สังเวยพระราม2อีก5ศพ

ประมาทซ้ำซาก สะพานกำลังก่อสร้างถนนพระราม 2 ถล่ม มีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 27 ราย อัปยศ! "สุริยะ" อ้างมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาจะออกมาเดือนเมษา. เผยสิทธิได้ศพละล้าน นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยเปิด 3 สาเหตุทำให้สะพานถล่ม  ระงับการก่อสร้างไปก่อน จนกว่าจะได้สรุปผลการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 02.00 น.  เกิดเหตุสะพานที่กำลังก่อสร้างถล่มลงมาในพื้นที่ถนนพระราม 2 ใกล้เคียงซอยพระรามที่ 2 ซอย  25 เขตบางมด ซึ่งในช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีพนักงานก่อสร้างกว่า 20 รายปฏิบัติงานอยู่บนโครงสร้างสะพาน ขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้น มีรายงานว่าคานสะพานเกิดการทรุดตัวและทำให้สะพานทั้งหมดพังถล่มลงมา

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้รับแจ้งเหตุและส่งทีมกู้ภัยเข้าตรวจสอบในทันที โดยสามารถช่วยเหลือพนักงานออกมาได้ และล่าสุด เมื่อเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว 5 ราย และบาดเจ็บ 27 คน โดยการช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทีม USAR กำลังเร่งสกัดปูนเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทราบชื่อดังนี้ 1.นายนรากร เยือกเย็น อายุ 39 ปี (วิศวกร) 2.นายรุจธร หานะสา อายุ 47 ปี (หัวหน้างาน) 3.นายสิทธิชัย เกษร (คนงาน) 4.Mr.zin ku aung ชาวเมียนมา (คนงาน) 5.Mr.naing lin aung ชาวเมียนมา (คนงาน)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการก่อสร้างสะพานและโครงสร้างทางสาธารณะในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการทำงานกลางคืน เช่น บนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่มีการจราจรหนาแน่น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นอกจากนี้ผู้รับเหมาจะดำเนินการจ่ายชดใช้ค่าเสียหายและค่าเยียวยาให้แก่ผู้เสียชีวิตรายละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท พร้อมกับสั่งให้ กทพ.พิจารณาแนวทางเยียวยาให้ตามความเหมาะสมด้วยเช่นกัน

รมว.คมนาคมเผยว่า ได้สั่งการไปยังนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งกำหนดแนวทางด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด

สำหรับมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา ขณะนี้ได้หารือกับกรมบัญชีกลาง คาดว่ามาตรการจะออกได้ชัดเจนภายใน เม.ย.2568 ดังนั้นหากพบผู้รับเหมากระทำความผิด จะสั่งให้หยุดรับงานทันที และไม่สามารถประมูลงานได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และหลังจากนั้นจะพิจารณาออกมาตรการจัดการผู้ควบคุมงาน เพื่อให้มีบทลงโทษเช่นเดียวกับมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา

 นายสุริยะกล่าวย้ำว่า สำหรับภาพรวมทุกโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ยังคงยืนยันว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดก่อนสิ้นปี 2568 อย่างแน่นอน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้การสัญจรได้อย่างสะดวกตลอดเส้นทาง

สั่งหยุดปฏิบัติงาน 14 วัน

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เผยว่า ตามที่ได้รับข้อสั่งการจากนายสุริยะ ให้เร่งดำเนินการกู้คืนพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเปิดใช้บริการทางพิเศษช่วงดาวคะนองถึงด่านสุขสวัสดิ์ฝั่งขาเข้าเมือง โดยต้องมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับสูง โดยทาง กทพ.ได้ตั้งเป้าเปิดใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ที่ด่านดาวคะนองขาเข้า  ภายใน 7 วัน ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างสะพาน และควบคุมการรื้อย้ายซากปรักหักพังอย่างเข้มงวด

 โดยทางพิเศษเฉลิมมหานครฝั่งขาออกมุ่งหน้าทางแยกต่างระดับดาวคะนองที่ได้รับความเสียหาย กทพ.จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้สามารถเปิดให้บริการได้ภายใน 30 วัน ขณะนี้ กทพ.ได้สั่งให้ผู้รับจ้างหยุดปฏิบัติงานเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อเร่งสรุปสอบสวนหาสาเหตุ และเมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้วจะแจ้งให้ประชาชนทราบถึงสาเหตุและมาตรการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกต่อไป

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทุกท่าน โดยในวันนี้ เรือเอกสาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมด้วยพนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2, ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 11, สสปท., สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 และสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบความเสียหาย และเข้าพูดคุยกับนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกำชับให้นายจ้างดูแลลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม และดำเนินการตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต

โทษนายจ้างคุกไม่เกิน 1 ปี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้างทั่วกรุงเทพฯ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เครื่องจักรและวัสดุหนัก และได้สั่งการให้มีการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย (Safety Training) สำหรับแรงงานในภาคก่อสร้าง เพื่อเพิ่มมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของแรงงานไทย เนื่องจากมาตรฐานความปลอดภัยของแรงงานเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด นายจ้างต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำอีก

ขณะที่ เรือเอกสาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น และหารือร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พบว่า มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ได้แก่ พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 มาตรา 8 ประกอบกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย  อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับนั่งร้านและค้ำยัน พ.ศ.2564 ซึ่งพนักงานตรวจความปลอดภัยจะมีหนังสือเชิญนายจ้างมาสอบข้อเท็จจริงในประเด็นกฎหมายข้างต้นในวันที่ 18 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ หากพบว่านายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย นายจ้างจะมีความผิดตามมาตรา 53 กำหนดว่า นายจ้างผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 8 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ

“กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจะช่วยเหลือลูกจ้างและนายจ้างอย่างเต็มที่ พร้อมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้เข้มข้นขึ้น” อธิบดี กสร.กล่าว

เปิด 3 สาเหตุสะพานถล่ม

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์คานก่อสร้างสะพาน ถนนพระราม 2 ถล่มว่า ขอแสดงความเสียใจ ไม่อยากเห็นเหตุที่เกิดซ้ำๆ เช่นนี้ รัฐบาลควรเร่งสืบหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา จึงจะเป็นทางออกในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการรับปากของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ว่าจะไม่เกิดปัญหาดังกล่าวนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว ควรต้องมีคนรับผิดชอบ ที่ผ่านมาเรายังไม่เห็นว่าจะมีใครต้องมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ผิดพลาดที่เกิดขึ้น นอกจากการกำกับดูแลแล้ว  การสืบหาข้อเท็จจริง หรือดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ประชาชนรับรู้

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เผยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุของการพังถล่มระหว่างก่อสร้าง แต่เท่าที่ประเมินจากภาพถ่าย พบว่าเป็นการพังถล่มของคานขวาง (Cross beam) ที่หัวเสา พังถล่มลงมาหลายช่วงต่อเนื่องกัน ซึ่งความยาวพาดช่วงถือว่ายาว (long span) สาเหตุที่พังถล่มยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม มีข้อสันนิษฐานเบื้องต้น 3 ข้อ

1.กิจกรรมที่เกิดขึ้นในระหว่างการถล่ม น่าจะเป็นขั้นตอนการเทคอนกรีตคานขวาง หรือเป็นกิจกรรมใดที่ทำให้เกิดแรงกระทำต่อโครงสร้าง หากเป็นการเทคอนกรีต ก็จะถือว่ามีน้ำหนักกระทำต่อโครงสร้างมาก ก็อาจเป็นสาเหตุให้ถล่มได้หากโครงสร้างที่รองรับไม่แข็งแรงพอ

2.โครงถักเหล็กที่รองรับคานขวางพังถล่มลงมาด้วย จึงต้องไปตรวจสอบกำลังรับน้ำหนักของโครงถักเหล็ก รวมทั้งรอยต่อระหว่างชิ้นส่วนของโครงถักเหล็กว่าเพียงพอต่อการรับน้ำหนักหรือไม่  หรือมีการสูญเสียเสถียรภาพในการรับน้ำหนักได้อย่างไร

3.จุดยึดของโครงถักเหล็กกับเสาตอม่อมีความแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ 

ทั้งนี้ เป็น 3 ประเด็นที่ตั้งเป็นข้อสันนิษฐานเบื้องต้นไว้ก่อน และจะต้องไปดูแบบก่อสร้างการออกแบบและขั้นตอนการทำงาน พร้อมทั้งรวบรวมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีความแข็งแรงได้มาตรฐานทางวิศวกรรมหรือไม่ ทั้งนี้ จะต้องมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบสาเหตุการพังถล่มในเชิงวิศวกรรมต่อไป ในขณะนี้คงต้องระงับการก่อสร้างไปก่อน จนกว่าจะได้สรุปผลการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนคาร์บอมบ์ 15วัน‘รอมฎอน’ จี้สอบสินบนอส.

สว.ห่วงเจ้าหน้าที่รัฐตกเป็นเป้าของ  “สไนเปอร์บีอาร์เอ็น” หวั่นเด็ดหัวช่วงเปิด-ปิดงาน  การข่าวพบผู้ไม่หวังดีเตรียมคาร์บอมบ์บึ้ม 15 วันสุดท้ายรอมฎอน กอ.รมน.ภาค 4 ยันทำตามขั้นตอนฟ้อง 5 แกนนำนักศึกษา