"พรรคส้ม" อัดรัฐบาลพาสื่อติดตาม 'ชาวอุยกูร์' ที่จีนไม่โปร่งใส "โรม" ห่วงไม่มีความอิสระ แนะต้องดูทั้ง 100 ชีวิตที่ส่งกลับสมัย คสช.ด้วย เตือน ขรก.อาจซวยเหตุคำสั่งผู้นำไม่รอบคอบ 'ภคมน' โวยอย่าโยนไพ่ให้สื่อผิดใจกันเอง ใช้เป็นเครื่องมือพีอาร์รัฐไม่ต่างจากรัฐบาลเผด็จการ "ภูมิธรรม" แจงเครื่องบินมี 20 กว่าที่นั่ง คัดเลือกจากทุกแพลตฟอร์มขอให้รอดูผลลัพธ์ "รัฐสภายุโรป" จุ้นไทยประณามส่งอุยกูร์กลับจีน จี้ยกเลิก ม.112 นิรโทษคดีการเมือง
ที่รัฐสภา วันที่ 14 มีนาคม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการที่รัฐบาลจะนำคณะสื่อมวลชนไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ว่า อยากให้มองสาระสำคัญคือ สื่อมวลชนที่ไปจะมีมีอิสระในการทำข่าวมากน้อยแค่ไหน หากสื่อมวลชนมีอิสระในการทำข่าวหรือสอบถามพูดคุย โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปกับคณะตลอดเวลา แบบนี้จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าต้องไปตามจุดที่วางไว้ แตกแถวไม่ได้ ก็อาจจะไม่ได้เห็นภาพที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้ถ้าอยากให้เรื่องคลี่คลาย รัฐบาลไทยต้องพูดคุยกับรัฐบาลจีนว่าการที่มีความร่วมมือแบบนี้ สังคมไทยฝ่ายการเมืองในไทย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ตนเป็นห่วงว่าสุดท้ายกำลังทำผิดกฎหมายภายในประเทศและระหว่างประเทศหรือไม่
นายรังสิมันต์ระบุว่า หากอยากได้ความมั่นใจ ก็ต้องสร้างความมั่นใจ ตั้งแต่กระบวนการแรก ว่ามีอิสระการทำข่าวมากน้อยแค่ไหน ซึ่งประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า 40 คนนั้น มีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ต้องดูต่อว่าอีก 100 กว่าคนที่ส่งไปก่อนหน้านี้ เมื่อสมัยรัฐบาล คสช. มีชีวิตอยู่หรือไม่ รวมถึงรายงานที่ว่า สถานการณ์ในซินเจียงวิกฤตมาก ต้องดูว่าข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน อาจจะเป็นเครื่องยืนยันว่า เราอาจจะได้ทำผิดในการส่งชาวอุยกูร์ไปตาย กลายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมายระหว่างประเทศ และที่น่าเจ็บปวดคือ พ.ร.บ.ป้องกันการอุ้มหาย เป็นกฎหมายที่เอาผิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจจะซวยไปด้วย เพราะทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจเป็นเรื่องที่คิดไม่รอบด้าน
"เรื่องนี้ไม่โปร่งใสแน่นอน หากโปร่งใสคงไม่ส่งกลับตอนดึกขนาดนั้น คงไม่มีการติดสติกเกอร์ปิดทึบแบบนั้น ถ้าโปร่งใสรัฐบาลควรแถลงข่าวชี้แจงกับประชาชนไปแล้ว สุดท้ายปัญหาจะเกิดขึ้นกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ต้องแบกรับไม่ว่าจะเกิดอะไรก็แล้วแต่" นายรังสิมันต์กล่าว
น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า จังหวะนี้รัฐบาลเรียกความเชื่อมั่นได้ เนื่องจากที่ผ่านมาสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน รัฐบาลมีความพยายามยืนยันเรื่องความโปร่งใส โดยให้สื่อมวลชนไปทำข่าว แต่กลายเป็นว่า ไม่สามารถนำสื่อมวลชนไปได้ถ้วนหน้าหรือทั่วถึง จึงต้องถามรัฐบาลว่าใช้สื่อมวลชนเป็นพีอาร์ของรัฐบาลหรือไม่ เพราะหากคำนึงถึงการทำงานของสื่อมวลชน ก็ต้องเปิดกว้างถึงสื่อทุกสื่อที่แสดงความจำนงว่าสามารถไปได้ ไม่ใช่การคัดเลือกไปเฉพาะบางสื่อ ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับสื่อที่เดินทางไปซินเจียง แต่ยังมีสื่อมวลชนที่ทำข่าวเจาะเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่ไม่มีโอกาสได้ไป จุดประสงค์ของการที่ขนคณะสื่อไปนั้น ต้องการแค่ข่าวพีอาร์ของรัฐบาลหรือต้องการแสดงความชอบธรรมต่อสาธารณะ
ส่วนกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุถึงสื่อที่เลือกฝ่ายนั้น น.ส.ภคมนกล่าวว่า อย่าพยายามโยนไพ่ให้สื่อต้องผิดใจกันเอง เรื่องนี้จบได้ที่คุณ ในการยืนยันจุดประสงค์ของการขนสื่อไป เพื่อพีอาร์รัฐบาล หรือให้สื่อได้ข้อเท็จจริง สื่อมวลชนมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานกันอยู่แล้ว ในเมื่อต้องการยืนยันความโปร่งใสของสาธารณะ ก็ควรให้โอกาสทุกคนที่อยากไปสืบหาข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่กระทรวงกลาโหมสัมภาษณ์สื่อบางคนเกี่ยวกับทัศนคติในการแก้ไขปัญหาชาวอุยกูร์ ไม่ควรเกิดขึ้นกับรัฐบาลที่ยืนยันมาตลอดว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะการตั้งกฎเกณฑ์แบบนี้ไม่ต่างกับรัฐบาลเผด็จการดูทัศนคติเป็นการเซ็นเซอร์กลั่นกรองว่าคนที่ไปด้วยสามารถควบคุมได้หรือไม่ บ่งบอกว่าดูถูกสื่อมวลชน ลดทอนประชาธิปไตย และการทำงานของสื่อมวลชน
"คุณวางสถานะของสื่อมวลชนประเทศไทยไว้แบบไหน เป็นพีอาร์รัฐบาล หรือต้องการให้อิสรภาพในการทำงานมีช่องว่างระหว่างรัฐกับสื่อ เป็นเรื่องที่ต้องตระหนักมากๆ รัฐบาลไม่ได้มองเห็นความสำคัญของสื่อมวลชนทั้งหมด แต่มองเป็นเครื่องมือพีอาร์ของรัฐบาล" น.ส.ภคมนกล่าว
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า เครื่องบินมีที่นั่งทั้งหมด 20 กว่าที่ เป็นเครื่องของกองทัพ จะช่วยประหยัดเวลาไป 8 ชั่วโมง ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่อง จำนวนที่นั่งมีเท่านี้ จริงๆ หากเอาสื่อของรัฐ เช่น NBT หรือช่อง 5 ไปเป็นพูลก็ได้ แต่เราพยายามให้มีลักษณะพิเศษคือ โดยมีทั้งสื่อที่เป็นตัวแทนหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ออนไลน์ โดยมีข่าวว่าทั้งหมดมาขอที่ตน และตนเป็นผู้ตัดสินใจ จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย เป็นการร่วมกันทำงาน โดยให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้ประสานและคัดเลือกมา ส่วนที่กระทรวงกลาโหมก็ให้ทางโฆษกกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ประสานและเลือก บางที่ตนไม่ทราบว่าคัดเลือกมาอย่างไร แต่บางที่สื่อก็มีการตกลงกัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไป
ส่วนที่มีการพาดพิงถึงตนว่าไม่แฟร์ รัฐบาลเลือกสื่อที่ไปนั้น นายภูมิธรรมมองว่า เป็นการดูถูกสื่อ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าใครเป็นสื่อของรัฐบาล ยกเว้น NBT ที่เขาก็ทำหน้าที่ นอกจากนี้สื่อที่เลือกไปก็เลือกจากความนิยมและเรตติงที่มีอิทธิพลต่อประชาชนมากที่สุด รัฐบาลกระจายให้ทั้งหมด จะมาบอกว่าจะไปขอสมาคม หรือที่มีคนบอกว่าจะไปขอทางการจีน ก็เรื่องของท่าน ไม่ใช่บอกว่าเราเอาสื่อรัฐบาลไปทั้งนั้น รอดูว่าใครได้ไปแล้วตอบเองว่าคุณไปดูถูกเขาหรือไม่ว่าเป็นสื่อรัฐบาล ซึ่งดูจากชื่อที่ออกมาคิดว่าทั่วถึง ทั้งจากทำเนียบรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม และครั้งนี้มีที่นั่งให้สื่อ 7-8 ที่ มีคนมาขอไปอีก ตนก็บอกว่าไปไม่ได้แล้ว ที่มีแค่นี้ เพราะฉะนั้น ไม่แฟร์ที่จะมาบอกว่าเราทำแบบนี้ ขอให้ดูผลที่ออกมาก่อน แล้วค่อยมาตรวจสอบว่าสื่อที่ไปฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ถามนายรังสิมันต์ว่าสื่อจะมีเสรีภาพในการทำข่าวหรือไม่ นายภูมิธรรมย้อนถามว่า “เอ้า คุณจะมาถามผมได้ไง คุณต้องไปพวกคุณสิ” ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า นายรังสิมันต์เป็นคนถาม นายภูมิธรรมกล่าวว่า “คุณโรมถามก็เรื่องของคุณโรมอย่าไปสนใจ คุณโรมก็ถามแบบนี้ตลอด แต่อย่าเป็นคำถามที่ไม่มีรากฐาน”
