศโครงการใหม่ ที่เป็นความร่วมมือกับบริษัทเอกชนชื่อว่า  Melco Resorts & Entertainment โดยความร่วมมือนี้ คงเป็นความร่วมมือที่รัฐบาลมีความภาคภูมิใจ ว่าประเทศเราจะได้รับผลประโยชน์ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมไปแล้ว 2 กิจกรรม จึงอยากสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า ความร่วมมือระหว่างทักก้ากับบริษัทเมลโคนั้น มีกิจกรรมอะไรบ้าง มีการเซ็นสัญญาหรือไม่ งบประมาณของกิจกรรมที่เคยจัดมานั้นเป็นเท่าไหร่ ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่าย กิจกรรมที่จะตามมาในปีนี้นั้น จะมีอะไรอีกบ้าง ค่าใช้จ่ายจะเป็นเท่าไหร่ ใครเป็นคนออก

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า รายละเอียดหนึ่งในการร่วมมือของทักก้ากับบริษัทเมลโคนั้น ยังไม่มีการพูดถึง เป็นเหมือนช้างในห้องที่ยังไม่มีใครพูดถึง คือบริษัทเมลโคนั้นความจริงเป็นบริษัทกาสิโน และพอคาดการณ์ได้ว่าบริษัทต่างๆ ที่สนใจจะมาร่วมมือกับทักก้า เพราะรัฐบาลไทยมีแผนที่จะออกใบอนุญาตให้กับกาสิโนในประเทศ

นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าบริษัทเมลโคมีธุรกิจกาสิโนเป็นธุรกิจหลัก และดำเนินการเปิด 5 แห่งใน 3 ประเทศ กำลังจะมีแห่งที่ 6 ในประเทศที่ 4 นอกจากนี้ กรณีที่รัฐบาลเลือกทำความร่วมมือแบบพิเศษกับบริษัทที่ทำธุรกิจกาสิโน จะมีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจร่วมมือกับบริษัทดังกล่าวต่อการออกใบอนุญาตให้ทำกาสิโน ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดต่อการออกกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรหรือไม่  หากระบุว่าต้องร่วมมือ เพราะเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรที่มีชื่อเสียงได้ จะพูดได้หรือไม่ว่ารัฐบาลไม่สามารถขอความร่วมมือจากบริษัทอื่นได้ และหากยืนยันว่าต้องร่วมมือกับบริษัทดังกล่าวจริง  เคยศึกษาละเอียดหรือไม่ว่าบริษัทที่ทักก้าร่วมมือนั้น เขาทำธุรกิจที่น่ากังวล

 “แม้ว่าไม่เคยพิสูจน์ว่าทำผิด แต่การค้นหาจากอินเทอร์เน็ตมีการรายงานข่าว ว่าถูกสอบสวนจากหน่วยงานที่ประเทศออสเตรเลีย ที่พบซื้อหุ้นในกาสิโนที่มีปัญหาการฟอกเงิน และเคยร่วมธุรกิจกับนายหน้าที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมในจีน และบริษัทดังกล่าวเคยถูกสอบสวนจากหน่วยงานญี่ปุ่น ที่นักการเมืองญี่ปุ่นไปรับสินบนจากอีกบริษัทหนึ่ง” นายพริษฐ์กล่าว

นายพริษฐ์ตั้งคำถามอีกว่า เพราะมีความกังวลต่อการล็อกสเปกบริษัท ที่จะได้รับอนุญาตทำกาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งตนมองว่า บริษัทที่ทำธุรกิจกาสิโนแห่งหนึ่งได้ให้ประโยชน์กับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ประธานพิจารณาการให้ใบอนุญาตกาสิโนตามร่างกฎหมาย ควรพิจารณาการทำหน้าที่ที่ไม่มีผลประโยชน์ขัดกัน

ขณะที่นายประเสริฐชี้แจงว่า บริษัทดังกล่าวเป็นผู้สนับสนุนงานด้านศิลปะและซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ ดังนั้นกรณีที่เมลโคให้ความสนับสนุน และทำงานร่วมกับทักก้า จึงไม่แปลก เพราะมีกิจกรรมและมีลักษณะของภารกิจที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเมลโค และไม่เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตกาสิโน

ส่วนกฎหมายที่ระบุไว้นั้น ยังอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น และคณะรัฐมนตรียังไม่ได้พิจารณา ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่เมลโคจะได้รับใบอนุญาตตามร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร รัฐบาลไทยไม่ได้กีดกันบริษัทอื่น หากมีบริษัทใดในโลกต้องการทำร่วมกับไทยในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์นั้น ยินดี แต่เมลโคได้เสนอเงื่อนไขที่ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์ บริษัทดังกล่าวจดทะเบียบถูกต้อง และดำเนินธุรกิจมานาน ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าถูกตรวจสอบนั้น ไม่เคยมีคำวินิจฉัยว่ามีความผิด แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะใช้ความระมัดระวัง หากเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย หรือไม่ถูกต้อง หรือมีคำวินิจฉัยจากหน่วยงาน จะระวังเป็นพิเศษ

 “ตามร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ที่มองว่ามีเงื่อนไขการออกใบอนุญาตการประมูลผ่านคณะกรรมการนั้น ต้องดำเนินการในหลายขั้นตอน ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรีเมื่อใด ดังนั้น ไม่อยากสรุปว่ารายละเอียดสุดท้ายเป็นอย่างไร ผมขอยืนยันว่า แม้บริษัทนี้จะให้ความสนับสนุนในด้านต่างๆ แต่จะไม่ได้รับความได้เปรียบจากรัฐบาล ไม่ใช่ว่ามาช่วยแล้วได้สิทธิพิเศษ ส่วนการป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ก็ต้องระวัง และร่าง พ.ร.บ.ทักก้าอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะทันสมัยนี้หรือไม่ แต่จะพยายามดูว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อ" นายประเสริฐกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง