ส่งศาลชี้นิยามไม่ซื่อสัตย์

“อุ๊งอิ๊ง” ลั่นไม่ต้องเคลียร์ใจอะไร เพราะไม่มีรอยร้าว เปรียบครอบครัวเดียวกันยังทะเลาะกันได้ “อนุทิน” บอกไม่กล้ามีรอยร้าว  พร้อมโหวตให้ทุกพรรคร่วมฯ “ธรรมนัส” ขู่อย่าดึงไปเอี่ยวเกาเหลาสองพรรค ดินเนอร์พรรคร่วมฯ  แบบอเมริกันแชร์จ่ายหัวละ 7 พัน “นายกฯ” โวรัฐบาลมีเอกภาพ เชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีแทงข้างหลัง “เสี่ยหนู” ชมเปาะ “อิ๊งค์” แสดงภาวะผู้นำชัดเจน เป็นผู้คุมกฎที่ทุกคนต้องทำตาม “ปชน.” ตีปี๊บยื่นซักฟอก 27 ก.พ.นี้แน่ เปิดชื่อออกมาจะรู้ว่าเอาจริง “ลุงป้อม” พร้อมนำ พปชร.สับอัลไพน์ ครม.มอบ “ชูศักดิ์” ส่งศาล รธน.ตีความนิยามไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ปมคุณสมบัติ รมต.

เมื่อวันอังคารที่ 25 ก.พ.2568 น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงวงรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลจะมีอะไรพิเศษหรือไม่ว่า พิเศษทุกวัน ถามต่อว่าต้องเคลียร์ใจอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีค่ะ ไม่ต้องเคลียร์ค่ะ

ต่อมา น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. โดยเดินนำหน้าลงมาพร้อมรองนายกฯ และรัฐมนตรี ด้วยท่าทีผ่อนคลายและหัวเราะอย่างเป็นกันเอง ซึ่งในช่วงเดินเข้าโพเดียมแถลงข่าว นายกฯ กวักมือให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่เดินอยู่ข้างหลังพร้อมระบุว่า “รีบกวักมือเชิญท่านอนุทินเลยนะคะ เดี๋ยวเขาจะว่าเรามีรอยร้าว” ก่อนที่นายอนุทินที่ยืนอยู่ข้างนายกฯ จะหันไปดึงนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่อยู่ห่างออกไปให้มายืนข้างๆ โดยจังหวะนี้นางนฤมลพูดว่า “อ๋อไม่ร้าว มาจับมือ” พร้อมยื่นมือไปจับกับนายอนุทิน ซึ่งนายกฯ ได้กระเซ้าไปว่า “นี่ร้าวด้วยเหรอคะ” จึงทำให้นายอนุทินตอบไปว่า “แตกเลย” ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ยืนอยู่อีกข้างพูดขึ้นว่า “นี่อะไร ไว้ใจไม่ได้เลย” จึงทำให้บรรดารองนายกฯ และรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ด้านหลังนายกฯ ต่างพากันหัวเราะ

เมื่อถามว่า วันที่ 24 ก.พ. ได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ถึงกรณีมีข่าวนัดพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ข่าวมาได้อย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้คุย เพราะท่านไม่ได้นัดไว้ เลยไม่ได้มีการไปเจอกัน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้เป็นอย่างไร น.ส.แพทองธารย้อนถามสื่อว่า ให้สื่อให้คะแนน ก่อนกล่าวว่า ไม่มีอะไรค่ะ อย่างในพรรคเอง 100% ยังไม่เห็นด้วยกัน อย่างพรรคร่วมฯ ไม่เห็นด้วยกัน 100% เป็นเรื่องธรรมดา และมีเรื่องที่ไม่เห็นด้วยกันจริงๆ ไม่ได้ไม่มี ไม่ได้บอกว่าทุกเรื่องเห็นด้วย แต่ต้องคุยกัน บางเรื่องคุยกันแบบลับก็ได้ผลที่ดีกว่า ทำงานได้ราบรื่นกว่า แต่ละรัฐบาล แต่ละนายกฯ แต่รัฐมนตรี และรองนายกฯ มีวิธีจัดการปัญหาไม่เหมือนกัน การพูดคุยกันเป็นสิ่งจำเป็น ต้องหาเวลาพูดกันมากขึ้น เพื่อเข้าใจกันมากขึ้น