มีรายงานว่า รัฐสภายุโรปได้เผยแพร่ประกาศ "ญัตติร่วมเพื่อขอมติเกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" ก่อนที่จะมีการอภิปรายในที่ประชุมสมาชิกรัฐสภายุโรป และเตรียมโหวตรับรองร่างมติในวันที่ 13 มีนาคม โดยมีมติ ประณามการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับไปที่จีน และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐไทยยุติการบังคับส่งตัวผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย รวมถึงผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองกลับไปยังประเทศต้นทางที่พวกเขาเสี่ยงที่จะเผชิญกับอันตราย ให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้ UNHCR เข้าถึงตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ทั้งหมดอย่างไม่มีข้อจำกัด และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
เรียกร้องให้จีนเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของพวกเขา อนุญาตให้สามารถเข้าถึงตัวพวกเขาได้ และปล่อยตัวชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขัง ให้ไทยให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยปี 1951 และพิธีสารปี 1967 ที่เกี่ยวข้อง และปฏิรูปให้กระบวนการลี้ภัยในไทยมีความโปร่งใส ยุติธรรมและมีมนุษยธรรม
เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และกฎหมายที่กดขี่อื่นๆ เพื่อรับประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมอย่างสันติ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง ให้มีการนิรโทษกรรมแก่สมาชิกผู้แทนราษฎร และนักเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดีหรือถูกจำคุกจากกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมถึงกฎหมายที่กดขี่อื่นๆ
ให้คณะกรรมาธิการยุโรปใช้การเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อกดดันให้ไทยปฏิรูปกฎหมายที่กำจัดเสรีภาพ ซึ่งรวมถึงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ยุติการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ และให้สัตยาบันอนุสัญญาหลักองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ทั้งหมด และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรประงับการดำเนินการภายใต้สนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับจีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่ยกพรรคส้ม ยก 'ระบอบนายใหญ่เหนือหัว' โต้เดือด 'ทักษิณ' พาดพิง 'ธนาธร'
'เจี๊ยบ อมรัตน์' โต้เดือด 'ทักษิณ' พาดพิง 'ธนาธร' เป็นนั่งร้าน-ชักใยพรรคประชาชน ลั่นเราเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไม่เรียกใครว่านาย และไม่ยอมรับการเมือง 'ระบอบนายใหญ่เหนือหัว'
ถอดรหัส 'ทักษิณ' โชว์เขี้ยว! พลิกเกม-ขย้ำกลับ 'พรรคส้ม' เปิดแผลนั่งร้าน 'ธนาธร'
ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “พรรคประชาชน” ไม่เพียงแค่เป็น “ศึกซักฟอก” ครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร แต่ยังถูกออกแบบมาให้กระทบชิ่งถึง “ทักษิณ ชินวัตร” โดยตรง
อย่าทำตัวน่ารำคาญ ‘ทักษิณ’อัดศึกอภิปราย! ไล่ปชน.คุยผู้ก่อตั้งพรรค
"ผู้นำฝ่ายค้านฯ" ยันซักฟอก 30 ชม.เหมาะสม น้อยกว่านี้เนื้อหาอาจตกหล่น บอก "นายกฯ อิ๊งค์" ก็อยากตอบ ขอฝั่งรัฐบาลอย่ากั๊กเวลา อุบตัดชื่อ "ทักษิณ" จากญัตติอภิปรายแล้วใช้คำอะไรแทน อ้างเก็บเป็นไพ่ใบสุดท้ายต่อรองเวลาอภิปราย
สั่งรัฐบาลเรียกทูตอียูแจงปมอุยกูร์
“ทวี” เชื่อ กต.มีแผนรับมือหลังอียูประณามไทยปมส่งกลับอุยกูร์ “ปชน.” ได้ทีขย่ม รีบบอกให้รัฐบาลขยับเรื่องมาตรา 112 “นันทนา” จี้อธิบายต่อสังคมโลกให้ดี
สทร.ปูดเจรจาบีอาร์เอ็น! บึ้มชุดคุ้มครองครูเจ็บอื้อ
ปัตตานีคนร้ายกดบึ้มตำรวจ นปพ.ชุดรักษาความปลอดภัยครูบาดเจ็บระนาว 9 นาย สาหัส 1 นาย คาดเป็นฝีมือกลุ่ม “อับดุลเลาะ มะแด” มทภ.4 ประชุมนัดพิเศษหวังสร้างรอมฎอนสันติ
ผงะ! ขุนคลัง ขอร่วมวงถก สมาคมแบงก์
“ขุนคลัง” ส่งซิกร่วมประชุมสมาคมแบงก์ หวังถกปลดล็อกปล่อยกู้ กระทุ้งหั่นดอกเบี้ย พร้อมเร่งหาข้อสรุปมาตรการ LTV ให้จบก่อนสิ้นเดือนนี้ “นักวิชาการ” หนุนหวยเกษียณ แต่แนะเพิ่มเงินรางวัล