โจรกระจอกหลบไป! "ภูมิธรรม" เตรียมเดินตาม "ทักษิณ" ที่ปรึกษาประธานอาเซียนลงใต้ เผยตัวเองไม่ได้ไปในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่ไปในฐานะที่เป็นผู้ที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา ปฏิเสธลั่นเปล่าปูทางนายใหญ่เดินเกมสร้างสันติภาพเมียนมา "จักรภพ" ซูฮก อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอาเซียนในเวทีโลกต่อไป
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรมชาเทรียมแกรนด์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดระเบียบชายแดนชนกลุ่มน้อย ปูทางให้นายทักษิณ ชินวัตร ดึงอาเซียนสร้างสันติภาพในเมียนมาว่า เราคุยกับเมียนมาและอาเซียนมาแต่ต้น ส่วนคุณทักษิณจะไปประสานงานกับประธานอาเซียนอย่างไร เราก็จะรับไปพิจารณา แต่ในส่วนของเราทำอยู่แล้ว
ส่วนการทำหน้าที่ของนายทักษิณ มีความเสี่ยงและจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น รองนายกฯ บอกว่า การบริหารประเทศก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะรอบคอบแค่ไหน และรับฟังความคิดเห็นทุกส่วนได้ครอบคลุมทั้งหมดหรือไม่ ผลสรุปอยู่ที่ข้อมูล ถ้าข้อมูลถูกต้อง ก็นำไปสู่การตัดสินใจที่ดี
นายภูมิธรรมเปิดเผยถึงกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับนายทักษิณในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ว่า นายทักษิณจะลงพื้นที่ในฐานะเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน โดยจะนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้พูดคุยมาประกอบกับการลงพื้นที่ และตนในฐานะที่กำกับดูแลกองทัพภาคที่ 4 ตำรวจภูธรภาค 9 และ ศอ.บต. ก็จะไปร่วมรับฟังปัญหาด้วย ซึ่งหากมีประเด็นปัญหาก็จะได้นำมาดำเนินการ และส่วนตัวก็ไม่ได้มีอะไรที่ห่างไกลกับนายทักษิณ สามารถพูดคุยกันได้ แต่ส่วนที่มีการนำเสนอว่าจะไปทำบุญที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณ
ส่วนจะนำข้อมูลการลงพื้นที่ครั้งนี้ไปประกอบในยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ยุทธศาสตร์ชายแดนภาคใต้ได้ดำเนินการมาถึงในระดับหนึ่งแล้ว รวมถึงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ที่ได้ลงพื้นที่พูดคุยในประเด็นเหล่านี้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องใดบ้าง ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกับกองทัพภาค 4 ส่วนหน้า มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายระดับ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดี และหลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาในระดับกองพันขึ้นไป รวมไปถึงในระดับกองทัพภาค เพื่อนำแผนที่มีการปรับและทบทวนนำไปใช้ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และได้แจ้งไปว่าจะกลับมาที่พื้นที่อีกครั้งเพื่อพูดคุยกัน แต่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบไม่ให้มีพิธีกรรมมาก จะเป็นในลักษณะการสนทนาวงเล็ก เพื่อนำเรื่องต่างๆ มาพูดคุยกัน ซึ่งตนได้ย้ำไปว่าไม่ได้ไปในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่อยากไปในฐานะที่เป็นผู้ที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา
เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ที่เคยผ่านเหตุการณ์ทางการเมือง มองอย่างไรหากมีการใช้นโยบาย 66/23 ในอดีต นายภูมิธรรมระบุว่า เป็นการย้อนหลังไปถึง 50 ปี แต่ก็มองว่าหากเรื่องใดที่เคยใช้ได้ ก็ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ของชีวิต แต่ก็ต้องดูว่าสอดคล้องกับสภาพปัจจุบันหรือไม่ ส่วนใดที่เคยประสบความสำเร็จมากก็นำมาปรับใช้ แต่คงไม่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธิป พรหมชื่น กำนันตำบลสุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า "เรียนเชิญพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ร่วมต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในโอกาสเดินทางเข้ากราบสักการะพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา และพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี และพื้นที่ใกล้เคียง จ.นราธิวาส วันที่ 23 ก.พ. เวลา 09.30 น. ที่วัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส"
ด้านนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำยุทธศาสตร์แก้ปัญหาภาคใต้ฉบับใหม่ หลังมีการส่งกลับมาให้ สมช.ทบทวนว่า ในยุทธศาสตร์ใหม่มีหลายประเด็น โดยเฉพาะการนำผู้เห็นต่างกลับเข้าสู่สังคม คล้ายกับนโยบาย 66/23 ยืนยันไม่ใช่การนิรโทษกรรม แต่จะใช้การเมืองนำการทหาร
พร้อมย้ำว่า เป็นเพียงกรอบแนวความคิดเท่านั้น เพราะยุทธศาสตร์ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการแก้ไข เราตั้งใจจะทำให้เป็นระบบมากขึ้น แทนที่จะทำเฉพาะจุดหรือเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องมีการตรวจสอบกลุ่มเห็นต่าง แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ชัดเจน
นายฉัตรชัยยังระบุถึงการแก้ไขปัญหาบุคคลสองสัญชาติว่า มีระบบอยู่ ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับทะเบียนราษฎร ที่ผ่านมามีรายชื่อที่ตรวจสอบแล้วไม่ตรงกัน ส่วนการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันนั้นก็ยังคงดำเนินการอยู่ และได้รับความร่วมมือกับมาเลเซียเป็นอย่างดี เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและประสานงาน
ขณะที่ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนนายทักษิณเดินทางถึงประเทศบรูไนฯ ก็ได้ประกาศไว้ชัดเจนว่า ปัญหาความขัดแย้งในเมียนมาเป็นเสมือน “ช้างใหญ่ในห้อง” ของอาเซียน ซึ่งหมายถึงว่า กรณีเมียนมาคืออุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการขับเคลื่อนประเด็นอื่นๆ ในภูมิภาค เปรียบได้กับแนวคิดของท่านพุทธทาสภิกขุ ที่กล่าวถึง “ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม” ซึ่งขวางกั้นการเข้าถึงสัจธรรม หากปัญหานี้ไม่ถูกแก้ไข การดำเนินนโยบายอื่นๆ ของอาเซียนก็ย่อมติดขัด
นายจักรภพกล่าวต่อว่า คำประกาศของอดีตนายกฯ ทักษิณครั้งนี้ เป็นกรณีศึกษาสำคัญในมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมี 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.คำประกาศในครั้งนี้ของ ดร.ทักษิณ สะท้อนว่าแนวทางของไทยและอาเซียนมีเป้าหมายร่วมกัน และเดินไปในทิศทางเดียวกัน การได้เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน ทำให้ไทยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายของกลุ่ม และเสริมสร้างอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศ
2.บทบาทของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ได้แต่งตั้ง ดร.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของนายอันวาร์ ที่ให้ความไว้วางใจและอิสระในการดำเนินงานกับอดีตผู้นำไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ของสองผู้นำที่มากประสบการณ์
3.คำประกาศดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณไปยังประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐ จีน รัสเซีย สหภาพยุโรป และอินเดีย ว่าปัญหาเมียนมาคือวาระเร่งด่วนของอาเซียน ใครต้องการกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคนี้ ทั้งในมิติการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้เป็นอันดับแรก
4.แสดงให้เห็นถึงบทบาทของบรูไนฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ของอาเซียน เคยตกอยู่ในภาวะที่ชื่อของประเทศต้องถูกพูดถึงอย่างระมัดระวังจากสถานการณ์ในไทย แต่ปัจจุบัน บรูไนฯ ได้กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ ดร.ทักษิณ ถือเป็นผู้นำที่มีแนวทางสันติวิธี ไม่สร้างข้อพิพาท และมุ่งเน้นการลดความขัดแย้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออาเซียนโดยรวม
“การที่ ดร.ทักษิณชูประเด็นปัญหาเมียนมาอย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าอาเซียนกำลังก้าวเข้าสู่การบริหารปัญหาความขัดแย้งในระดับภูมิภาคอย่างจริงจัง ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอาเซียนในเวทีโลกต่อไป” นายจักรภพกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!
ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล
กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี
ตามล่าอาชญากร ‘ฮุนเซน-ฮุนมาเนต’
ไม่ปล่อยให้ลอยนวล เดินหน้าเอาผิด 2 พ่อลูกตระกูลฮุน อธิบดีอัยการฯ ลงพื้นที่ประชุม ผบช.ภ.3 สอบเสธ.ทหารเป็นพยานมัด "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต"
สั่ง‘ตร.’ห้ามลา ดูแลประชาชน เทศกาล‘ปีใหม่’
“บิ๊กต่าย” กำชับ 3 มาตรการ พร้อมดูแลประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
พท.ซัด‘กกต.’เฉื่อย ประชามติรื้อ‘รธน.’
กกต.เผยแพร่ระเบียบให้ออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรแล้ว
ยํ้า8ก.พ.จัดเลือกตั้ง รวม‘7จว.ชายแดน’
เลขาฯ กกต.ยืนยันเลือกตั้ง 8 ก.พ. วันเดียวทั่วประเทศ แม้ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด วางแผนแบ่งโซนสีจัดเลือกตั้ง