เมื่อถามว่า ตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อมมาถึงการสอบฮั้ว สว.ทำให้ถูกตีความว่ามีรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย น.ส.แพทองธารหันไปถามนายอนุทินว่า “ท่านรองฯ มีรอยร้าวกับดิฉันไหมคะ” นายอนุทินตอบว่า “ไม่กล้ามีด้วยซ้ำ” ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะกล่าวว่า “มันมีเรื่องที่เห็นต่างกันจริง จึงบอกว่าต้องคุยกัน ถ้าเห็นต่างแล้วไม่คุยกันนั้นแหละรอยร้าว ถ้าคิดไม่เหมือนกันแล้วหันหลังให้กันนั่นคือรอยร้าว แต่อันนี้ถ้ายังเปิดใจคุยกันอยู่ไม่ใช่รอยร้าว คนในครอบครัวยังทะเลาะกันได้ เราเป็นคนทำงานด้วยกัน การเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเราเห็นไม่ปกติก็จะไม่ปกติ

 “เรายังเดินหน้าแน่นอน เราไม่ได้ขัดแข้งขัดขากัน เป็นเรื่องที่เราเห็นไม่ตรงกันมากกว่า ไม่ใช่เรื่องที่ขัดขากัน”

ย้ำรัฐบาลอยู่ครบเทอม

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะอยู่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยจนจบสิ้นรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อันนั้นเป็นความตั้งใจอยู่แล้ว แน่นอนใครจะตั้งใจว่าลงร่วมรัฐบาลเสร็จให้แตกกัน มันไม่ใช่ ตนเองเป็นนายกฯ ถ้าสมมุติว่ามีพรรคร่วมฯ หลายพรรคแบบนี้แล้วไปด้วยกันไม่ได้ ตนต้องเป็นคนคุยและเป็นคนแบกไว้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่อยากให้มีปัญหาเช่นนั้นแน่นอน เราถึงต้องคุยกัน

ถามย้ำว่า ยืนยันรัฐบาลจะอยู่ครบเทอมเหมือนเดิมใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "อยากยืนยันอย่างนั้นเลยค่ะ แน่นอน"

ด้านนายอนุทินกล่าวถึงงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลจะมีประเด็นเคลียร์ใจอะไรหรือไม่ ว่ายืนยันว่าไม่มีการเคลียร์ใจในวันนี้ แต่เราไปหารือถึงความพร้อมของแต่ละพรรคหากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนกรณีนายกฯ ระบุว่าพรรคร่วมฯ มีความเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่องนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ ทุกคนต้องมีความเห็นเป็นของตัวเอง ความเห็นไม่ตรงกันก็นำมายำและหารือกัน ความเป็นรัฐบาลคืออะไรที่เกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนก็ต้องยอมรับ ยืนยันว่าทุกวันนี้ไม่เคยมีความขัดแย้งในการเป็นรัฐบาล 

เมื่อถามว่า คิดว่ามีศัตรูรายบุคคลในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องรัฐบาล ถ้าเป็นเรื่องบุคคลก็ต้องว่ากันไป จะไปกวนท่านนายกฯ ไม่ได้ อย่างกรณีตรวจสอบที่ดิน อ.ปากช่อง เกี่ยวกับครอบครัวของตน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ใครจะไปพิสูจน์ก็ทำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

“ในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ถ้าเป็นเรื่องการปฏิบัติงานชี้แจงได้ไม่ผิดกฎหมาย พรรคก็ยกมือสนับสนุนให้ นอกจากฝ่ายค้านมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นความผิดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าพรรคนั้นจะมี 140 คนหรือ 36 คน ยืนยันว่าท่าทีพรรคจะเป็นแบบนี้ เราต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน และจะได้เคลียร์กันว่าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง พร้อมยกมือให้กับทุกพรรคร่วมรัฐบาล”

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวนายทักษิณนัดพบกับนายเนวินว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตนเอง จึงให้ความเห็นไม่ได้ อะไรที่เป็นเรื่องของตนเองถึงจะพูดได้ อะไรที่ไม่ใช่เรื่องของเราแล้วไปพูดเดี๋ยวจะเสียหาย

ธรรมนัสขู่อย่าดึงไปพัวพัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในประเด็นความเห็นที่แตกต่างดูเหมือนจะดึง ร.อ.ธรรมนัสเข้าไปร่วมด้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คนที่ดึงไปเกี่ยวข้องต้องหันไปดูตัวเองว่าเกี่ยวข้องเรื่องอะไร ตอนนี้มีสถานะเป็นเพียง สส. ดังนั้นอย่าดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่าเอาไปพัวพันกับเรื่องอะไร เพราะไม่ชอบทะเลาะกับใคร และมีจุดยืนเสมอว่า อย่าเอาตนเองไปยุ่งกับใคร และอย่ามายุ่งกับตนเอง เพราะถ้าสวนกลับ เดี๋ยวจะหนาว

ถามถึงการปรับ ครม. หากมีการเสนอให้เป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นไม่ขอพูดดีกว่า เพราะเวลานี้ชีวิตมีความสุขพอ ได้ทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ดูแลพี่น้องพรรคกล้าธรรม ดูแลครอบครัว และขอย้ำว่ามีลูกเยอะ และยังเล็กอยู่ ต้องให้เวลากับลูก ส่วนการเมืองเริ่มจะเบื่อ และเริ่มหาทายาทใหม่ เพราะเล่นการเมืองอย่างนี้ไม่น่าเล่น ตอนนี้มอบนางนฤมลในทุกเรื่อง

มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังประชุม ครม.เสร็จสิ้น ได้มีการประชุมลับต่อทันที โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งที่ประชุมให้ ครม.ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ระบุให้ชัดถึงคำนิยามคนที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในครั้งไปต่อไป ซึ่งที่ประชุมได้มีการมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทำหนังสือสอบถามความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การหารือเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม. ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น

ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุม สส.ประจำสัปดาห์ โดย น.ส.แพทองธารได้เดินทางเข้ามาที่ทำการพรรค ก่อนเดินทางต่อไปร่วมรับประทานอาหารค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ โดย น.ส.แพทองธารไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับ สส. แต่ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีและ สส.บางส่วน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น โดยได้ประเมินรัฐมนตรีที่อาจถูกยื่นอภิปราย และเรื่องที่จะถูกอภิปราย เช่น สนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ดินเขากระโดง เพื่อให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลสำหรับการชี้แจง

ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล นายอนุทินเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ห้อง Regency Room ซึ่งถือเป็นการร่วมรับประทานอาหารค่ำครั้งที่ 2 ของรัฐบาล โดยมีบรรดาหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมอย่างคึกคัก

ดินเนอร์อเมริกันแชร์

นายอนุทินกล่าวถึงเหตุผลที่เลือกโรงแรมนี้ว่า เป็นสถานที่ที่ทุกคนรู้จัก เดินทางมาง่ายและสะดวก สำหรับอาหารได้จัดเตรียมไว้หลายอย่าง เช่น สปาเกตตีซอสเนื้อ เป็นต้น ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเกาเหลาหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มีเกาเหลา ขออย่าโยงทุกอย่างให้เป็นการเมืองไปหมด ให้ทุกคนกินและคุยกันแบบสบายๆ

และในเวลา 17.15 น. น.ส.แพทองธารเดินทางมาถึง มีนายอนุทินรอต้อนรับ และพาเดินเข้าไปในห้องรับรอง เพื่อนั่งรอหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคคนอื่นๆ ที่ยังเดินทางมาไม่ถึง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเอง ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งสื่อมวลชนได้ถามว่าใครเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ขอให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคที่เข้าร่วมดินเนอร์วันนี้จ่ายค่าอาหารคนละ 7,000 บาทให้กับตน เนื่องจากเป็นเจ้าภาพจัดรับรองจัดการหาในครั้งนี้และออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปก่อน เพราะงานเลี้ยงวันนี้เป็นแบบอเมริกันแชร์ ทำให้บรรดาหัวหน้าพรรคที่นั่งอยู่ในห้องรับรองหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาสแกนจ่ายเงินให้นายอนุทิน โดยนายกฯ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการแชร์ค่าใช้จ่ายในงานวันนี้ เพราะโรงแรมนี้ค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นพวกเราต้องอเมริกันแชร์ ก่อนบอกว่าไม่มีเงินเลยสักบาท เปิดกระเป๋ามาก็ไม่มีเลย ขอให้นายสรวงศ์เป็นคนจ่ายให้ก่อน แล้วจะโอนคืนให้ทีหลัง

ขณะที่นายอนุทินกล่าวอย่างติดตลกว่า “ท่านเฉลิมชัยจ่ายค่าอาหารให้ผมหรือยัง” ขณะที่นายกฯ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กล่าวแซว “ทวงหนี้เลยเหรอ” ซึ่งจังหวะนี้นายเฉลิมชัยได้ควักเงินสดในกระเป๋าขึ้นมาจ่าย แต่ปรากฏว่าเงินไม่พอจ่ายค่าอาหาร ทำให้นายกฯ และบรรดาหัวหน้าพรรคต่างพากันหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

จากนั้นเวลา 18.25 น. น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลได้ถ่ายภาพร่วมกันก่อนที่เข้าห้องอาหาร โดยโต๊ะอาหารจัดเป็นแบบโต๊ะยาว นายกฯ นั่งตรงข้ามกับนายอนุทิน ด้านซ้ายนายกฯ เป็นนายเอกนัฏ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และด้านขวานายกฯ เป็นนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.)

โดยช่วงหนึ่งนายกฯ กล่าวว่า ดินเนอร์วันนี้ก่อนเข้าสู่ห้องอาหารได้มีการสแกนจ่ายเงินค่าอาหารให้นายอนุทินแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าการออกเงินจ่ายค่าอาหารคนละ 7,000 บาท จะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ห้ามรับเงินเกิน 3,000 บาทหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เข้าข่าย เราไม่ทำผิดแน่นอน เพราะทุกคนจ่ายเงินเอง อเมริกันแชร์ ขณะที่นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า หารยาว ทำให้นายกฯ หัวเราะ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ทานอาหารอะไรกัน นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า ซุปหน่อไม้ ทำให้บรรดาแกนนำพรรคร่วมฯ หัวเราะ

สำหรับเมนูอาหารเมนคอร์สบนโต๊ะอาหาร เช่น เนื้อเป็ดตุ๋น สเต๊กเนื้อวากิว ของหวาน เช่น เค้กมีลเฟย ไอศกรีมราสเบอร์รี เป็นต้น

ต่อมาเวลา 20.00 น. น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมรับประทานอาหารค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลา 2 ชม.ว่า มีการคุยกันและเตรียมตัวเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง มีการคุยกันอย่างลงรายละเอียด แสดงให้เห็นเลยว่ารัฐบาลชุดนี้มีเอกภาพและมีเสถียรภาพ และมั่นคง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน มีการถามข้อมูลและพูดคุยกันระหว่างกระทรวงด้วย

เมื่อถามว่า ถือเป็นการขอมติจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ว่าให้สนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายกันอย่างพร้อมเพรียง นายกฯ กล่าวว่า ก็อย่างที่พูดรัฐบาลนี้มีเอกภาพ เพราะฉะนั้นเรื่องสนับสนุนรัฐมนตรี เราก็ทราบเนื้องานกันอยู่แล้ว และทราบมือกันอยู่แล้วว่าแต่ละกระทรวงทำเรื่องอะไรกันบ้าง ก็คุยกันให้ชัดเจนเท่านั้นเอง ซึ่งเรามีความคิดเห็นตรงกันทุกหัวข้อ

เมื่อถามว่า จะไม่มีการหักหลังกันเกิดขึ้นใช่หรือไม่ในช่วงการโหวตลงมติ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามย้ำว่าหากใครแตกแถวขึ้นมาจะทำอย่างไร นายกฯ  กล่าวว่า ไม่ได้คิดถึงบทลงโทษ เพราะคิดว่าไม่จำเป็นว่าจะต้องมีบทลงโทษ

เมื่อถามว่า นายกฯ ในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมีความกังวลอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีกังวล และเตรียมตัวพร้อมชี้แจง และพร้อมตอบในการอภิปราย ที่จะมาถึง วันนี้แต่ละท่านที่มาเรากำหนดแค่หัวหน้าพรรคกับเลขาฯ พรรคมาพบกัน เพื่อไปสื่อสารกับทุกคนในพรรคของตัวเองให้ชัดเจนถึงแนวทางต่างๆ เพื่อจะได้เข้าใจเนื้องาน

เมื่อถามอีกว่า วันนี้มีหัวหน้าพรรคคนไหนระบายความในใจหรือไม่ โดยนางนฤมลที่ยืนอยู่ข้างนายกฯ ชี้ไปที่นายอนุทินก่อนบอกว่า “คนนี้” ซึ่งทำให้นายอนุทินถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ โดยนายกฯ  กล่าวตัดบททันทีว่า “ไม่มี อันนี้ล้อเล่น”

เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองที่เบาลงเพราะมีการนัดรับประทานอาหารวันนี้ และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เลื่อนพิจารณากรณีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า โอ๊ย! พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) เดินทางมาช้าที่สุด เพิ่งออกจากประชุมชุดดังกล่าวมา ซึ่งบรรยากาศก็ดีตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวให้เป็นไปตามกระบวนการ อะไรเป็นยังไงก็ตามนั้น อย่าทำให้อาญาเป็นการเมือง การเมืองเป็นอาญา ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมดมันก็ทำงานยาก

ชมอิ๊งค์แสดงสภาวะผู้นำชัดเจน

เมื่อถามว่า มั่นใจในรัฐมนตรีชุดนี้ว่าทุกคนจะสอบผ่านในสภาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า โอ้! มั่นใจในรัฐมนตรีทุกคน ถามอีกว่ารัฐมนตรีชุดนี้ไม่มีใครดื้อใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า โอ้โห! มาถึงจุดนี้ดื้อทุกคน แม้กระทั่งนายกฯ ด้วยค่ะ

ด้านนายอนุทินกล่าวถึงบรรยากาศดินเนอร์ว่า นายกฯ ได้แสดงภาวะผู้นำอย่างชัดเจนให้แก่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เราทุกคนจึงมีความมั่นใจในการเป็นผู้นำของนายกฯ ซึ่งท่านได้กำหนดแนวทางชัดเจน ว่าเราเป็นรัฐบาลด้วยกัน ก็ต้องอยู่ด้วยกันให้ยาวนานที่สุด และหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจและมีการออกนอกแนว ก็ให้แต่ละพรรคช่วยกันปกป้อง ไม่ใช่พรรคใครพรรคมัน ปกป้องแต่รัฐมนตรีของพรรคตัวเอง หากใครมีความรู้ก็สามารถแก้ต่างได้ มาช่วยกัน ซึ่งนายกฯ ประกาศตัวเองว่าเป็นผู้คุมกฎที่ทุกคนต้องทำตามแนวทาง หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ต้องไปกำกับ สส.อย่าให้มีการแหกคอก และเกิดความไม่เข้าใจในรัฐบาล และเชื่อว่าก่อนการชี้แจงควรไปเสนอนายกฯ ว่าแนวทางควรเป็นอย่างไร ถูกกล่าวหาว่าอะไรก็ควรไปนำเรียนนายกฯ ก่อนเพื่อให้รับทราบ

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่แหกคอกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรกที่พูดว่าการร่วมรัฐบาลต้องยึดถือเรื่องสปิริต และทุกพรรคจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทย

ถามยํ้าว่า แม้แต่พรรคที่แทงข้างหลังก็ยังสนับสนุนรัฐมนตรีคนนั้นอยู่ใช่หรือไม่ หากถูกยื่นอภิปราย นายอนุทินกล่าวว่า  ไม่มีปัญหา นี่คือการร่วมรัฐบาล ไม่มีปัญหา ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เอาเรื่องส่วนตัวมาทําให้ภาพรวมเสียไม่ได้ เป็นคนละเรื่องกัน

ด้านความเคลื่อนไหวพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ  สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ว่า ตัวญัตติไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าน่าจะพร้อมยื่นในวันดังกล่าว ซึ่งขอให้รอดูทั้งตัวญัตติและรายชื่อรัฐมนตรี โดยบอกได้แค่ว่า ถ้าเปิดรายชื่อออกมา ก็จะเห็นถึงความเข้มข้นร้อนแรงในการอภิปรายมากกว่าทุกครั้งแน่นอน ซึ่งตอนนี้วางตัวผู้อภิปรายไว้หลายคน ซึ่งในส่วนของพรรคมีคนที่เข้าเนื้อเข้าหนังหลัก 10 คนขึ้นไปแน่นอน

ย้อนยุค พท.เป็นฝ่ายค้าน

 “เราก็เห็นกันอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงในการบริหารประเทศในปัจจุบัน ซึ่งเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นเวทีที่ทำให้นายกฯ ได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้ามาตอบชี้แจงด้วยตัวเอง ก็จะมีภาวะความเป็นผู้นำมากขึ้นในสายตาประชาชน” นายณัฐพงษ์ระบุ

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ยืนยันว่าเราขอเวลาอภิปราย 5 วัน และอยากส่งเสียงไปยังพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก เพราะเคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด 4 ครั้ง และทุกครั้งใช้เวลา 4 วัน ซึ่งหลายท่านก็อวดอ้างตัวเองว่าเก๋าเกมทางการเมือง รู้เรื่องการตรวจสอบถ่วงดุล และในสมัยที่แล้วท่านก็ขอวันอภิปรายฝ่ายรัฐบาล 5 วันทุกครั้ง หวังว่าได้เป็นรัฐบาลแล้วก็คงจะไม่ลืม

ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ก็อภิปรายสิ มีการอภิปรายหลายเรื่อง โดยมีเรื่องอัลไพน์ ส่วนจะทำให้รัฐบาลสะเทือนได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็คอยดูสิ ให้รอฟัง

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นผู้นำ สส.พรรคร่วมประชุมสภาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันแรกด้วยตัวเอง โดยจะเป็นผู้กำหนดแนวทางและประเด็นในการอภิปรายด้วย แต่ไม่ใช่ผู้ร่วมอภิปราย ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าพรรคจะประชุมและสรุปตัวผู้อภิปราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แพทยสภาเลื่อนคดีชั้น14

กลิ่นทะแม่ง! แพทยสภาออกประกาศเลื่อนคดีชั้น 14 อ้าง รพ.ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจเพิ่งส่งเอกสารใหม่มาจำนวนมากต้องใช้เวลา

ยังไม่ชัดสาเหตุตึกสตง.ถล่ม

ผ่าน 1 สัปดาห์เหตุตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว "ผู้ว่าฯ กทม." เผยลุยใช้เครื่องมือหนักเปิดทางเพิ่ม ขอโทษยังเจาะไปไม่ถึงผู้ที่คาดว่าติดอยู่ไม่ได้

เริ่มแล้ว ประชุม 7 ชาติ ผู้นำบิมสเทค หนุนกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ

เริ่มแล้วประชุม 7 ชาติ ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล BIMSTEC ผู้นำทุกประเทศหารือแบบตัวต่อตัวในรอบ7ปี ครั้งแรก พร้อมหนุนกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ ขณะที่เมียนมาเดินหน้าแก้ปัญหาทุกมิติร่วมกันกับไทย ทั้งอาชญากรรมข้ามชาติ คอลเซ็นเตอร์ และการป้องกันวาตภัย