"นายกฯ อิ๊งค์" ยันเจอ "เนวิน" ไม่มีคุยเรื่องคดีฮั้ว สว. ปัดกระทบงานรัฐบาลกับสภาสูง "อดิศร" ไล่บี้ “ปปง.” เร่งสอบปมผิดฐานฟอกเงิน พร้อมตกรางวัลให้ "เลขาฯ ป.ป.ช." แจงยังไม่ได้ตั้งอนุไต่สวน "ทวี-อธิบดีดีเอสไอ" แค่อยู่ในขั้นตรวจสอบ "ประธาน กกต." เผยมี 27 คำร้องเข้าข่ายฮั้ว ยันทำไม่ช้า แต่พยานเยอะต้องใช้เวลา ห่วงรีบสรุปกระทบความยุติธรรม
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 มีนาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพบกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ระหว่างร่วมงานนิทรรศการผ้าไทย "Colors of Buriram" ที่ จ.บุรีรัมย์ วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกรณีคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ฐานฟอกเงินเป็นคดีพิเศษว่า "ไม่ได้คุย ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้เป็นห่วงอะไร" ส่วนก่อนหน้านี้พบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ไม่มีการพูดคุยเช่นกัน
เมื่อถามกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เล่นงาน สว. จะทำให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่นหรือไม่ เพราะต้องมีกฎหมายผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ อยากให้แยกคนละส่วน เพราะเราทำงานฝั่งของเราเต็มที่อยู่แล้ว ถ้าได้รับการสนับสนุนจาก สว.จะเป็นเรื่องดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ดีเอสไอพยายามดำเนินคดีกับกลุ่ม สว. เพราะต้องการให้เปลี่ยนสีใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารย้อนถามกลับว่า "เปลี่ยนจากสีอะไรเป็นสีอะไรนะ" สื่อมวลชนจึงตอบว่าเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง นายกฯ จึงอุทานว่า "อ๋อ ไม่มีหรอกค่ะ"
ด้านนายอนุทินกล่าวว่า นายเนวินดีใจที่นายกฯ ไปถึงจังหวัดบุรีรัมย์ ชาวบุรีรัมย์ก็ดีใจที่นายกฯ ไปร่วมรับเสด็จ
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระการพิจารณารับทราบผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งคำถามต่อการดำเนินงานของสำนักงาน ปปง. กรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีกระบวนการฮั้วการเลือก สว. ซึ่ง ปปง.มีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา ดังนั้นขอสอบถามความคืบหน้าว่า จะรับไว้เฉยๆ หรือเอาจริง หากทำได้มีหลายคนในสภาจะให้รางวัล ขอให้ ปปง.ทำเรื่องฮั้ว สว.ให้เป็นผลงานชิ้นโบแดงด้วย
ด้านนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง. ชี้แจงว่า ขณะนี้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษในส่วนของคดีอาญาฟอกเงิน ซึ่งการทำงานของสำนักงาน ปปง. เบื้องต้นประสานงานความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างดีเอสไอและ กกต. เพื่อดำเนินการต่อความผิดมูลฐาน โดย กกต.เป็นผู้ส่งเรื่องมาที่ ปปง.ดำเนินการ แต่กรณีคดีอาญาฟอกเงิน จุดเริ่มต้นคือดีเอสไอ และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน หากมีความคืบหน้าตามความผิดมูลฐาน ปปง. ต้องทำตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ สว.ยื่นให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรทำ อธิบดีดีเอสไอ กรณีรับคดีฮั้ว สว. ฐานฟอกเงินเป็นคดีพิเศษว่า ทุกคดีมีขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อมีการกล่าวหามาต้องมีการตรวจรับ หากเห็นว่าอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. เช่น การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่กระทำผิดต่อหน้าที่ เราจะรับดำเนินการ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้น เป็นขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบ แต่คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน ได้รายงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ทราบ ว่ามี สว.มายื่นร้องเรียน ซึ่งจากนั้นจะเป็นเรื่องของสำนักงานในการตรวจสอบต่อไป แต่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าการรับทราบคือการตั้งคณะไต่สวน โดยยืนยันว่ายังไม่ได้ดำเนินการ ทั้งนี้ ควรให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรืออย่างช้าสุดไม่ควรเกิน 1 ปี
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ที่หลายคดีเผือกร้อนทางการเมืองอยู่ในมือ ป.ป.ช. นายสาโรจน์กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช.มีหน้าที่ในการตรวจสอบไต่สวน เรื่องที่อยู่ในอำนาจของกรรมการ ป.ป.ช. ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ดังนั้นประชาชนและสื่อมวลชนจะโฟกัสมาที่ ป.ป.ช. จะเร็วหรือไม่ ป.ป.ช.เหมือนโดนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ เรื่องที่กล่าวหามามักจะมี 2 มุมมาโดยตลอด คิดว่าบรรยากาศไม่ได้ต่างจากที่ผ่านมา เพียงแต่ช่วงนี้มีคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาถี่ จนโดนสังคมเร่งรัดและตั้งคำถาม ยืนยันไม่ได้ถูกกดดัน และที่สำคัญคือเราต้องตั้งหลักในการทำหน้าที่ ให้เป็นไปตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมาย รวมถึงข้อเท็จจริง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ต้องอธิบายต่อสังคมได้
ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการฮั้วเลือก สว. ที่หลายฝ่ายอยากให้ดำเนินการให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วว่า กกต.ดำเนินการไม่ชักช้า จะพยายามรีบเร่ง แต่ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง เปิดโอกาสให้ได้รับทราบและชี้แจงข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน การตรวจสอบบางครั้งใช้เวลา เพราะเกี่ยวข้องกับหลายคน หากมีพยานหลายคน หรือมีข้อสงสัย มีผู้เกี่ยวข้องเยอะเป็นร้อยคน ต้องใช้เวลา ถ้ารีบสรุปจะไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งนี้ กกต.เริ่มรับคำร้องหลังการเลือกระดับอำเภอเมื่อ 9 มิ.ย.2567 เมื่อรับเรื่อง กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น ส่วนกรณี สว.สำรองร้องให้ตรวจการทำหน้าที่ของเลขาธิการ กกต. ตามมาตรา 157 นั้น เป็นสิทธิของเขาที่จะใช้สิทธิ และ กกต. หากทำตามกฎหมายสามารถชี้แจงได้
เมื่อถามว่า กรณีการตรวจสอบการฮั้ว สว. ไม่ใช่ถือเรื่องไว้ให้ผ่านไป 1 ปี แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นยกเรื่องไปใช่หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ทุกอย่างที่ทำอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น และ กกต.สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ดีเอสไอทำนำมารวมกันกับที่ กกต.พิจารณา ซึ่งมี 3 เรื่องที่อยู่กับดีเอสไอ โดยคำร้องการเลือก สว.ฝ่าฝืนตามมาตรา 77 (1) หรือที่เรียกว่าฮั้ว มีผู้มาร้องต่อ กกต.ทั้งสิ้น 220 เรื่อง และ กกต.จะรับจากดีเอสไออีก 3 เรื่อง เมื่อรับมาแล้วตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นคณะสืบสวนไต่สวนร่วมกับ กกต.ด้วย เมื่อทำเช่นนี้แล้วก็มีความมั่นใจว่า กระบวนการไม่ได้เริ่มต้นจากหนึ่ง แต่จะดำเนินการต่อเนื่องจาก 3 เรื่องของดีเอสไอ
ส่วนคำร้อง 220 เรื่อง มีหลักฐานอะไรที่จะมองได้ว่าเป็นการฮั้ว สว.หรือไม่นั้น ประธาน กกต.กล่าวว่า ดูแล้วเรื่องที่จะเข้าข่ายการฮั้วมี 27 เรื่อง ต้องรอให้เรื่องมาถึง กกต.ก่อน จะสามารถพูดได้ว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอในการตัดสินหรือไม่ เพราะถ้าเป็นการฮั้ว จะทำเป็นกระบวนการ ใช้คนเยอะ ดังนั้นพยานบุคคลและผู้สอบมีเยอะ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะต้องใช้เวลา แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ช้า ต้องทำให้เร็ว เพราะ กกต.กำหนดกรอบเวลาไว้แล้ว พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แล้วเสร็จด้วยความรวดเร็ว แต่บางครั้งก็ไม่สามารถทำให้เสร็จเร็วได้ เพราะจะกระทบกับความยุติธรรม
ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีสำนักงาน กกต.ลำพูนตรวจสอบนายวีระเดช ภู่พิสิฐ นายกองค์การบริหารจังหวัดลำพูน พรรคประชาชน หลังถูกร้องเรียนว่า ขณะนี้มี 1 คำร้อง ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน กกต.ลำพูน หากเห็นว่ามีข้อเท็จจริง มีหลักฐานเบื้องต้นเพียงพอ ก็จะรับเป็นสำนวน และเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวน โดยกรอบเวลาในระดับจังหวัดให้เวลา 90 วัน โดยคณะสืบสวนไต่สวนรับเรื่องมาแล้ว ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาแรก 20 วัน แต่หากต้องมีหาพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคล ก็ขยายได้เพิ่มครั้งละ 15 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน ซึ่งเมื่อส่งเรื่องมาถึงส่วนกลางให้เวลา 60 วัน ก่อนจะเสนอไปยังคณะอนุกรรมการวินิจฉัยและชี้ขาดคดี ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 90 วัน โดยเมื่อครบกรอบเวลาแล้วต้องเสนอ กกต.พิจารณาโดยไม่ชักช้า กระบวนการทั้งหมดให้ใช้เวลาได้ไม่เกิน 1 ปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พังงาจับ4หนุ่ม ขนปืน-กระสุน ภูเก็ตสั่งคุมเข้ม
ตำรวจพังงาจับ 4 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงคราม ผงะ! เตรียมไปส่งที่ภูเก็ต
‘ปปช.’รับคดีชั้น14สุดอืด ธนกรดีดปากนิติสงคราม
เลขาฯ ป.ป.ช.รับคดีชั้น 14 อืด เหตุติดปัญหาขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่น
โพลชี้คนไทยยี้‘กาสิโน’ หวั่นสร้างความขัดแย้ง
"นิด้าโพล" เผย ปชช.มีคำถามคาใจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ที่รวม "กาสิโน" เพียบ!
ระเบิดศึกซักฟอก ดีลแลกประเทศ ขยี้"นายกฯอิ๊งค์"ขย้ำ"ทักษิณ"
หลังการเมืองไทยว่างเว้นจากการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจมาร่วม 2 ปีเศษ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.2565 ตอนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาวันนี้สิ้นสุดการรอคอยกับศึกซักฟอก-เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ทักษิณลั่นซื้อหนี้เกิดปีนี้แน่!
“สวนดุสิต” พบเกินครึ่งหนุนแนวคิด “ทักษิณ” ซื้อหนี้ แต่หวั่นไม่โปร่งใสประโยชน์แอบแฝง
อยู่ในกติกาตอบได้! แม้วการันตีลูกอิ๊งค์เย้ยปชน.อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ
“ทักษิณ” ติวการบ้าน “อิ๊งค์” เชื่อตอบได้ทุกเรื่องตรงไปตรงมา