เร่งเดินหน้าเปิด "กาสิโน" กฤษฎีการับลูกติดสปีดทำคลอดร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ แต่ “มีชัย-วิษณุ” วางสนุ้กให้ทำยากขึ้น เพิ่มรับฟังความคิดเห็น ปชช.-ชุมชนในพื้นที่ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เขียนล็อกห้ามใช้พื้นที่เปิดบ่อนเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาทต่อเนื่อง 6 เดือนถึงจะเข้าเล่นได้ ขณะที่คปท.-กองทัพธรรมบุกกฤษฎีกา ลั่นต่อให้มีกาสิโนกี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่เห็นด้วย เหมือนปรุงอาหารเป็นพิษบังคับให้ ปชช.กิน เลวร้ายกว่านิรโทษกรรมสุดซอย พร้อมประสานกลุ่มต่างๆ ลงถนนหากรัฐบาลยังเดินหน้า
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ หรือร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลเพื่อไทย ที่กำลังเร่งเดินหน้าการออกกฎหมายดังกล่าว
โดยพบว่าหลังกระทรวงการคลังนำร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ เข้าที่ประชุม ครม.เห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2568 ต่อมา ครม.ได้ส่งร่างให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 50 วัน หลังจากได้รับร่างฯ ดังกล่าวจากกระทรวงการคลัง คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นกฎหมายใหญ่ และมีผลกระทบทางการเมืองและสังคมสูง จึงตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษโดยมีนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งนายวิษณุนั้นถือเป็นเบอร์สองของคณะกรรมการกฤษฎีกา รองจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษพิจารณาเสร็จ ก็ส่งร่างฯ ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่หนึ่ง ที่มีนายมีชัยเป็นประธานเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
โดยรัฐบาลส่งตัวแทนที่เป็นฝ่ายการเมืองไปร่วมประชุมกับกฤษฎีกาทุกนัดคือ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และนายฉัตริน จันทร์หอม รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เพื่อคอยติดตามการพิจารณาและคอยรายงานข้อมูลให้กระทรวงการคลังทราบทุกสัปดาห์
ซึ่งปรากฏว่าเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้วเสร็จ จากนั้นก็ได้นำไปเปิดรับฟังความเห็นประชาชนครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-1 มี.ค. 68 และขั้นตอนต่อไป หลังเสร็จสิ้นการรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 1 มีนาคม คณะกรรมการกฤษฎีกาจะนำความคิดเห็นทั้งหมดสรุปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ที่คาดว่ากระทรวงการคลังจะส่งร่างฯ ฉบับล่าสุดให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในเดือนมีนาคมนี้
โดยมีประเด็นสำคัญคือ กฎหมายบัญญัติ 79 มาตรา โดยในมาตรา 18 (6) ที่เป็นเรื่องอำนาจหน้าที่คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร บัญญัติไว้ว่า “กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ ต้องไม่เกินร้อยละสิบของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ในกรณีที่กาสิโนตั้งอยู่ในอาคารใดให้นับจากพื้นที่อาคารนั้นทั้งหมด” ซึ่งร่างเดิมของกระทรวงการคลังไม่ได้กำหนดพื้นที่ในการทำกาสิโนไว้ชัดเจน
นอกจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.กำหนดให้ควบคุมการขยายพื้นที่การให้บริการกาสิโนในพื้นที่ที่จะลงทุนเพิ่มเติมในกิจการอีก 4 ประเภทที่ลงทุนห้าม และให้มีการทำธุรกิจกาสิโนในพื้นที่ใหม่ที่จะลงทุนด้วย ที่น่าสนใจคือ ร่างดังกล่าวเปิดกว้างถึงกรณีที่การลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร อาจไม่มีกาสิโนเลยก็ได้ โดยมาตรา 6 วรรคแรกบัญญัติว่า “การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัตินี้”
ต้องฟัง ปชช.ในพื้นที่
ที่น่าสนใจคือ ในมาตรา 7 ระบุไว้ว่า การจะให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรฯ ต้องเปิดรับฟังความเห็น โดยต้องรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสีย ผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินข้างเคียง และหน่วยงานของรัฐที่ใช้ประโยชน์หรือดูแลที่ดินข้างเคียงหรือทางเข้าออกของที่ดินที่อาจได้รับผลกระทบจากการอนุญาตให้มีการตั้งสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและนำผลการรับฟังความคิดเห็นเสนอคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรนำไปประกอบการพิจารณา ส่วนการดำเนินการเพื่อจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรภายในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชนหรือชุมชนตามที่มีกฎหมายกำหนด รวมทั้งให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเป็นการเฉพาะเพื่อพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการให้เสร็จภายใน 120 วันนับแต่วันที่ได้รับรายงานถูกต้องและมีข้อมูลครบ ขณะที่การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
ส่วนประเด็น "ซูเปอร์บอร์ด" หรือคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ที่เป็นคณะกรรมการที่มีอำนาจมากที่สุด และที่ผ่านมาถูกวิจารณ์อย่างมากว่าร่างของกระทรวงการคลังมีการให้อำนาจแก่คณะกรรมการมากเกินไป จนถูกเรียกว่า "ตีเช็คเปล่า" ให้กรรมการที่ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองและคนจากฝ่ายการเมืองตั้งไปเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่ายังคงให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน พร้อมคณะกรรมการอีก 15 คน มีอำนาจหน้าที่เช่น กำหนดนโยบายการบริหารจัดการ การออกใบอนุญาต การกำหนดพื้นที่ สัดส่วนการจัดตั้งกาสิโน หลักเกณฑ์การขออนุญาต และการควบคุมด้านความปลอดภัย รวมถึงการออกระเบียบและคำสั่งรวมทั้งกำหนดให้มี “คณะกรรมการบริหาร” โดยมีบุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน ร่วมด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานรวม 15 คน เพื่อกำหนดอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนงบประมาณ การจัดเก็บค่าธรรมเนียม และการพิจารณาข้อร้องเรียน
โดยผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรได้ ต้องตั้งในพื้นที่กำหนดและประกอบธุรกิจอย่างน้อย 4 ประเภทรวมถึงกาสิโน โดยต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปี และประเมินผลการดำเนินงานทุก 5 ปี ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามแผนอาจเพิกถอนใบอนุญาต การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนด ห้ามมีพนันออนไลน์หรือโฆษณาเกี่ยวกับกาสิโน และกำหนดข้อห้ามสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หรือผู้ไม่ได้ลงทะเบียนตามที่กำหนด โดยผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนต้องชำระค่าปรับและอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ม็อบขู่ลงถนนต่อต้าน
ที่น่าสนใจคือ คณะกรรมการกฤษฎีกาเขียนเรื่องบุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเข้าไปในกาสิโนว่า ต้องมีอายุเกิน 20 ปี ต้องลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด และที่สำคัญต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งร่างเดิมของกระทรวงการคลังไม่มีเรื่องเงินในบัญชี 50 ล้านเขียนล็อกไว้
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายพิชิต ไชยมงคล, นายนัสเซอร์ ยีหมะ ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), ดร.ใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม, นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กว่า 100 คน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอคัดค้าน กาสิโน โดยมี น.ส.รัชนี สังข์ทองงาม ผู้ช่วยเลขาธิการกฤษฎีกาเป็นผู้รับหนังสือ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวสรุปได้ว่า กาสิโนหรือการพนันทั้งหลายมีแต่จะทำให้คุณภาพสังคม คุณภาพประชากรของประเทศไทยตกต่ำลงเรื่อยๆ จึงขอแสดงการคัดค้านอย่างถึงที่สุดในการบรรจุกาสิโนเข้าไปอยู่ใน พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ถึงแม้จะเป็นเพียง 10% หรือกี่ % เราก็ไม่เห็นด้วยกับการเปิด กาสิโนถูกกฎหมาย จะเป็นเหมือนการปรุงอาหารพิษแล้วบังคับให้ประชาชนยอมทานอาหารนั้น ทั้งที่รู้ว่ามีพิษ แต่ถูกบังคับว่ามีพิษเล็กน้อย ทั้งที่อาหารที่ประชาชนไทยทานต้องไร้สารพิษ 100% และขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ส่งต่อความห่วงใยของพี่น้องประชาชนที่มีต่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฉบับนี้ ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ได้ทราบถึงความห่วงใยต่อคุณภาพสังคมไทยในอนาคตด้วย
นายพิชิตกล่าวยืนยันว่า หากวันใดที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ถูกนำเสนอ ครม. เราก็จะไปแสดงจุดยืนที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าเราไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาสู่สังคมไทย และต้องมีการเคลื่อนไหวไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ให้แสดงจุดยืนว่าไม่เอาพนันออนไลน์ ไม่เอาบ่อนกาสิโนในเมืองไทยใดๆ ทั้งสิ้น และเราได้เตรียมพร้อมและคุยกับสมาชิกต่างๆ รวมทั้งนิสิต นักศึกษา และผู้นำศาสนา ก็มีความพร้อมลงถนน หากรัฐบาลยังคงเดินหน้า เพราะถือว่ารัฐบาลก็สู้เรื่องดังกล่าวอย่างสุดซอย เหมือนกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย แต่การพนันนั้นจะเลวร้ายกว่า เนื่องจากการพนันจะอยู่ในสังคมไทยตลอดไป เราก็พร้อมชุมนุม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับเบอร์พรรคมีโห่ไล่ ‘อนุทิน’37เด็ดตรงหนู
จับเบอร์ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทยโชคดีได้เลข 9 เบอร์เก่า
ว่าที่นายกฯ73คน! 34พรรคส่งแคนดิเดต/ดีเด่นดังแห่สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์
"กกต." รับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อราบรื่น ส่ง 52 พรรค เสนอแคนดิเดตนายกฯ 34
ผู้อพยพกลับบ้านวัดใจเขมร
กองทัพภาคที่ 2 แจ้งประชาชนตามแนวชายแดนไทย-เขมร
‘พรรคส้ม’ไร้เพื่อน คุยลั่นมาตรฐานสูง
เห็นโฉมหน้ารัฐบาลต่อไปรำไร "อนุทิน" ย้ำห้ามแตะนิรโทษกรรม ม.112
หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!
ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล
กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี

