มัด‘อิ๊งค์’ดิ้นไม่หลุด! ปชน.โวมีหลักฐานแน่น/พปชร.ขู่ไม่ร้องไห้ก็ลาออก

"ประธานสภาฯ" ขอ “ฝ่ายค้าน” ซักฟอกตามกรอบข้อบังคับหลังจ่อโยงถึงยิ่งลักษณ์  "อิ๊งค์" พร้อมสู้ศึกอภิปราย บอกลากยาวถึงตี 5  ต้องสลับเวรไปดูแลลูกบ้าง ปัดไม่มีดีลแลกประเทศให้พ่อกลับบ้าน วอนใช้เหตุผลอย่าใช้แต่อารมณ์ "เพื่อไทย” ผุด 20 ขุนพลพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ “ประยุทธ์-หมอชลน่าน-สุทิน” นำทีม ย้ำไม่ใช่องครักษ์นายกฯ แค่คุมกฎ เหตุฝ่ายค้านบางคนกินยาผิดซองส่งสัญญาณสร้างความวุ่นวาย "โรม" ลั่นมีหลักฐานทาง กม.มัด "นายกฯ อิ๊งค์" ดิ้นไม่หลุด "พปชร." บอก "บิ๊กป้อม" ซักฟอก 18 นาที แย้มมีทีเด็ดถึงขั้น "แพทองธาร" ไม่ร้องไห้ก็ลาออก สภาเดือด! “รมต.” เบี้ยวตอบ 6 กระทู้ทั่วไป "ปธ.วิปรัฐบาล" ฉุนบอกถ้าฝ่ายค้านยื่นซักฟอกยกมือให้เปลี่ยนตัวแน่

ที่รัฐสภา วันที่ 20 มีนาคม 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยอมรับอาจจะมีการอภิปรายพาดพิงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าต้องดูว่าพาดพิงอย่างไร และกติกาว่าอย่างไร ซึ่งต้องดูไปตามกติกาหรือข้อบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร คงไม่มีอะไร เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีมาตลอด  ขอให้ทุกคนคำนึงถึงความเรียบร้อย ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องธรรมดา จะหาความเรียบร้อย 100% คงยาก และการพาดพิงต้องดูว่าสร้างความเสียหายอย่างไร

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอดมาก็มีการพาดพิง แต่ก็ต้องดูประธานในที่ประชุมจะดูตามข้อบังคับว่าไปได้อย่างไรขนาดไหน เพื่อให้การประชุมดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย และต้องคำนึงว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราเปิดการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ประชาชนและสื่อมวลชนก็มีการติดตาม  ฉะนั้นคิดว่าผู้อภิปรายต้องคำนึงถึงความเหมาะสม

ถามว่า หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องก็โยงถึงกันได้ถ้าไม่มีความเสียหายใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยังไม่สามารถจะพูดได้ เพราะต้องดูในวันที่มีผู้อภิปราย แต่ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องช่วยกันดูว่าจะทำให้เกิดความเรียบร้อย และให้ประชาชนชื่นชมได้สาระในการประชุม ซึ่งเขาจะได้ชี้ว่ารัฐบาลมีข้อบกพร่องอย่างไร

ประธานสภาฯ กล่าวถึงการอภิปรายวันแรกจะยาวไปถึงเวลา 05.30 น.ว่า เราก็อภิปรายมาเกิน 05.00 น.ก็มี ซึ่งต้องสลับกัน บางคนอาจจะต้องพักรับประทานอาหารบ้าง ซึ่งคนอภิปรายและรัฐบาลในส่วนที่เกี่ยวข้องก็ต้องอยู่ แต่ที่ต้องอยู่ตลอดคือประธานทั้ง 3 คน ที่ต้องสลับกันเป็นประธาน โดยตามที่ตกลงกันมีการรายงานมาว่าจะมีการอภิปรายเต็มที่วันแรกถึง 05.30 น. และวันที่ 25 มี.ค. ซึ่งถือว่าเป็นวันอภิปรายวันที่สอง จะใช้เวลาถึงประมาณ 23.30 น. โดยจะไม่เกิน 00.00 น. แล้วจะลงมติในวันที่ 26 มี.ค. เวลา 10.00 น. ซึ่งเขามีเงื่อนไขอีกว่าหากฝ่ายค้านยังอภิปรายไม่ครบชั่วโมงตามที่ตกลงกันคือ 28 ชั่วโมง วันที่ 25 มี.ค. ก็ต้องเลยไปในวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งไม่รู้จะจบตอนไหน แต่ก็ไม่สามารถจะลงมติได้ในวันเดียวกัน ฉะนั้นก็ต้องไปลงมติในวันที่ 27 มี.ค.แทน

ซักว่า วันที่ 27 มี.ค. เป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า  ต้องประสานกันตอนหน้างานอีกทีหนึ่ง เพราะหากอภิปรายแล้วไม่มีอะไร ก็คงจะขอหยุดได้ และหากถ้าเขายังมีอะไรอยู่ หรือพูดไม่หมด เรื่องนี้วิปทั้ง 3 ฝ่ายคงจะต้องประสานกันหน้างาน

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบข้อถามสื่อถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ 2 วัน 2 คืนนายกฯ ไหวหรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวติดตลกว่า "เครื่องดื่มชูกำลังต้องเข้าแล้วค่ะ" ก่อนหัวเราะพร้อมกล่าวอีกว่า "ไหวค่ะ ก็เต็มที่ เตรียมข้อมูลกันไป"

ถามว่า การอภิปรายวันแรกจะลากยาวถึงเวลา 05.30 น. นายกฯ จะอยู่ตลอดเลยหรือไม่  นายกฯ ย้อนถามสื่อว่า “จริงไหม ถึงเวลา 05.30 น.” ด้านสื่อมวลชนตอบกลับว่า เห็นว่าตามนั้น นายกฯ จึงลากเสียงยาวตอบกลับว่า “อืม”

อิ๊งค์บอกซักฟอกอย่าใช้อารมณ์

ซักว่านายกฯ จะอยู่ได้ตลอดใช่หรือไม่ นายกฯ หัวเราะก่อนกล่าวว่า คิดว่าไม่ถึงเวลาตีห้าครึ่งแน่นอน ต้องกลับไปนอนบ้าง เพราะมีวันต่อไปด้วย แต่คงจะมีการคุยและผลัดเวรกันอยู่ อยู่คนเดียวทั้งหมดคงไม่มีใครน่าจะอยู่ตลอด ก็คงสลับกัน

เมื่อถามว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แซะนายกฯ แรงว่าคงอยู่ไม่ถึงตี 5 ต้องรีบกลับบ้านไปหาลูก น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ก็จริง ก็คงอยู่ไม่ถึงตีห้าครึ่ง เมื่อถามต่อว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าอย่างไรบ้าง ภายหลังมีการเปลี่ยนญัตติไม่มีชื่อของตนเอง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้พูดอะไรเลย ความจริงถ้าพูดอะไรมาก็ตอบไปตามนั้น

ถามต่อว่า มันเป็นจริงอย่างที่ฝ่ายค้านว่าหรือไม่ว่าเป็นดีลแลกประเทศ น.ส.แพทองธารอุทานว่า “โอ้โห” ก่อนกล่าวอีกว่า "ประเทศถูกแลกกับอะไรเหรอคะ ก็ไม่มี จะถามว่าจริงไหมได้อย่างไร ไม่มีอยู่แล้ว ใครเขาจะไปแลกประเทศ คิดเล็กๆ ก็ได้ค่ะ เราจะแลกของมีค่าของเราไหม เราไม่แลกหรอก ใช่ไหมคะ ใครมาอยู่ตำแหน่งตรงนี้จะไปแลกประเทศหรือแลกอะไร มันไม่ใช่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นอะไร ก็สร้างธีมให้มีสีสันไปจะได้น่าติดตาม"

