อย่าทำตัวน่ารำคาญ ‘ทักษิณ’อัดศึกอภิปราย! ไล่ปชน.คุยผู้ก่อตั้งพรรค

"ผู้นำฝ่ายค้านฯ" ยันซักฟอก 30  ชม.เหมาะสม น้อยกว่านี้เนื้อหาอาจตกหล่น บอก  "นายกฯ อิ๊งค์" ก็อยากตอบ ขอฝั่งรัฐบาลอย่ากั๊กเวลา อุบตัดชื่อ "ทักษิณ" จากญัตติอภิปรายแล้วใช้คำอะไรแทน อ้างเก็บเป็นไพ่ใบสุดท้ายต่อรองเวลาอภิปราย มั่นใจ "ปชน." ไม่มีงูเห่า "อนุทิน" สอนฝ่ายค้านใช้กระแสสังคมกดดันกรอบซักฟอกไร้ผล แนะคุยเหตุผลดีกว่า "ไพบูลย์" ตีปี๊บจับตา “บิ๊กป้อม” ลุกขึ้นซักฟอกเอง มีทีเด็ดเขย่านายกฯ  แน่ “แม้ว” โผล่เย้ยนี่หรือพรรคคนรุ่นใหม่ แนะไปปรึกษาผู้ก่อตั้งพรรคก่อนอภิปราย อย่าทำตัวน่ารำคาญเดี๋ยวไปอีกพรรค

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 นายณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาต่อรองวันและเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมเจรจาพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาล กรอบเวลา 30 ชั่วโมง เป็นกรอบเนื้อหาที่เรายืนยันว่ามีเท่านี้ ถ้าน้อยกว่านี้จะทำให้เนื้อหาที่เตรียมมาตกหล่น ขณะเดียวกันฝั่งรัฐบาลก็มีกรอบของเขา ไม่ยอมถอยให้เราก้าวหนึ่ง จึงเป็นที่มาที่ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ 

ถามถึงกรอบเวลา 20+10 ของรัฐบาลพอเป็นไปได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ถ้าจะใช้กรอบนี้จริงๆ 2 วันก็ไม่พอ เพราะเต็มที่ประชุมกัน 1 วัน ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงแล้ว 2 วัน 30 ชั่วโมงพอดี ไม่ต้องเผื่อเวลาประท้วงหรือประธานวินิจฉัยอะไรเลย เพราะฉะนั้นมุมมองของพวกเรายืนยัน ควรจะต้องมีการขยายกรอบวันประชุมด้วย ซึ่งต้องให้รัฐบาลไปหารือกัน

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ยังพอมีเวลาในการอภิปรายช่วงปลายเดือนนี้ เพราะถ้ายึดตามสมัยประชุม ที่จะปิดสมัยในวันที่ 10 เม.ย. ดังนั้นสัปดาห์หน้าตนคาดหวังว่าจะได้ข้อสรุป แต่ถ้ายังไม่ทัน ก็ยังพอมีกรอบเวลาอยู่ เรายังอยากเห็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นในสมัยนี้ ไม่อยากให้รัฐบาลเอาเรื่องกรอบวันและเวลามาทำให้เราเดินหน้าต่อไม่ได้

ซักว่าตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติแล้วสะเด็ดน้ำหรือยัง จะเปลี่ยนเป็นคำว่าอะไร ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า  สะเด็ดน้ำแล้ว แต่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อ เพราะเรื่องการปรับคำ รวมถึงการตกลงเรื่องเวลาในการอภิปรายเกี่ยวข้องกัน ขอให้รอประชุมร่วมกันกับรัฐบาลแล้วจะแก้ญัตติส่งกลับไปทีเดียว

