จ่อเคาะ‘คดีพิเศษ’ ‘ทวี’อ้างอั้งยี่ซ่องโจรมีมา117ปีแล้ว/สว.รุมอัดDSIไม่มีอำนาจ

สภาสูงถกลับ 1 ชม. “มงคล” ร่ายยาวอัดดีเอสไอสอบฮั้วเลือก สว.กระทำไม่ชอบด้วยหน้าที่ แม้ไม่กลัวการตรวจสอบ “ทวี” ลั่นข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรมีมา 117 ปีแล้ว “ภูมิธรรม” ยันยึดตามหลักฐาน กคพ.เคาะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ “จตุพร” ฟันเป็นเกมทุบเพื่อต่อรอง สะพัด! "ทักษิณ-เนวิน" นัดกินข้าวเคลียร์ใจที่ รร.พูลแมน สุดท้ายเป็นแค่ข่าวปล่อย “อิ๊งค์” บอกกลับไปหาลูกไม่มีดินเนอร์

เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. 2568 คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) นำโดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา และ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ประชุมหารือกรณีการฮั้วเลือก สว. โดยมี สว.ผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำวุฒิสภา 21 คณะร่วมประชุมด้วย ซึ่งเป็นการหารือภายในแบบลับใช้เวลา 1 ชั่วโมง

นายมงคลแถลงภายหลังกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษในวันที่ 25 ก.พ. เพื่อมีมติให้คดีเกี่ยวกับการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 เป็นคดีพิเศษว่า รัฐธรรมนูญทุกฉบับได้บัญญัติให้การจัดการเลือกตั้ง สส.และการได้มาซึ่ง สว. ทำโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์หรือความมุ่งหมายไม่ให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหารหรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กับกรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการคดีพิเศษ

 “เพื่อมิให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจในการแทรกแซง หรือก้าวก่ายการได้มาและการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา และการดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยเฉพาะ” นายมงคลกล่าว

นายมงคลกล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ รับคำร้องและเตรียมเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติให้คดีเกี่ยวกับการตรวจสอบการเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ โดยที่ กกต.ยังไม่ได้มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าว หรือมอบหมายให้ดีเอสไอดำเนินการ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่และอำนาจของดีเอสไอ อีกทั้งการตั้งข้อหาอั้งยี่และความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 116 กับ สว.ต้องถือว่าเป็นการตั้งข้อหาและเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

“การตั้งข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง และเป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหารเป็นเครื่องมือ โดยส่อเจตนาที่จะทำลายองค์กรวุฒิสภา ทำให้วุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง เพื่อล้มล้างฝ่ายนิติบัญญัติ เราไม่กลัวการตรวจสอบ เราพร้อมและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกับองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่คือ กกต.มาโดยตลอด ที่ประชุมวันนี้ได้มีมติร่วมกันคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" นายมงคลกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ดีเอสไอระบุว่า การดำเนินคดีส่วนนี้คือส่วนของอาญาไม่เกี่ยวข้องกับ กกต. สามารถทำได้หรือไม่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธาน สว.คนที่ 2 กล่าวว่า การสืบสวนในเบื้องต้นเป็นหน้าที่ของ กกต. เรื่องการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งกฎหมายนี้ก็จะมีกฎหมายอาญาตามมาทีหลัง

ถามต่อเนื่องถึงกรณีดีเอสไอระบุว่า โพยฮั้วเลือกตั้ง สว.ตรงกันถึง 138 คน จาก 140 คน มีมูลพอจะตรวจสอบหรือไม่ คณะ สว.นิ่งอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่นายบุญส่งจะย้ำสั้นๆ ว่า เป็นหน้าที่ของ กกต. ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ถามถึงการยื่นถอดถอน พ.ต.อ.ทวี มีความคืบหน้าอย่างไร พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า เราทำตามอำนาจหน้าที่ของ สว. โดยเตรียมอภิปรายทั่วไปในเรื่องและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เขามีโอกาสมาตอบคำถาม หรือการตั้งกระทู้ซึ่งคงจะทันในสมัยประชุมนี้ ส่วนจะนำข้อมูลที่ได้ไปให้ฝ่ายค้านเพื่อซักฟอกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เราทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราไม่มีสังกัด เราก็ทำของเรา เขาก็ทำของเขา เรื่องนี้เราตอบไม่ได้ และเราไม่ได้มีความคิดที่จะทำ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวมีการโทร.ล็อบบี้คณะกรรมการคดีพิเศษนั้น นายมงคลกล่าวว่า ไม่ทราบ