ย้ำว่า ดีลแลกประเทศที่บอกว่าเอาผลประโยชน์ของตระกูลชินวัตรมาแลกกับผลประโยชน์ประเทศ นายกฯ ตอบสวนทันทีว่า  “ตระกูลชินวัตรได้อะไร” ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าได้การกลับมาของนายทักษิณ นายกฯ กล่าวว่า ได้คุณพ่อกลับมา อ๋อ เป็นเรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดไป  มันไม่ใช่จะเป็นเรื่องเดียวตลอดไป และจะทำอะไรก็ตามไม่ใช่เป็นการดีลแลกไปหมด แต่ต้องใช้เหตุผลด้วย อย่าใช้แต่อารมณ์

ส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. แถลงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ว่า เราจะไม่มีองครักษ์ แต่ทีมของเราชื่อว่าเป็นทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุม ซึ่งไม่ได้เกิดมาเพราะจะไปประท้วงอะไร หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงไปตรงมา ทำงานด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน จะไม่มีใครลุกประท้วง และท่านจะได้อภิปรายอย่างสบายๆ แน่นอน เพราะหากมีการประท้วงก็จะตัดเวลาของฝ่ายรัฐบาลออกไป เราเห็นว่าเวทีนี้เป็นเวทีแถลงผลงานของรัฐบาลเช่นกัน

นายอนุสรณ์กล่าวว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวจะมีที่ปรึกษาพิเศษ นำโดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรค พท. ซึ่งจนถึงวันนี้เราไม่มั่นใจว่าฝ่ายค้านอยากอภิปรายจริงหรือไม่  เพราะมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การตั้งคำถาม เพราะหากคนที่อยากอภิปรายอะไรที่เป็นปัญหาเขาจะไม่ทำ แต่นี่เขาเลือกจะทำ เช่น การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก จึงตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วฝ่ายค้านไม่ได้อยากอภิปราย เพียงแค่อยากสร้างคอนเทนต์และโปรโมตโฆษณาพรรคตนเอง เพื่อหวังผลไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

"หลังๆ เพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านบางคนซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคยชื่นชม และเคยเห็นการทำงานของเขาอย่างสร้างสรรค์ เหมือนเป็นการกินยาผิดซอง ตาขวางๆ ปูดๆ โปนๆ บางคนบอกว่าเป็นพฤติกรรมเถื่อน ถ่อย หยาบคายหรือไม่ ผิดไปจากท่วงทำนองแบบเดิม ที่เคยทำงานอย่างสร้างสรรค์ เราจึงเฝ้าระวังและตั้งคำถามต่อด้วยว่า หรือไม่ต้องการอภิปราย แต่หวังมาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลเราประท้วง ก็จะถูกตัดเวลาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะไปสมวัตถุประสงค์ของเขา คือจากอภิปรายวันที่ 24-25 มี.ค. ก็จะไปอภิปรายต่อในวันที่ 26 มี.ค. วัตถุประสงค์คือสร้างคอนเทนต์หวังคะแนนหรือไม่ ดังนั้นจึงเปิดตัวทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมพรรค พท. โดยจะไม่มีการแบ่งเป็นชุดใดๆ ทุกคนพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุสรณ์กล่าว

พท.ผุด 20 ขุนพลพิทักษ์ข้อบังคับ

ถามว่า หากการอภิปรายมีการพาดพิงชื่อนายทักษิณ จะมีการประท้วงหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า ชัดเจนครับ ทุกครั้งที่มีการประท้วงเราจะชี้ข้อบังคับชัดเจนว่าผิดข้อบังคับข้อใด และผิดอย่างไร อำนาจในการวินิจฉัยไม่ใช่อำนาจของพวกเรา เพียงแค่เราทำหน้าที่สื่อสารไปยังประธาน

ถามย้ำว่า หากผิดข้อบังคับจะประท้วงทันทีหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น แต่เราต้องดูว่าเนื้อหาที่เขาอภิปรายนั้นผิดข้อบังคับหรือไม่

