160 เสียง สว.สีน้ำเงินรอสัญญาณนัดรวมตัวซอยรางน้ำ แกนนำสั่งให้อยู่ในที่ตั้ง รอ 25 ก.พ. สะพัด! เริ่มรวนไม่พอใจจัดสรรตำแหน่งในกลุ่ม จับตาวงแตกหากดีเอสไอสอบฮั้วเลือกสภาสูง “นันทนา” เชียร์สุดลิ่ม DSI คุ้ย “อดีตวุฒิสภา” ชี้ไปๆ มาๆ “กกต.” เสี่ยงติดคุก
เมื่อวันอาทิตย์ ยังคงมีความต่อเนื่องกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นัดพิจารณารับคดีฮั้วเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในวันอังคารที่ 25 ก.พ.นี้ โดยมีรายงานจาก สว.ว่า นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิป สว.) ได้นัดหารือวิปเป็นกรณีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ห้องประชุม 406-407 ตึกวุฒิสภา เวลา 08.00 น. ก่อนเข้าประชุม สว. จากที่นัดประชุมในวันที่ 26 ก.พ.
ส่วนความเคลื่อนไหวของ สว. โดยเฉพาะ สว.สีน้ำเงิน ที่เป็น สว.กลุ่มหลักนั้น ได้รับสัญญาณมาจากแกนนำกลุ่มว่า ขอให้อยู่ในความสงบ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อได้เท่าที่จำเป็น โดยทุกอย่างให้รอฟังมติที่ประชุมบอร์ดดีเอสไอในวันที่ 25 ก.พ.ก่อน หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ จะมีการนัดหารือ สว.สีน้ำเงินว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งเรื่องการเตรียมเข้าชื่อขออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หรือการเข้าชื่อถอดถอน รมว.ยุติธรรมต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ
“ขณะนี้ สว.สีน้ำเงินยังไม่ได้รับสัญญาณว่าจะนัด สว.สีน้ำเงินไปคุยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ย่านซอยรางน้ำในช่วงวันอังคารหรือพุธนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สัญญาณนัดหมาย โดยหากไม่เจอกันที่ซอยรางน้ำ ก็คงคุยระดับแกนนำและฝ่ายกฎหมายของ สว.สีน้ำเงินที่รัฐสภา เพราะวันอังคารมีการประชุมวุฒิสภาพอดี ซึ่งกว่า สว.จะเลิกประชุมก็คงทราบผลการลงมติของบอร์ดดีเอสไอพอดี โดยหากบอร์ดดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ก็คงมีการคุยกันเรื่องการเข้าชื่ออภิปราย รมว.ยุติธรรมแบบไม่ลงมติกับการยื่นถอดถอนว่าทำได้มากน้อยขนาดไหน กับให้รอดูการยื่นญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในวันที่ 27 ก.พ.นี้ว่าจะมีชื่อของ รมว.ยุติธรรมหรือไม่” แหล่งข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเซฟเฮาส์ของ สว.สีน้ำเงินที่โรงแรมดังย่านซอยรางน้ำ ที่ผ่านมาเป็นแหล่งพบปะ สว.สีน้ำเงินกับผู้มากบารมีทางการเมืองหลายครั้ง เช่น ช่วงเลือกประธานวุฒิสภา, รองประธาน และการทำโผเก้าอี้ประธาน กมธ.วุฒิสภา 21 คณะ แต่ระยะหลังการนัดพบกันของ สว.สีน้ำเงินแบบวงใหญ่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะช่วงหลังจะนัดเฉพาะคีย์แมนหลักของ สว.แต่ละกลุ่มใน 20 กลุ่มสาขาอาชีพ โดยใน 20 กลุ่มดังกล่าวจะมีระดับเฮดๆ ประมาณ 1-2 คน ที่จะนัดไปเจอกันที่ซอยรางน้ำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อหารือเรื่องต่างๆ จากนั้นพอคุยเสร็จ หัวหน้ากลุ่ม สว.สีน้ำเงินใน 20 กลุ่มจะไปถ่ายทอดให้ สว.สีน้ำเงินฟังอีกทอดหนึ่ง
“การนัดเจอกันของ สว.สีน้ำเงินครั้งล่าสุดที่เป็นการนัดเจอแบบวงใหญ่มี สว.ไปร่วมงานด้วยเฉียดร้อยที่เซฟเฮาส์ซอยรางน้ำ เกิดขึ้นเมื่อ 27 ม.ค. ช่วงตรุษจีน ที่ตรงกับวันที่ 29 ม.ค. โดยมี สว.สีน้ำเงินแท้และ สว.สีน้ำเงินอ่อนไปร่วมกินข้าว พูดคุย พร้อมกับมีการเช็กชื่อเช็กขุมกำลัง สว.สีน้ำเงินไปในตัว และมีการขอความร่วมมือให้ สว.ทุกคนฝากโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพอัดเสียงไว้หน้าห้องกินข้าวด้วย โดยช่วงหลัง สว.สีน้ำเงิน จากที่มีอยู่ประมาณ 130 คนที่เป็นสีน้ำเงินแท้ และสีน้ำเงินอ่อนอีกประมาณ 20-30 คน
สีน้ำเงินส่อวงแตก
มีรายงานว่า ขณะนี้ สว.สีน้ำเงินบางส่วนเริ่มไม่พอใจการบริหารจัดการภายใน สว.สีน้ำเงิน ที่ปรากฏว่ามี สว.สีน้ำเงินบางส่วนไม่ได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ เช่น การเลือก สว.ไปเป็นกรรมการสโมสรรัฐสภา ในสัดส่วน สว. 5 คนที่ดูแลเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ในสโมสรรัฐสภา เช่น การให้พื้นที่ขายอาหาร โดยก่อนการเลือกได้แจ้งให้ สว.สีน้ำเงินไปลงชื่อสมัคร 21 คน แต่สุดท้ายชื่อที่ออกมา 5 คน สว.สีน้ำเงินที่ไปลงชื่อสมัครกลับไม่ได้รับเลือก ทำให้ สว.สีน้ำเงินหลายคนไม่พอใจ เพราะบางคนที่ได้รับเลือกเป็นถูกมองว่าเป็นคนใกล้ชิดบ้านใหญ่บุรีรัมย์
“เริ่มมีการพูดคุยกันในกลุ่ม สว.สีน้ำเงินแล้วว่า หลังจากนี้อาจมี สว.สีน้ำเงินบางส่วนคิดแยกตัวออกไป โดยเฉพาะหากดีเอสไอจะเข้ามาสอบสวนเรื่องการเลือก สว.ปี 2567 ก็อาจทำให้ สว.สีน้ำเงินบางคนอาจแยกตัวออกไปก่อนเพื่อกันตัวเองออกมา ซึ่งตอนนี้ใน สว.มีกลุ่มหลักๆ ประมาณ 3-4 กลุ่ม คือ สว.สีน้ำเงินประมาณ 130 เสียง ที่เป็น สว.น้ำเงินแท้ และอีกประมาณ 30 เสียงที่เป็นน้ำเงินอ่อน ทำให้รวมๆ แล้ว สว.สีน้ำเงินก็จะมีประมาณ 160 คน กลุ่มที่สองคือ สว.อิสระ ประมาณ 30 เสียง ที่จะมีการนัดรวมตัวกันประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง และสาม สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่และกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มยังเติร์ก กลุ่ม นพ.เปรมศักดิ์ อีกประมาณ 10 เสียง เป็นต้น” แหล่งข่าวระบุ
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.พันธุ์ใหม่ กล่าวเรื่องคดีฮั้วเลือก สว.ว่า เดิมเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการสืบสวนสอบสวนการทุจริตเลือกตั้งต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 เดือนแล้ว กกต.ยังเงียบอยู่ ทำให้มีประชาชนเริ่มกังขาการทำหน้าที่ของ กกต. และการที่ดีเอสไอแสดงท่าทีว่าจะเข้ามารับทำคดีนี้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว.ชุดนี้ ซึ่งกระบวนการที่ดีเอสไอจะสืบสวนนั้น เข้าใจว่าเป็นคดีอาญาเกี่ยวกับการอั้งยี่ ที่แยกออกจากเรื่องคดีเลือกตั้ง ซึ่งหากดีเอสไอเข้ามาดำเนินการและสามารถทำให้คลายข้อสงสัยของประชาชนจำนวนมากได้ก็เห็นด้วย
“หากกระบวนการไปถึงขั้นตอนที่พบว่ามีความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล และต้องล้มกระดาน ก่อนที่จะล้มกระดานควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว. เพื่อเปลี่ยนกติกาก่อน เพราะหากล้มกระดานจริง แต่ยังใช้กติกาเดิม มันก็เหมือนเดิม ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วหลังจากนั้นจะเคลียร์อะไรต่อมิอะไร ก็ต้องให้มีกติกาใหม่มารองรับ กติกาที่ประชาชนเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมและเลือก สว.ด้วยตัวเองเหมือนที่เลือก สส.แบบนี้จะดีที่สุด” น.ส.นันทนากล่าว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกรณี สว.บางส่วนจะลงชื่อเพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.ยุติธรรมหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง น.ส.นันทนากล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบของดีเอสไอเป็นกระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบเรื่องการได้มาซึ่ง สว. หากเชื่อว่าตัวเองมาอย่างยุติธรรม ก็ควรให้กระบวนการยุติธรรมเข้ามาตรวจสอบ ไม่ควรใช้วิธีการฟ้องปิดปาก ตรงนี้หากมีการฟ้องปิดปากโดยให้หน่วยที่จะต้องมีการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ หยุดการกระทำ ก็จะทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการรับรู้การตรวจสอบ
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ น.ส.นันทนากล่าวว่า เข้าใจว่าตรงนี้อาจจะมีเหตุจูงใจในการที่จะดำเนินการ ซึ่งประชาชนอาจจะมองเห็นอยู่ แต่หากมีเหตุจูงใจในการที่จะดำเนินการในส่วนนี้แล้วเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ และประชาชนเห็นด้วย แต่เท่าที่ดูโดยภาพรวม ประชาชนก็สนับสนุนให้เข้ามาตรวจสอบกระบวนการนี้ หากเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ก็ต้องทำและถือว่าเป็นหน้าที่ แม้จะเป็นด้วยเหตุจูงใจอะไรก็ตาม
มีคุกเป็นของแถม
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ในส่วนของดีเอสไอกำลังดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว. เป็นไปตามกระบวนการ สามารถดำเนินการได้ ส่วนที่ฝ่ายนิติบัญญัติและบริหารปะทะกันแบบนี้นั้น แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ในส่วนต่างๆ ของฝั่งรัฐบาลเอง ถึงแม้ สว. โดยหลักการอาจไม่ได้มีความยึดโยงกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ในสังคมเอง เราก็มีข้อคิดเห็นว่ามีความยึดโยงกับการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราจะเห็นแต่ว่า สว.มีการโต้ตอบ ขู่กลับว่าจะมีการร่วมลงชื่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญในการดำเนินการถอดถอน รมว.ยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการตอบโต้กันทางการเมือง เป็นสิ่งที่คิดว่าประชาชนไม่อยากเห็น เราอยากจะเห็นการเมืองที่ตรงไปตรงมา
นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. โพสต์เอกสารที่อ้างว่าเป็นโพยเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว. พร้อมระบุว่า ข้อมูลเอกสารพยานหลักฐานพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ยื่นส่งตรงหรือยื่นผ่านสภาผ่านสื่อมวลชน หรือปรากฏตามสื่อโซเชียลมากมาย สามารถใช้ติดตามเส้นทางเงิน คนของขบวนการจัดฮั้วโกงเลือก สว.ได้สบายๆ แต่ดีเอสไอจะเอาจริงจังแค่ไหน สอบสวนเอาผิดถึงตัวบงการ คนทำงาน มือประสาน คนจ่ายเงิน ผู้ว่าจ้าง คนรับจ้างโหวต เจ้าของมุ้งกลุ่มด้วยหรือไม่
“งานนี้ชาวบ้านเห็นขบวนการกันทั้งประเทศ แต่บางหน่วยที่มีหน้าที่ แสร้งตาบอดมองไม่เห็นตั้งแต่วันสมัคร ยันวันประกาศรับรอง ถ้านักมวยมุมแดงกับมุมน้ำเงิน ไม่สมยอมฮั้วกันแบบมวยล้มต้มคนดู งานนี้สนุกครับ มีคุกเป็นของแถมแน่นอน” นายสมชายโพสต์
นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการทุจริตการเลือก สว.เช่นกัน โดยตั้งคำถามว่า การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่เฉพาะของ กกต.หรือไม่ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดหลายบท ทั้งตามกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. และกฎหมายอาญาในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ฟอกเงิน หรือความผิดอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง กกต.จะมีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตเลือก สว. แต่ในส่วนของความผิดอาญาที่เกี่ยวข้อง เช่น อั้งยี่ซ่องโจรและฟอกเงิน ถือเป็นอำนาจของดีเอสไอ
“การบล็อกโหวตเลือก สว.นั้นมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งการลงคะแนนเป็นชุดและพฤติกรรมที่ส่อทุจริต ซึ่งเคยแสดงความคิดเห็นตั้งแต่ต้น แต่ปัญหาสำคัญคือ กกต.กลับไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบและวินิจฉัยข้อร้องเรียน ทั้งที่เป็นหน้าที่โดยตรง ยิ่งปล่อยเวลาผ่านไปนานเท่าใด ความผิดของ กกต.ก็ยิ่งชัดเจนและจะกลายเป็นหลักฐานที่มัดตัว กกต.เอง การที่ กกต. หากมีหน้าที่แล้วไม่ทำ ไปๆ มาๆ ดูแล้ว กกต.จะเป็นคนที่ติดคุกเสียเอง” นายเสรีกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับเบอร์พรรคมีโห่ไล่ ‘อนุทิน’37เด็ดตรงหนู
จับเบอร์ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทยโชคดีได้เลข 9 เบอร์เก่า
ว่าที่นายกฯ73คน! 34พรรคส่งแคนดิเดต/ดีเด่นดังแห่สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์
"กกต." รับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อราบรื่น ส่ง 52 พรรค เสนอแคนดิเดตนายกฯ 34
ผู้อพยพกลับบ้านวัดใจเขมร
กองทัพภาคที่ 2 แจ้งประชาชนตามแนวชายแดนไทย-เขมร
‘พรรคส้ม’ไร้เพื่อน คุยลั่นมาตรฐานสูง
เห็นโฉมหน้ารัฐบาลต่อไปรำไร "อนุทิน" ย้ำห้ามแตะนิรโทษกรรม ม.112
หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!
ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
ตามล่าอาชญากร ‘ฮุนเซน-ฮุนมาเนต’
ไม่ปล่อยให้ลอยนวล เดินหน้าเอาผิด 2 พ่อลูกตระกูลฮุน อธิบดีอัยการฯ ลงพื้นที่ประชุม ผบช.ภ.3 สอบเสธ.ทหารเป็นพยานมัด "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต"