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง กล่าวถึงกรณีมีการวิเคราะห์คดีฮั้วเลือก สว.ปี 2567  ว่าเป็นการงัดข้อกันระหว่างผู้มากบารมี 2 คน ว่าเขามองและวิเคราะห์กัน การเมืองก็เป็นแบบนี้ ไม่เหมือนการทหาร

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า สว.จะตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามการพิจารณาของดีเอสไอในวันที่ 25-26 ก.พ.ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวซอยรางน้ำใช่หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า “ไม่มี ไม่มีครับ วันที่ 25 ก.พ.ยังประชุมวุฒิสภาอยู่ ส่วนวันที่ 26 ก.พ.มีประชุม กมธ.และประชุมคณะกรรมการวุฒิสภาพบประชาชน ซึ่งเราก็ต้องทำหน้าที่ของใครของมัน ผิดถูกว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย”

ในการประชุม สว.ช่วงกระทู้ถามสด ซึ่ง นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว.ได้ตั้งกระทู้ถาม พ.ต.อ.ทวี กรณีดีเอสไอดำเนินคดีกล่าวหาว่าการเลือก สว.เป็นการฮั้วและผิดกฎหมายร้ายแรงหลายมาตรา โดยเมื่อเข้าสู่วาระนายมงคลแจ้งต่อที่ประชุมว่า รมว.ยุติธรรมมีหนังสือแจ้งว่าติดภารกิจสำคัญ ไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามด้วยวาจาได้ เช่นเดียวกับกระทู้ถามของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. ที่ตั้งกระทู้ถามเรื่องการบูรณาการหน่วยงานเพื่อป้องกันยาเสพติดชายแดนสู่ในเมือง ดังนั้นหาก สว.ต้องการตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาสามารถเสนอใหม่ในคราวถัดไปได้

อั้งยี่ซ่องโจรมีมา 117 ปีแล้ว

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวถึงการประชุมบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในวันที่ 25 ก.พ.ที่จะพิจารณารับคดีฮั้ว สว. โดยเฉพาะข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ว่าเป็นข้อกล่าวหาของผู้ร้อง และความผิดนี้ก็มีมา 117 ปีแล้ว เพราะการเป็นสมาชิกบุคคลที่ปกปิดการดำเนินการ แม้มิชอบด้วยกฎหมาย มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เขาก็เขียนกฎหมายที่อยู่ในกลุ่มของความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่มีอะไร กรรมการก็ใช้ดุลพินิจโดยไม่มีอคติ และจะให้ความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีโพยฮั้ว สว.จะถูกบรรจุรับเป็นคดีพิเศษโดยการพิจารณาของ กคพ.แน่นอน ส่วนความผิดอื่นใดที่บุคคลอาจกระทำในขณะดำรงตำแหน่ง สว.นั้น ดีเอสไอไม่ได้ดูส่วนนี้ ดูเพียงความผิดอาญาอื่น คือเรื่องอั้งยี่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม  ในฐานะประธาน กคพ. กล่าวว่า ไม่ได้เอาเรื่องการเมืองมากลั่นแกล้งกัน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เป็นไปตามข้อเท็จจริง ก็น่าจะไม่มีปัญหาอื่นมาก เพราะเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่มีเรื่องเข้ามาก็ดำเนินการ ซึ่ง กกต.ได้มีการยื่นเรื่องมาว่าเรื่องแบบนี้ต้องเป็นคดีพิเศษ ซึ่งในทัศนะของดีเอสไอออกเรื่องมาดูแล้วก็มีเหตุมีผล เมื่อเขาเสนอเราก็ต้องบรรจุที่ประชุม

“ยืนยันว่าเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ถ้าไม่ชัดเจนไม่ถึงก็คงรับเป็นคดีพิเศษไม่ได้ แต่ถ้ามันชัดเจนก็ไม่มีสิทธิ์ไปปกป้องอะไร เพราะเป็นไปตามกระบวนการ และไม่ได้จบแค่นี้ยังต้องสืบสวนสอบสวนพยาน และการได้เป็นคดีพิเศษต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการคดีพิเศษ”

ขณะเดียวกัน ที่สภาทนายความ นายณฐพร โตประยูร, ดร.วิเชียร รุจิธำรงกุล, นายสุรชัย ชินชัย ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร สว.และคณะ มายื่นหนังสือเรื่องคดีฮั้วการเลือก สว.ต่อ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ ในฐานะ กคพ.เพื่อขอให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ

ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "การเลือก สว.กระทบความมั่นคงและสถาบันหลัก ความผิดทางอาญาจึงรุนแรง เพราะเหตุ กกต.ไม่ทำหน้าที่ แต่ดีเอสไอมีหลักฐานและเอาผิดทางอาญาผู้เกี่ยวข้องได้ จึงเป็นการดำเนินการโดยชอบแล้ว และหากกลายเป็นหลักฐานแน่นว่า กกต.ละเลย ไม่ทำหน้าที่ กกต.ก็จะเป็นฝ่ายทำผิดกฎหมายและถูกลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด"

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุว่า "ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ กคพ.ที่มีนายภูมิธรรมจะกล้ารับคดีสั่งฟ้อง สว. 138 คนเป็นคดีพิเศษ เพราะถ้า สว. 138 คนทำผิดตามข้อหาอั้งยี่-ซ่องโจรจริงแล้ว จะลุกลามถึงการเพิกเฉยการทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งของ กกต.ด้วยหรือไม่ ประเด็นหลักคือจะไปถึงขั้นโมฆะทั้ง 200 สว.หรือไม่ ถ้าโมฆะ สว.ชุดเก่าอาจกลับมาทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะมี สว.ใหม่หรือไม่"

ชี้ทุบเพื่อต่อรอง

“บอร์ดคดีพิเศษจะรับหรือจะยื้อคดี สว.อั้งยี่-ซ่องโจร เป็นภาพสะท้อนการต่อรองทางการเมืองกันชัดเจน ยิ่งการฟ้อง สว.ตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ยังแสดงถึงเกมการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการทุบบางพรรคให้ยอมในพื้นที่ต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ของพรรคแกนนำ ถ้า สว.ทำผิดจริงตามข้อหาของดีเอสไอแล้ว คนติดคุกต้องเป็น กกต. เพราะมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้าไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมแล้วไปรับรองได้ยังไง ดังนั้นความผิดอยู่ที่คุณ เพราะผลการเลือกตั้งของคุณนำพาไปสู่คดีอั้งยี่-ซ่องโจร”

นายจตุพรระบุว่า "การทุบเพื่อต่อรองทางการเมือง เกิดขึ้นเป็นระยะในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะปัญหาตรวจสอบที่ดินทั้งกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ เขากระโดง ภูนับดาว และล่าสุดสนามกอล์ฟเขาใหญ่-ปากช่อง ที่โยงไปพัวพันญาตินายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กรณีเหล่านี้เข้าข่ายเป็นเกมการเมืองแบบทุบเพื่อต่อรองทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังเกิดความสงสัยในความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ยิ่งในเดือน มี.ค.-เม.ย.ที่จะผลักดันบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์

ส่วนนายอนุทินกล่าวถึงกรณีข่าวต่างๆ ที่ออกมาในช่วงนี้ ที่เหมือนว่าพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยจะมีปัญหากันและตอบโต้กันไปมาในหลายกรณี โดยยืนยันว่า ไม่มี มีแต่ผู้สื่อข่าวไปผสมกันทั้งนั้น และในวันพรุ่งนี้ก็มีรับประทานอาหารร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นการพูดคุยกันเรื่องงาน ต้องรอฟังนายกฯ ว่ามีแนวนโยบายอย่างไร เพราะนายกฯ  บอกว่าถึงเวลาแล้วที่แกนนำรัฐบาลจะต้องมาพบกัน เพราะจะมีเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามถึงรายงานข่าวว่า ช่วงเย็นวันนี้จะมีการพบพูดคุยนอกรอบระหว่างนายอนุทิน, นายเนวิน ชิดชอบ กับนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายอนุทินกล่าวว่าไม่มี ก่อนย้อนถามว่าพบกับใคร เป็นรายงานข่าวที่ไหน พร้อมกับหัวเราะและส่ายหน้าปฏิเสธ

เมื่อถามเรื่องฮั้ว สว. ยืนยันได้หรือไม่ว่า สว.ค่ายน้ำเงินเป็นเอกเทศ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินตอบกลับทันทีว่า ยืนยันไม่ได้เพราะไม่เกี่ยว ทุกฝ่ายที่เคลือบแคลงสงสัย หรือได้รับคำร้องใดๆ มา เขาก็มีขั้นตอนสอบสวนอยู่ว่าใครจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ ก็ตามข่าวนั่นแหละ ขอให้ทำตามกฎหมายและเป็นธรรม และทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

ถามถึงที่ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าไม่โหวตให้ตอนศึกซักฟอกจะจุดๆๆ หมายความว่าอย่างไร นายอนุทินตอบว่า หยิกแขน ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าไม่ใช่การถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทินหัวเราะก่อนทำท่าเชิดหน้าพร้อมร้องฮึ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าไม่ตอบคำถามนี้ใช่ไหม นายอนุทินบอกว่าตอบไปแล้วว่าหยิกแขน

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัล กล่าวถึงกรณีนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าใครไม่โหวตให้ก็อาจตอบโต้ว่า ขอให้คอยว่าฝ่ายค้านจะนำเรื่องอะไรมาอภิปราย รอให้ชัดเจนก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะยื่นเป็นรายคณะหรือรายบุคคล จึงขอความชัดเจนเรื่องนี้ก่อนที่จะตอบ และถ้ายื่นใครต้องดูว่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับประเด็นอะไร มองว่าเร็วเกินไปที่จะพูด ไม่อยากให้เกิดการคิดไปล่วงหน้า เอาให้ชัดๆ แล้วค่อยว่ากัน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงปัญหาระหว่างพรรค พท.และ ภท.จะส่งผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนอาจเกิดการวางยากันหรือไม่ว่า ไม่มีใครวางยาใคร เป็นธรรมดาของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีหลายพรรค อาจจะมีบ้างในบางส่วนที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แม้แต่พรรคเพื่อไทยเองก็ใช่ว่า สส.จะเห็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด สุดท้ายเมื่อมติพรรคเป็นอย่างไรเราก็ทำตามนั้น

ส่วนกระแสข่าวการนัดพบกันระหว่างนายเนวินกับนายทักษิณ จะเป็นการเคลียร์กันก่อนดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 25 ก.พ.นี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์มองว่า ถ้า 2 คนคุยกัน เจรจากันก็เป็นผลบวก เพราะหากไม่คุยกันก็จะมีปัญหา การคุยกันเป็นทางออกหนึ่ง เป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าไม่คุยกัน เขาคุยกันก็ได้ปรับความเข้าใจกัน

2 บิ๊กนัดคุยแค่ข่าวเต้า

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ามีปัญหาจริงๆ นายทักษิณจึงต้องลงมาคุยเองใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า คงไม่ใช่ปัญหา เป็นการหารือกันมากกว่า

นายภูมิธรรมกล่าวถึงประเด็นการนัดหารือของนายเนวินกับนายทักษิณว่า ไม่ทราบเลย ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต พร้อมบอกปัดว่าให้ไปถามทั้ง 3-4 ท่านเอง  

รายงานข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาลแจ้งว่า ในวันนี้มีการนัดพบกันของ น.ส.แพทองธาร, นายทักษิณ, นายอนุทิน  และนายเนวินที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (ซอยรางน้ำ) เวลา 18.00 น.

โดย น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กระแสข่าวนี้ โดยส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า “ไม่ไปค่ะ กลับบ้านค่ะ ไปหาน้องธาษิณ” เมื่อถามว่านายทักษิณไปหรือไม่ นายกฯ ทำสีหน้างง ก่อนนิ่งไปและกล่าวว่า "ไม่น่าจะไปนะคะ"

เมื่อถามว่า แสดงว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ไม่รู้ค่ะว่าข่าวว่าอย่างไรบ้าง ยังไม่มีอะไรอ่านเลยวันนี้ ไม่มีเวลาทั้งวัน ยังไม่ได้อ่านข่าวเลย วันหลังส่งข่าวมาให้บ้าง"

เมื่อถามว่า ในข่าวระบุว่านายทักษิณจะไปคุยกับนายเนวิน แต่นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวช่วงบ่ายที่โรงแรมพูลแมนฯ มีแกนนำพรรคภูมิใจไทยหลายคน อาทิ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรค นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง รวมถึงนายเนวิน เป็นต้น เดินทางมาที่โรงแรมพูลแมน แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นการเดินทางมารับประทานอาหารกับ น.ส.แพทองธาร นายทักษิณตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด เนื่องจาก สส.ภูมิใจไทยและนายเนวินเดินทางมาที่โรงแรมพูลแมน เพื่อมานัดรับประทานอาหารร่วมกันตามปกติในทุกวันจันทร์อยู่แล้ว

ขณะที่นายอนุทินก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารตามกระแสข่าวเช่นกัน เนื่องจากติดภารกิจร่วมรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานดินบรรจุศพพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (วีระ เย็นเต็ก มหาเถระ) ที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ในช่วงเวลา 15.30 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือก‘ณรงค์-อภิชาติ’นั่งกต.คนนอก

ผู้พิพากษาทั่วประเทศเทคะเเนนเลือก “อ.ณรงค์-หมออภิชาติ” นั่ง ก.ต.คนนอก คุ้มครองอิสระการทำหน้าที่ตุลาการ “สมชาย เล่งหลัก” ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาเก้าอี้ สว. ปมถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี  

ลดเบนซิน-ดีเซล1บาท/ลิตร

"กบน." ใจป้ำปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์