เมื่อถามว่า อาจจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมนั้นเป็นการแสดงผลงานให้นายใหญ่เห็นหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า  ไม่เข้าใจ และไม่แน่ใจว่านายใหญ่หมายถึงใคร  คนที่มาทั้งหมดเป็น สส. ซึ่งหากจะอภิปรายนายกรัฐมนตรี ก็ต้องชี้ให้ชัดว่านายกรัฐมนตรีทำงานผิดพลาดเรื่องอะไร บริหารราชการแผ่นดิน นโยบายผิดพลาดอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงลุกขึ้นชี้แจง ไม่มีความจำเป็นที่ชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะลุกขึ้นมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาพรรคเพื่อไทยนั้น ประกอบด้วย นายประยุทธ์, นพ.ชลน่าน, นายสุทิน, นายอนุสรณ์, ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ, นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม, นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย, น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย, น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ, น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี, นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี, นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์, นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี, นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี, นายวิรัช พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์, นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์, นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ, นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการนัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลวันที่ 21 มี.ค. จะเป็นการซักซ้อมความพร้อมการอภิปรายหรือไม่ว่า ได้พูดคุยกันมาตลอด และคิดว่านายกฯ คงไม่ได้นัดเพื่อจะมาซักซ้อมเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเดียว คงเป็นการพบกันระหว่างแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล  ที่ควรจะมีบ่อยๆ จะได้ทำงานร่วมกัน ประสานงานกันอย่างเต็มที่

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน  (ปชน.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ  ว่า ยืนยันรอบนี้สะเทือนแน่นอน คงไม่ได้มาพูดให้ดูน่าตื่นเต้น ได้เห็นข้อมูลแล้วค่อนข้างมั่นใจว่ารอบนี้คุณแพทองธารเหนื่อยแน่นอน เพราะหลักฐานหลายๆ อย่างค่อนข้างมัดตัว และมัดตัวชนิดที่ว่านึกไม่ออกว่าคุณอุ๊งอิ๊งจะดิ้นหลุดได้อย่างไร ฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เชื่อว่าประสิทธิภาพของการอภิปรายจะส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาล

"ไม่ใช่ต้องการล้มรัฐบาล แต่ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ว่ากันไปตามปัญหาที่ น.ส.แพทองธารได้ก่อเอาไว้ อย่าไปคิดว่า น.ส.แพทองธารทำหน้าที่มาไม่กี่เดือนแล้วมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นั่นไม่ใช่ แต่ต้องบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในยุคสมัยของ น.ส.แพทองธาร มีความต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีต ตั้งแต่ยุคของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน บางเรื่องอาจจะทำไปโดยที่ น.ส.แพทองธารก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ" นายรังสิมันต์กล่าว

โรม-พปชร.มีทีเด็ดคว่ำนายกฯ

ถามว่า จะสะเทือนเหมือนเรื่องตั๋วช้างในอดีตหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า อาจจะสะเทือนกว่าด้วยซ้ำไป เรื่องนั้นเป็นเพียงเชิงการรับรู้ แต่ครั้งนี้ในเชิงการเอาผิดทางกฎหมายชัดเจนมาก

ซักว่ามีข้อมูลที่ได้มาจากฝั่งรัฐบาลหรือไม่  นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าเรามีข้อมูลหลายทาง ตนคงไม่กล้าที่จะยืนยันว่าข้อมูลได้มาจากใครบ้าง แต่คิดว่าข้อมูลทั้งหมดมาจากหลายส่วน และทำให้เห็นเป้าของ น.ส.แพทองธารอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. ยืนยันกับไทยโพสต์ว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นไฮไลต์ที่ประชาชนไม่ควรพลาด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค จะขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก โดยใช้เวลา 18 นาที ก่อนส่งต่อให้ทีม สส.ของพรรคที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ร่วมกันขยายรายละเอียดในประเด็นสำคัญ ซึ่งรวมแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

