นายกฯ ย้ำส่ง "อุยกูร์" กลับจีนไม่ต้องห่วง พร้อมตอบทุก ปท.ที่เห็นต่าง “ภูมิธรรม-ทวี” ถึงซินเจียงแล้ว "จีน" พร้อมจับมือสู้ข้อกล่าวหาจากประเทศที่ 3 ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยืนยันทำทุกอย่างถูกต้อง ย้ำข่าวเข่นฆ่า "อุยกูร์" ไม่เป็นความจริง
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ชั้น 7 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศจีน ได้มีการกำชับอะไรหรือไม่ ว่าเป็นการให้นายภูมิธรรมไปดูและมีภาพกลับมาบอกประชาชนเพื่อความสบายใจ เน้นที่เรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเราคุยกับทางการจีนมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรกับประเทศอื่นที่เห็นต่างในเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า เราอธิบายแน่นอน และรัฐมนตรีต่างประเทศของเราก็รับหน้าที่เรื่องนี้ไปในการพูดคุย ประสานกับประเทศต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น ประเทศใดอยากจะได้อะไรเพิ่มเติมในการอธิบายให้ชัดเจน เรายินดีให้ เพราะตอนที่ตัดสินใจพูดคุยกับประเทศจีน เราไม่มีอะไรที่เปิดเผยไม่ได้ อยู่ที่เวลาเท่านั้น เมื่อได้ไปเจอไปเห็นก็จะทราบแล้วว่ามันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น แล้วทำไมเราถึงทำ บางเรื่องอาจจะต้องใช้เวลาเล็กน้อย แต่เราก็ทำอย่างระมัดระวังที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นำคณะผู้บริหารส่วนราชการ และสื่อมวลชน เดินทางถึงท่าอากาศยานเมืองคาซือ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเวลา 09.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง โดยมีนายชู ต้าถง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ให้การต้อนรับ
จากนั้นนายภูมิธรรมเริ่มภารกิจแรกด้วยการพบปะหารือกับนายฉี หยานจุน รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรค และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และคณะ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการดำเนินการและการดูแลกลุ่มบุคคลที่ส่งกลับของจีน โดยเฉพาะชาวอุยกูร์ 40 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ เรือนรับรอง เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
นายฉีกล่าวต้อนรับว่า ยินดีที่ไทยพาคณะมาในครั้งนี้ และพร้อมที่จะเปิดให้พบกับชาวอุยกูร์ จีนขอชื่นชมรัฐบาลไทย ที่ร่วมกันแก้ปัญหา นำ 40 คนที่ส่งกลับมา พวกเขาอยู่ประเทศไทย 10 กว่าปี บางคนมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เจ็บป่วย วันนี้รัฐบาลจีน พยายามให้การช่วยเหลือ ให้คนเหล่านี้ กลับมามีชีวิตปกติ ถือว่าเป็นความหวังของทั้งสองประเทศ ที่ร่วมกันดำเนินการ
มีบางประเทศ ติฉินนินทาความร่วมมือ ระหว่างไทย และจีน ทั้งที่บังคับใช้กฎหมายปกติ โดยบอกว่า เป็นเรื่องที่ไม่ดี ที่ทั้งสองประเทศดำเนินการอย่างเข้มข้น ดังนั้นทั้งสองประเทศ ไทยและจีน ต้องต่อต้านอย่างเข้มแข็ง สำหรับคนที่เข้าประเทศที่สาม ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จีน และไทย มีความร่วมมือกัน อย่างเหมาะสมในการดำเนินการตามกฎหมาย ของทั้งสองประเทศ และกฎหมายสากล เราต้องทำหน้าที่นี้ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง และต้องขอความร่วมมือทั้งสองประเทศ ดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน
พร้อมยืนยันว่า สถานการณ์ในซินเจียง ขณะนี้มีความปลอดภัย ชนเผ่าต่างๆ มีความสามัคคีกัน การพัฒนาเศรษฐกิจ กำลังเดินหน้า การพัฒนาด้านการสังคม ก็เป็นไปด้วยดี เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ และปี 2024 ซินเจียงได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้โลกรู้ว่าเรามีความปลอดภัยมั่นคง เราให้ความสำคัญกับการเดินทางมาเยือนครั้งนี้ เพื่อที่คณะผู้แทนไทยและสื่อมวลชน จะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในซินเจียง การไปเยี่ยมทั้ง 40 คน ระยะเวลาสองวันอาจไม่เพียงพอ แต่เราจะพยายามเต็มที่ให้ได้เจอมากที่สุด รวมถึงจะได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจและสังคม ก็ขอให้คณะแสดงสิ่งเหล่านี้ต่อสายตาโลก
“สิ่งที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป บอกว่ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับชาวอุยกูร์ ไม่เป็นความจริง ความจริงคือความจริง ทุกคนจะได้เห็น ประตูซินเจียงเปิดต้อนรับทุกคน จะได้รู้ว่าซินเจียงเป็นอย่างไร ขอคณะผู้แทนไทย” นายฉีระบุ และว่าหลังจาก 40 คนที่กลับมาจากไทย เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ แล้ว เราก็ส่งกลับบ้าน และจะพยายามสร้างอาชีพ ให้เขากลับมามีชีวิตปกติให้ได้ และขอให้ทั้งหูและตาที่ท่านได้เห็น สื่อสารเรื่องจริงออกไป เพื่อต่อสู้กับการโจมตีจากประเทศที่ 3
ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอโทษฝ่ายจีน ที่เราติดต่อประสานมาดูแค่ 2 วัน โดยเราไม่รู้สภาพพื้นที่ซึ่งมีบ้านเมืองอยู่ห่างไกลพอสมควร โดยเมืองทางคาซู มี 3 เมืองใหญ่ๆ แต่ละเมืองก็ห่างกันประมาณ 400-500 กิโลเมตร จึงได้กำหนดมาแค่ 2 วัน แต่ทางการจีนก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ที่จัดให้เราได้พบกับชาวอุยกูร์และได้พูดคุยแม้กระทั่งในส่วนที่อยู่ห่างไกล ก็ถือเป็นความร่วมมือและสนับสนุนจากจีน ซึ่งทางการไทยต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งขอชื่นชมฝ่ายจีนที่ใช้เวลาไม่นานในการพัฒนามณฑลซินเจียง ให้เป็นที่ชื่นชมและน่าสนใจของคนทั่วโลก ตามที่ท่านรายงานว่ามีคนจากประเทศต่างๆ มาชมมณฑลซินเจียงปีละ 300-500 ล้านคน จากแผ่นดินที่แห้งแล้ง ยากลำบาก แต่ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และน่าเรียนรู้หลายเรื่อง รวมไปถึงการอยู่ร่วมกันของหลายชนเผ่า ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เสียดายเรามาไม่กี่วัน ไม่อย่างนั้นก็คงจะมีโอกาสได้ชื่นชมความสวยงาม ความน่าอยู่ของมณฑลซินเจียง
“ผมมาเยือนและอยากได้คำตอบ เราทราบว่าซินเจียงเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ก็น่าจะดีกับตัวเขาที่กลับมา และดีกับ 2 ประเทศที่ได้ตัดสินใจในครั้งนี้ และเราก็อยากรู้สภาพเขาที่กลับมา มีการรักษาพยาบาลอย่างไร ความเป็นอยู่อย่างไร ถ้ามีการฝึกฝนอาชีพต่างๆ เพื่อให้เขาสามารถดำรงตนมีชีวิตอยู่ในสังคมแห่งใหม่ที่เป็นบ้านเกิดของเขา ที่เจริญรุ่งเรืองขึ้น ก็เป็นเรื่องดี”
นายภูมิธรรมกล่าวขอบคุณรัฐบาลอีกครั้ง ที่พยายามให้เราได้มีโอกาสพบและพูดคุยมากขึ้นกับชาวอุยกูร์ โดยจัดวิดีโอคอลให้พูดคุยกับผู้ที่อยู่ห่างไกล การมาครั้งนี้จุดประสงค์หลักคืออยากรู้ถึงชีวิต 40 ชาวอุยกูร์ และทราบว่าทางการจีนจะให้เรามีโอกาสได้พบกับชาวอุยกูร์ ที่มาเมื่อปี 2557 ซึ่งถ้าได้พบก็ยินดีและขอบคุณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายคณะผู้แทนไทย จะแบ่งออกเป็น 2 คณะ ซึ่งคณะแรกนำโดยนายภูมิธรรม และมีนายฉี และคณะ เป็นผู้แทนฝ่ายจีน ส่วนคณะที่ 2 นำโดย พ.ต.อ.ทวี แยกกันเดินทางไปเยี่ยมเยียนชาวอุยกูร์ถึงบ้านพักส่วนตัว ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคาซือ ระยะทางประมาณ 100-300 กิโลเมตร โดยมีนายซู ต้าถง (Xu Datong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน และคณะอำนวยความสะดวก
ส่วนในช่วงเย็น คณะของฝ่ายไทยจะเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านท้องถิ่นและมัสยิดอิดกะฮ์ พร้อมหารือกับผู้นำศาสนาอิสลามและในช่วงค่ำ คณะฝ่ายไทยจะประชุมหารือร่วมกับแพทย์ที่รักษาตัวชาวอุยกูร์ และหารือร่วมกับตัวแทนชาวอุยกูร์ ผ่านทางระบบการประชุมทางไกล
จากนั้น เวลาประมาณ 20.00 น. คณะฝ่ายไทยมีกำหนดหารือกับนายหม่า ซิงรุ่ย สมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และร่วมงานเลี้ยงรับรองตามลำดับ ณ โรงแรมคาซือ เรือนรับรองของรัฐ ทั้งนี้ภารกิจสุดท้ายของวัน ฝ่ายจีนได้พาคณะฝ่ายไทยเยี่ยมชมพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมเมืองโบราณคัชการ์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชื่นมื่น! 'อิ๊งค์' เปิดโรสวูดเลี้ยงข้าวหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลนัดพิเศษ เพื่อพูดคุยเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล
'นายกฯอิ๊งค์' เข้า ทบ. ครั้งแรก! ถกปราบยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
'นายกฯอิ๊งค์' เข้า ทบ. ครั้งแรก ถกด่วนปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ โวยาบ้าลดลงมาก เหตุจับได้เยอะ ยัน ’กัมพูชา‘ พร้อมร่วมมือไทยปราบแก๊งคอล 100% ปัดตอบโยงสัมพันธ์ ‘ทักษิณ -ฮุนเซน’
เช็กความพร้อม 'แพทองธาร ชินวัตร' สู้ศึกซักฟอก-ติดกับดักตนเอง!
เสียงระฆังซักฟอกใกล้ดังขึ้น ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงบททดสอบของนายกรัฐมนตรี ”แพทองธาร ชินวัตร” เท่านั้น แต่ยังเป็นสมรภูมิที่เดิมพันไปถึงคนในครอบครัว-ทักษิณ ชินวัตรอีกด้วย
'ทวี' พร้อมช่วยแจงชั้น 14 แทน 'พ่อ-ลูก' ชินวัตร
'ทวี' พร้อมหนุนข้อมูลชั้น 14 ช่วย 'นายกฯอิ๊งค์' เย้ยเรื่องเก่า อยู่ในองค์กรอิสระหมดแล้ว มั่นใจตอบได้หมด ปัดชินวัตรดีลแลกประเทศ อวยมีแต่เปลี่ยนให้ดีขึ้น
เฉลย! อภิปรายตี 5 ไม่สนสี่สนห้า ใครบ้างที่เดือดร้อน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อภิปรายตีห้า ใครท่าจะเดือดร้อน
'อิ๊งค์' ตาสว่าง! เฉลยแล้ว ดีลแลกประเทศ 'ชินวัตร' ได้อะไรบ้าง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ตอบคำถาม อุ๊งอิ๊ง ดีลแลกประเทศ ชินวัตรได้อะไร" โดยระบุว่า