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนชื่อเป็นไพ่อีกใบหนึ่งที่ถือไว้ต่อรองเรื่องเวลากับรัฐบาลหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า จะว่าเป็นแบบนั้นก็ไม่ผิด เพราะสิ่งที่ฝ่ายค้านมีในตอนนี้คือการปรับถ้อยคำในญัตติ รวมไปถึงการตรวจสอบรัฐบาล คิดว่าสิ่งที่สังคมไม่อยากเห็น คือในเมื่อตอนนี้จะให้ปรับถ้อยคำเราก็ยอม เพราะฉะนั้นก็อยากจะเห็นรัฐบาลเปิดโอกาสให้พวกเราอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างเต็มที่ 

"การปรับคำในญัตติเป็นเรื่องของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ผมคิดว่าการเลือกใช้คำก็ส่งผลกับการที่รัฐบาลจะยอมหรือไม่ยอมให้เราเดินหน้าต่อ หากดูจากท่าทีของ สส.พรรคเพื่อไทย จะเห็นได้ว่าการใช้คำมีส่วนสำคัญที่เขาจะให้เราเดินหน้าต่อหรือไม่" ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว

ถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีตอบรับว่า “ได้” หลังจากฝ่ายค้านขอเวลา 30 ชั่วโมง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในเมื่อผู้นำฝั่งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีพูดออกมาชัดเจนว่าไม่มีปัญหา ที่จริงมีการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งว่าเดือนหนึ่งก็ได้

อิ๊งค์อยากตอบ รบ.อย่ากั๊กเวลา

“ในเมื่อนายกฯ ไฟเขียวอยากมาตอบชี้แจงด้วยตัวเองขนาดนี้ ผมก็คิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ฝั่งรัฐบาลจะต้องมากั๊กเวลากับพวกเรา ควรจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำงานอย่างเต็มที่มากกว่า” นายณัฐพงษ์กล่าว

พอถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ระบุจะมีงูเห่าจากฝ่ายค้านถึง 10 คนยกมือสนับสนุนนายกฯ    นายณัฐพงษ์กล่าวว่า รอดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติจริงดีกว่า ตนเชื่อว่าพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาชนไม่มีงูเห่าแน่นอน ส่วนจะคาดโทษอะไรหรือไม่ ปล่อยให้เป็นการจัดการของแต่ละพรรค ในพรรคประชาชนตนมั่นใจ สส.ของเราไม่มีแน่นอน แต่หากมีก็มีกระบวนการจัดการภายในพรรคอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านขอเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมง เพื่อแลกกับการแก้ไขญัตติอภิปรายว่า คุยกันด้วยเหตุด้วยผลน่าจะมีจุดลงตัว ฝ่ายค้านอยากอภิปรายไม่ไว้วางใจ  ฝ่ายรัฐบาลก็พร้อมชี้แจง ต้องดูว่าในอดีตมีการแบ่งเวลากันอย่างไร เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ 

“จะกำหนดให้คนนี้กี่ชั่วโมงก็ว่ากัน ไม่ต้องไปห่วงนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่ถูกอภิปรายอยู่ท่านเดียว ท่านคงไม่ใช้เวลามากมายอะไร ควรให้เป็นอิสระกับท่านด้วยซ้ำ คงไม่ตอบอะไรเยอะแยะ ขนาดต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง คงไม่ใช่ขนาดนั้น" นายอนุทินกล่าว

ถามว่า ฝ่ายค้านพยายามใช้กระแสสังคมกดดันรัฐบาลให้ทำตามข้อเรียกร้องนั้น นายอนุทินย้อนถามว่า ใช้วิธีแบบนั้นเคยประสบความสำเร็จเมื่อไหร่ช่วยบอกหน่อย ทำงานด้วยกันในสภา มีเหตุมีผลก็ฟังกัน

"เมื่อวานมีคนมาบอกว่าทั้งหมด 30 ชั่วโมง แต่ให้รัฐบาลแค่ 2 ชั่วโมง ก็คงไม่ไหว ขอมากกว่านี้หน่อย อย่ากังวลเรื่องเวลา ยิ่งให้รัฐบาลมีเวลาชี้แจง ก็จะสามารถนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนฟัง" นายอนุทินกล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า การอภิปราย 2 วัน และลงมติอีก 1 วันถือเป็นกรอบเวลาที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป จึงขอให้ฝ่ายค้านพิจารณารับข้อเสนอ แต่หากไม่มีใครยอมใคร ก็จะเดินหน้าต่อไม่ได้ ทุกฝ่ายควรถอยคนละก้าว เพื่อให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเดินหน้าต่อไปได้ ต่างฝ่ายไม่ควรดื้อดึงเล่นแง่ใส่กัน

ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร. มีความมุ่งมั่นในการนำทัพ สส.ของพรรคสู้ศึกอภิปรายนายกฯ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของนายกฯ ซึ่งสาเหตุที่ท่านจะร่วมอภิปรายด้วยตัวเอง ก็เพราะให้ความสำคัญกับการทำงานของพรรค ที่ต้องมีบทบาทในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภา 

"เราจะไม่เข้าร่วมกับรัฐบาลที่มีปัญหาโดยการนำของนายกฯ ท่านนี้ ที่ไปไม่ได้ ใครเข้าไปก็เปรอะเปื้อน เพราะมีแต่เรื่องไม่ดี พรรค พปชร.จึงไม่มีทางไปร่วมด้วยเด็ดขาด ในเวลานี้เราจะไม่เป็นฝ่ายรัฐบาลแน่นอน เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปทำอย่างนั้น ในทางการเมืองเรามุ่งหวังที่จะเร่งรัดให้ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และหัวหน้าลงมือหาผู้สมัครต่างๆ ด้วยตัวท่านเอง ซึ่งถ้าดูในแง่ประวัติการทำงานของพรรค เรามีสิทธิ์ได้ สส.ถึง 60 คน” นายไพบูลย์กล่าว

เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตรไปออกรายการเคลียร์ทุกประเด็น ทำให้ภาพพจน์ของพรรคดีขึ้น ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ยิ่งทำให้สังคมเข้าใจพรรคและหันมาสนับสนุนเรามากขึ้น ขอให้รอดูการอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร มีคุณภาพ ไว้ใจได้แน่นอน

"แค่ท่านไปอภิปรายก็มีน้ำหนักสมบูรณ์แล้ว  เพราะเห็นว่านายกฯ คนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ซึ่งในการอภิปรายต้องมีอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่ผมไม่อยากพูดอะไรเกินไป ขอให้รอฟังวันอภิปรายเลยดีกว่า" เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าว

อย่าเพิ่งรีบหาเสียง

ด้านนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ โดยจะพาดพิงถึงว่า ถามจริงๆ เพื่ออะไร ไม่ได้เป็น สส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะทำไปเพื่ออะไร หรือจะดิสเครดิตเพื่อวางเผื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เหลืออีก 2 ปี ขอให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบเลือกตั้ง  ไม่ต้องหาเสียง

เมื่อถามว่า ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูหรือไม่ เพราะอาจมีอะไรที่เกินเลย นายทักษิณกล่าวว่า  ไม่มีปัญหา สบายๆ เห็นนรกสวรรค์มาแล้ว เฉยๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้น

ถามว่า ในการอภิปรายจะพาดพิงเกี่ยวกับประเด็นชักใยนายกฯ นายทักษิณกล่าวว่า เป็นพรรคคนรุ่นใหม่ ต้องพยายามทำอะไรให้สร้างสรรค์ ต้องทำอะไรที่ดูแล้วน่าเชื่อถือ อย่าเป็นที่น่ารำคาญ หากทำอะไรที่น่ารำคาญ เดี๋ยวจะเสียไปอีกพรรค

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่านายทักษิณเป็นนั่งร้านคอยอยู่ด้านหลังนายกฯ แรงเกินไปหรือไม่  นายทักษิณกล่าวว่า “ต้องถามว่าประเด็นนี้ได้ปรึกษาผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วหรือไม่ เขาได้ปรึกษากันยังว่าจะเล่นประเด็นนี้” ต่อข้อถามว่า หมายความว่าอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า “เอ้า ต้องถามว่านายก อบจ.ลำพูนนั้น มีใครไปช่วยดูแลบ้าง ใจเย็นๆ”

ถามย้ำว่า หมายความว่ามีการพูดคุยกันอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า เปล่าๆ ไม่มีใคร แต่คือแบบนี้ สรุปแล้วต้องว่าไปตามกติกา จะอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีหรืออะไรก็ว่ากันไป ไม่เป็นอะไร ผมไม่เกี่ยว”

เมื่อถามว่า ติดใจที่มีการเอ่ยชื่อนายทักษิณหรือต้องเป็นชื่ออื่นหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า  ชื่อผมมันหล่อไปหน่อย ไม่เป็นอะไร

เมื่อถามว่า ได้มีการให้คำแนะนำนายกฯ  หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มี ช่วงนี้นายกฯ ก็ทำงานหนักหน่อย เพราะปัญหาเศรษฐกิจต้องช่วยกันฟื้น ซึ่งตอนสมัยปี 2540 ที่มีปัญหาเศรษฐกิจตอนนั้น เป็นเหมือนบ้านที่หลังคาพัง ซ่อมง่าย แต่วันนี้พังโดยฐานราก ซึ่งเมื่อฐานรากพังก็ต้องใช้เวลาในการซ่อม แต่ถามว่าซ่อมได้หรือไม่ ก็ได้ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ฉะนั้นต้องให้เวลารัฐบาล

เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านไม่ยอมถอนชื่อนายทักษิณออกจากญัตติไม่ไว้วางใจ มองว่านายกฯ จะผ่านศึกอภิปรายไปได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เมื่อนายกฯ มาเป็นนายกฯ  เขาก็ต้องรู้อยู่แล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องธรรมดา การใส่ร้ายป้ายสีก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมี แต่การบรรจุญัตติที่มีชื่อของบุคคลภายนอกนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ  ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล

เมื่อถามว่า เหมือนจะให้ใช้ชื่ออย่างอื่นแทน มีอะไรจะแนะนำหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า จะเรียกอะไรก็เรียกไป อย่างไรก็ได้ แต่ต้องหล่อหน่อย

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีมา 3 ชื่อ คือ คุณพ่อ ชายคนนั้น หรือ สทร. นายทักษิณกล่าวว่า เอาเลยไม่มีปัญหา อะไรก็ได้รับได้หมด แต่ขอให้เป็นไปตามกติกาของสภา สภาว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้นายกฯ พานายทักษิณเข้าไปไปนั่งชี้แจงในสภาด้วย นายทักษิณกล่าวว่า “กติกาได้หรือเปล่า ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน โถ่ เป็นคนรุ่นใหม่ ทำอะไรให้มีรักษากติกาบ้าง”

วันเดียวกัน ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน มองถึงการที่ฝ่ายค้านตัดชื่อนายทักษิณออกจากญัตติแลกขอขยายเวลาอภิปรายเป็น 30 ชม.ว่า ทรงเหมือนจะดี แต่แพ้เหลี่ยมทักษิณ เพราะข้อกฎหมาย เรื่องเอกสิทธิ์คุ้มครองพาดพิงบุคคลภายนอกไม่ได้ เพราะเสี่ยงถูกฟ้อง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 ทำให้ผู้นำฝ่ายค้านฯ เสียทรงมวย เพราะไม่ศึกษารัฐธรรมนูญและระเบียบข้อบังคับการประชุมให้ละเอียด เพราะเพียงต่อรองเวลาให้เวลาอภิปรายเพิ่ม ไม่เปลี่ยนแปลงข้อสาระสำคัญในประเด็นที่จะอภิปราย น.ส.แพทองธาร ซึ่งการถอดชื่อหรือตัดรายชื่อนายทักษิณออก เป็นการแพ้ในเกมในสภา เพราะติดขัดปัญหาข้อกฎหมาย แต่ในมิติทางการเมือง การประกาศผ่านสื่อว่า ฝ่ายค้านไม่มีการแก้ไขญัตติ แต่ภายหลังถอยกรูด มาแก้ไขถอดรายชื่อนายทักษิณฯ เกมฝ่ายค้านทำให้ออกอาการเสียทรงมวย

"เหลี่ยมการเมืองที่ว่าแพ้นายทักษิณ อย่าลืมว่านายทักษิณเป็นบุคคลสาธารณะ และประกาศตนเป็น สทร. เสือกทุกเรื่อง เมื่อเข้ามายุ่งเกี่ยวกับรัฐบาล ให้คำแนะนำ ชี้แนะกับ น.ส.แพทองธาร แม้เอกสิทธิ์ไม่คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่นายทักษิณเป็นบุคคลสาธารณะ การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ย่อมยกหลักสุจริตมาตรา 329 ขึ้นต่อสู้ได้" นักกฎหมายมหาชนรายนี้ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่ยกพรรคส้ม ยก 'ระบอบนายใหญ่เหนือหัว' โต้เดือด 'ทักษิณ' พาดพิง 'ธนาธร'

'เจี๊ยบ อมรัตน์' โต้เดือด 'ทักษิณ' พาดพิง 'ธนาธร' เป็นนั่งร้าน-ชักใยพรรคประชาชน ลั่นเราเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไม่เรียกใครว่านาย และไม่ยอมรับการเมือง 'ระบอบนายใหญ่เหนือหัว'

พิชิต-คปท. ฉะสงครามนั่งร้าน 'ทักษิณ-ธนาธร'

'พิชิต แกนนำคปท.' อัดสงครามนั่งร้านระหว่าง "ทักษิณ-ธนาธร" สถานนะไม่ต่างกัน เปรียบมวยมวยนอกเวลา แนะฝ่ายค้าน-มวยในเวลาชกให้สมราคา อย่าแค่แย็บไปต่อรองไป

ถอดรหัส 'ทักษิณ' โชว์เขี้ยว! พลิกเกม-ขย้ำกลับ 'พรรคส้ม' เปิดแผลนั่งร้าน 'ธนาธร'

ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “พรรคประชาชน” ไม่เพียงแค่เป็น “ศึกซักฟอก” ครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร แต่ยังถูกออกแบบมาให้กระทบชิ่งถึง “ทักษิณ ชินวัตร” โดยตรง

‘นิพิฏฐ์’ จี้ฝ่ายค้านแก้ปัญหา สส.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสภาก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ

อดีตสส.พัทลุง เรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านจัดการปัญหา สส.ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสภาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมแนะนำให้เสียค่าปรับตามกฎหมายเพื่อแสดงความรับผิดชอบก่อนวิจารณ์รัฐบาล

สั่งรัฐบาลเรียกทูตอียูแจงปมอุยกูร์

“ทวี” เชื่อ กต.มีแผนรับมือหลังอียูประณามไทยปมส่งกลับอุยกูร์ “ปชน.” ได้ทีขย่ม รีบบอกให้รัฐบาลขยับเรื่องมาตรา 112 “นันทนา” จี้อธิบายต่อสังคมโลกให้ดี

สทร.ปูดเจรจาบีอาร์เอ็น! บึ้มชุดคุ้มครองครูเจ็บอื้อ

ปัตตานีคนร้ายกดบึ้มตำรวจ นปพ.ชุดรักษาความปลอดภัยครูบาดเจ็บระนาว 9 นาย สาหัส 1 นาย คาดเป็นฝีมือกลุ่ม “อับดุลเลาะ มะแด” มทภ.4 ประชุมนัดพิเศษหวังสร้างรอมฎอนสันติ