 “หัวหน้าพรรคจะอภิปรายถึงความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ จากนั้น สส.ของพรรคจะนำเสนอประเด็นต่างๆ ที่มีหลักฐานประกอบอย่างแน่นหนา” พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

โฆษก พปชร.กล่าวว่า ช่วงท้ายของการอภิปราย จะมีการเปิดฐานหลักฐานที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีเจอทางตัน อยากให้รอดู เราจะเปิดพยานหลักฐานหลายอย่าง รับรองว่านายกฯ จะลำบากแน่นอน ไปไม่เป็น มีอยู่สองทางคือ ร้องไห้ หรือไม่ก็ลาออกเลย

ที่รัฐสภา กลุ่มนิรโทษกรรมประชาชน ยื่นหนังสือถึงนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน และคดีทางการเมืองด้วย เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งมี น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน เป็นตัวแทนรับหนังสือ

 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวว่า จริงๆ น.ส.แพทองธารเป็นคนที่รู้เรื่อง หรือพูดว่ารู้สี่รู้แปดก็ได้ เพราะเคยพูดหาเสียงว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะขอร้องต่อศาล หรือขอความเมตตาจากศาล เพื่อปล่อยตัวพวกเขา รวมถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และนายเศรษฐาก็เคยกล่าวไว้เช่นเดียวกัน จึงอยากให้เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปราย ว่าสิ่งที่เคยหาเสียงไว้นั้นไม่ได้ดำเนินการ

วันเดียวกัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ  คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังเสร็จสิ้นการตั้งกระทู้ถามสดและกระทู้ทั่วไป 6 กระทู้  ซึ่งไม่มีรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ ทำให้ต้องเลื่อนการตอบกระทู้ออกไป โดยกำลังจะเข้าสู่วาระตามปกติ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ลุกขึ้นแสดงความไม่พอใจการเลื่อนกระทู้ 6 กระทู้ที่รัฐมนตรีไม่มาตอบ

จากนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล  กล่าวว่า วันนี้กระทู้ถามสดก็ยังมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาตอบ แต่กระทู้ถามทั่วไปแจ้งล่วงหน้าไปหลายเดือนว่าจะต้องมาตอบในสภา ก็เห็นใจว่าฝ่ายค้านอยากถาม และตนก็อยากถามเหมือนกัน

"จริงๆ ถ้าท่านใส่ชื่อรัฐมนตรีไปหลายท่านในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมอาจจะยกมือสวนให้ เปลี่ยนได้เปลี่ยน เพราะมีแต่นายกฯ ฉะนั้นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีทั้งหลาย ต้องมีต่อสภา โดยเฉพาะในวันพฤหัสบดีเช้า จะไปที่ไหนกรุณาทำหนังสือไปถึงว่าให้รับผิดชอบด้วย ไม่ใช่โยนภาระให้แต่พวกเราในสภา ความรับผิดชอบต้องมีต่อสภา เสียดายท่านไม่ถามรัฐมนตรีทั้งหลาย ผมจะได้ช่วยท่านยกมือให้ออกไป" นายวิสุทธิ์กล่าว

ทำให้นายพิเชษฐ์ตอบกลับว่า ท่านประธานวิปรัฐบาล ถ้าท่านเป็นรัฐมนตรีก็อย่าลืมมาตอบทุกครั้งนะ ห้ามเลื่อน ซึ่งทั้ง 6 กระทู้เขาเลื่อนไปในวันที่ 3 และ 10 เม.ย. คงคิดว่าตอบได้ และขอให้สำนักการประชุมทำหนังสือถึง ครม. ตนให้ข้อสังเกตไปว่า เป็นการบังเอิญหรือไม่ ที่ 6 กระทู้ไม่มาตอบเลย และแจ้งให้ ครม.ทราบด้วย เพราะอยู่ต่างกระทรวงกัน บางทีไม่ทราบว่าคนโน้นคนนี้เลื่อน จึงขอให้สำนักการประชุมทำหนังสือถึง ครม.ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง