เต้นล้อมคอกพระราม2 ผู้ว่าฯกทพ.เมิน‘ไขก๊อก’

“นายกฯ อิ๊งค์” เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องถกมาตรการก่อสร้างถนนหลังเหตุคานถล่ม แรงงานเมียนมาดับเพิ่มรายที่ 6 “อธิบดีทางหลวง” ลงพื้นที่ตรวจสอบ คาดดินทรุดตัวเป็นต้นเหตุ เร่งคืนพื้นผิวจราจรใน 7 วัน ซ่อมสะพาน 30  วัน แจงซอยสัญญาเยอะไร้โกง พร้อมเปิดให้ทุกหน่วยเข้าสอบ “ผู้ว่าการ กทพ.” คาด 20 วันสรุปสาเหตุได้ ปัดไขก๊อก ลั่นคนทำงานบกพร่องต้องชดใช้

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า จากเหตุการณ์สะพานโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก  ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มบริเวณถนนพระราม 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหายจำนวนมากนั้น ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ในวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. เวลา 10.00 น.

ส่วนความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น  การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม รายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. งานรื้อย้ายซากปรักหักพังโดยรวมมีความคืบหน้าไปกว่า 40% ประกอบด้วย 1.Main truss (คานโครงสร้างเหล็กเพื่อรับน้ำหนักคอนกรีต) รื้อออกได้ประมาณ 80% 2.Tower support (เสาเหล็กรับโครงสร้าง) รื้อย้ายได้ประมาณ 50% 3.H-beam (เหล็กเสริมรับโครงสร้าง) และเหล็กเสริมอื่นๆ รื้อได้ประมาณ 30% และ 4.สกัดคอนกรีตออกได้ประมาณ 40%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระสงฆ์วัดบางพูน  จังหวัดปทุมธานี มาเชิญดวงวิญญาณในที่เกิดเหตุคานทางยกระดับที่กำลังก่อสร้างพังถล่ม โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 ดาวคะนอง วงแหวนรอบนอกกรุงเทพด้านตะวันตก ก่อนเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลศิริราช

ขณะเดียวกัน ครอบครัวของนายไท่ เหว่ย เยียน (HTIKE WAI YAN) อายุ 22 ปี แรงงานชาวเมียนมาที่ทำงานในคืนเกิดเหตุ เดินทางมาสอบถามกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากครอบครัวยังไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบัน โดยผู้เป็นแม่ได้เปิดรูปภาพลูกชายให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ พร้อมพูดผ่านสื่อเป็นภาษาเมียนมาทั้งน้ำตา แปลเป็นไทยโดยญาติว่า "อยากเจอลูกชายมาก  ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือเสียชีวิตแล้วก็ตาม"

ต่อมาเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่กองอำนวยการได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลตากสิน ว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็นรายที่ 6 เป็นคนงานชายชาวเมียนมา ทราบชื่อภายหลังคือ นายไท่ เหว่ย เยียน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นหนึ่งในจำนวนผู้บาดเจ็บสาหัส จึงได้มีการเรียกญาติมารับทราบ

จากนั้นเวลา 13.30 น. นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง และประธานคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยการทรุดตัวของดินบริเวณฐานเสาค้ำยันด้านซ้าย มีลักษณะเอียง 20 องศาไปทางฝั่งถนนพระราม 3 ขาออกมุ่งหน้าไปทางดาวคะนอง หรือฝั่งถนนจอมทองบูรณะ จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อาจเกิดจากดินทรุดตัว แต่ยังไม่ขอฟันธง โดยจะต้องรอเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง โดยตอนนี้จะต้องเร่งคืนพื้นที่การจราจรให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก คาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูพื้นประมาณ 7 วัน ขณะที่การซ่อมแซมสะพานที่ชำรุด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน

ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้าง ตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องมือ และกระบวนการทำงานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย ซึ่ง กทพ.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทุกขั้นตอน พร้อมเปิดให้หน่วยงานภายนอก เช่น สภาวิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง เข้ามาวิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุในเชิงลึกด้วย

ทั้งนี้ แต่ละโครงการมีสัญญาย่อย มีบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาทำ ซึ่งเหตุผลที่จะต้องมีการทำสัญญาย่อยออกไปก็เพื่อต้องการให้โครงการก่อสร้างเสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา พร้อมยืนยันว่าการทำสัญญาย่อยกับผู้รับเหมาไม่มีการทุจริต

เมื่อถามถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เตรียมที่จะเข้ามาตรวจสอบการทุจริต  ได้มีการเตรียมข้อมูลหรือชี้แจงหรือไม่ นายอภิรัฐยืนยันว่า พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ โดยเฉพาะการทุจริตต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการดังกล่าว

ทางด้านนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำลังเร่งแก้ไขปัญหา โดยเน้นย้ำว่าผู้ปฏิบัติงานต้องมีความปลอดภัยเป็นอันดับแรก หากพบว่ามีจุดเสี่ยงใดที่ไม่แน่นอนด้านความปลอดภัย จะต้องมีคำสั่งหยุดงานทันที นอกจากนี้ ยังได้หารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชน โดยแนะนำให้ใช้สะพานภูมิพล 1 และ 2 รวมถึงสะพานตากสินแทน

ผู้สื่อข่าวถามว่า อุบัติเหตุโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 และโครงการใกล้เคียง เป็นอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นในยุคของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน ได้มีการเน้นย้ำหรือมีการถอดบทเรียนบ้างหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ได้มีการสอบสวนถึงต้นตอหาสาเหตุ นำไปสู่การถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

ในส่วนของมาตรการลงโทษผู้รับเหมานั้น  ทางกระทรวงคมนาคมได้ออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น โดยจะมีการให้คะแนนและจัดทำ “สมุดพกผู้รับเหมา” เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน หากพบว่ามีข้อบกพร่อง จะมีมาตรการขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) และส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบมาตรฐานการทำงานของแรงงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานต้องมีใบอนุญาตเฉพาะด้าน และผู้รับเหมาจะต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการยกแท่งปูนและดำเนินงานที่มีความเสี่ยงสูง

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้อย่างแน่ชัด แต่จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าโครงสร้างอาจรับน้ำหนักคอนกรีตไม่ไหว ซึ่งต้องรอการตรวจสอบจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 20 วัน หลังจากการเคลียร์พื้นที่เสร็จ

“เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และจะต้องมีการถอดบทเรียน เพื่อนำไปปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น โดยกระทรวงคมนาคมจะต้องตรวจสอบทุกกระบวนการอย่างละเอียด และหากพบว่ามีผู้ใดละเลยหรือกระทำผิด จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายและข้อสัญญาที่เกี่ยวข้อง” ผู้ว่าการ กทพ.ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย จะรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า การที่ตนลาออกไม่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ แต่ต้องมาดูว่าตนละเว้นหรืออย่างไร พูดเอาสะใจได้ แต่ขอให้มั่นใจได้ว่าผู้ที่ทำงานบกพร่องหรือผู้ที่ประมาทนั้นจะต้องชดใช้ และผู้เสียหายจะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม

ทั้งนี้ คาดว่าการจราจรในบริเวณดังกล่าวจะติดขัดอย่างหนัก กทพ.จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และปรับเวลาออกเดินทางให้เร็วขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการจราจร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง