ดักคอ‘ชิตตู’กุมความลับไทยเทา

เงื้อค้างหมายจับ “ชิตตู” เลื่อนพิจารณาไป 17 ก.พ. “โรม” ดักคอเป็นผู้กุมความลับโยงไทยเทา ตั้งข้อสังเกตรอให้ถ่ายเททรัพย์สินออกไปหมดหรือไม่ “จเรตำรวจ” เผยฐานคอลเซ็นเตอร์ลวงคนไทยอยู่ฝั่งกัมพูชา-ฝั่งเมียนมา   ส่วนใหญ่สมัครใจแต่ไม่ได้งานตรงปก “ผบ.ตร.”  ออกคำสั่ง ทำโผ “รอง ผบก.-สว.” ใครเกียร์ว่างไม่ร่วมมือกวาดล้างธุรกิจเทาไม่เอาไว้

เมื่อวันพฤหัสบดี ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย  ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ถึงการออกหมายจับพันเอกหม่อง ชิตตู เลขาธิการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ว่า เป็นความท้าทายและต้องวัดฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยที่สุดการออกหมายจับจะทำให้ทุนสีเทาฝั่งไทยไม่สามารถสมคบคิดกับแก๊งอาชญากรข้ามชาติได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป เพราะเสี่ยงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ หากไปพูดคุยกับคนเหล่านี้แบบฉันมิตรเหมือนที่ผ่านมา ก็อาจจะผิดกฎหมายไปด้วย การออกหมายจับเป็นการแยกสิ่งชั่วร้ายออกไป แต่เป็นเรื่องน่าเสียดาย ไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดอย่างไร อัยการจึงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้จนไม่สามารถทำให้ออกหมายจับได้สำเร็จ

เนื่องจากหลายประเทศมองหม่อง ชิตตู เป็นผู้ก่อการร้าย มีการคว่ำบาตรคนอย่างหม่อง ชิตตู  และติ่ง วิน แต่เป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศไทยไม่รับรู้เรื่องอย่างนี้เลย เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมเอาจริงเอาจัง ถ้าเราไม่อยากให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาอีกแล้ว เราจำเป็นต้องปราบปรามโครงสร้างอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

นายรังสิมันต์ยังมองว่า พันเอกหม่อง ชิตตู  คือผู้กุมความลับหลายอย่าง เขาเคยบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไรคนอื่นก็ไม่รอดด้วย ถ้าไม่ดำเนินการอย่างจริงจังกับหม่อง ชิตตู หมายความว่าอะไร  หรือถ้าเราเจอตอหรือทุนสีเทาของประเทศไทยมีอิทธิพลใหญ่กว่ากฎหมาย หม่อง ชิตตู ก็รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เขารอดได้ ถ้ารัฐบาลนี้อยากทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย และเอาจริงกับการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ มีทางเลือกเดียวคือต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด  นอกจากนี้ ยังต้องดูเรื่องการฟอกเงินด้วย

“หากหม่อง ชิตตู มีทรัพย์สินในประเทศไทย และรัฐบาลไทยปล่อยไว้ให้เกิดการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะรับผิดชอบ ผมไม่เข้าใจว่ารออะไรกันอยู่ ควรเร่งดำเนินการอีกที และอาจมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เหมือนที่ผมเคยเปิดประเด็นเรื่องบริษัท SMTY เป็นประเด็นหนึ่งที่ศาลเคยพิพากษาประหารชีวิตไปแล้ว จึงอยากใช้โอกาสนี้กระตุ้นเตือนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งวันนี้เห็นความพยายามในการตัดกระแสไฟฟ้าและอื่นๆ แต่วันนี้เราต้องเร่งออกหมายจับเพื่อทำลายโครงสร้าง”

ส่วนที่มีข้อมูลว่ามีการส่งน้ำมันไปยังเมียนมา เข้ามาจากเส้นทางอันดามัน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ได้รับข้อมูลมาเช่นเดียวกัน จากการลงพื้นที่กับผู้นำฝ่ายค้านฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงได้แจ้งผู้บัญชาการภาคที่ 9 ว่ามีข่าวแบบนี้ ซึ่งท่านก็ได้ยินทำนองเดียวกัน เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่ามีจริงหรือไม่ และมีความพยายามในการป้องกันหรือไม่ คิดว่าทุกภาคส่วนต้องกระตือรือร้น เพราะบางส่วนก็มีข่าวว่าเมเนเจอร์ทุนจีนเทาได้หลบหนีไปยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว แต่ทุกภาคส่วนต้องตื่นตัว เพราะนี่เป็นวาระแห่งชาติ

เลื่อนขอหมายจับ 'ชิตตู' 17 ก.พ.

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ  เเละพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้เดินทางไปสอบปากคำกับทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อสอบถามในประเด็นเกี่ยวกับกองกำลังของ พ.อ.หม่อง ชิตตู ตามคำแนะนำของพนักงานสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ โดยที่สำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์เองก็ได้ส่งพนักงานอัยการไปร่วมสอบกับทางดีเอสไอด้วย

โดยภายหลังสอบเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปมีรายงานว่า วันนี้ (13.ก.พ.) ทางสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์จะมีการประชุมกันในประเด็นเรื่องการสอบเพิ่มดังกล่าว เเละจะนัดหารือกับดีเอสไอในวันที่ 17 ก.พ.2568 ซึ่งถ้าหากทางอัยการและ DSI มีข้อสรุปร่วมกันได้ ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับ พ.อ.หม่อง ชิตตู กับพวกต่อไป

 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ตร. และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตร. (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) กล่าวถึงผลจากมาตรการป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของ ตร.ว่า เป็นที่น่าพอใจ จากการรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมาของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่ามีคนหลายชาติใช้เส้นทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทั้งแบบถูกต้องและเส้นทางธรรมชาติ ในการข้ามพรมแดน มีกลุ่มคนที่ไม่มีแผนการท่องเที่ยวหรือที่พักจำนวนมาก ส่วนนี้ตำรวจได้ทำการสืบค้นย้อนหลังเพื่อตามหาว่ามีการข้ามไปและมีการกลับออกมาแล้วหรือไม่

ต้องยอมรับว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เดินทางข้ามพรมแดนสมัครใจเดินทางไปเอง ยืนยันว่าไม่มีการถูกหลอกในประเทศไทย สำหรับผู้ที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาจเป็นการหลอกให้ไปทำงานโดยแจ้งว่าเป็นงานอีกประเภท  โดยผู้ที่ไปเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา นอกจากไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังไปทำงานอื่นๆ อีก ทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  โรงแรม ร้านอาหาร และบ่อนพนันออนไลน์ ส่วนคนที่ถูกหลอกข้ามประเทศไปจริงๆ มีสัดส่วนที่น้อยมาก เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ เช่นกรณีของดาราจีน นอกนั้นเดินทางไปด้วยความเต็มใจ

พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวต่อว่า การหลอกลวงให้ไปทำงานในฝั่งเมืองเมียวดี พบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายหลายเชื้อชาติทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากคนจีนหลอกคนในชาตินั้นๆ เพื่อไปกระทำการหลอกคนในชาติตัวเอง คนไทยจะเกี่ยวข้องในเรื่องของการไปรับจ้างเปิดบัญชีม้า แต่คนไทยที่จะถูกหลอกไปทำงานจริงๆ ส่วนมากจะถูกหลอกไปฝั่งประเทศกัมพูชาและลาว จากนี้ในการรับตัวเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้ามาในประเทศไทย คาดว่าศูนย์สั่งการชายแดนมีการดูแลอย่างเต็มที่แล้ว วันจันทร์ที่ 17 ก.พ.นี้ จะมีการเชิญทูตประเทศต่างๆ มาเตรียมความพร้อมในการรับประชากรในชาติตัวเองกลับไป

พล.ต.อ.ธัชชัยยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกรายที่กลับเข้ามาในประเทศไทยจะถูกบรรจุว่าเป็นเหยื่อ ตร.จะคัดกรองโดยละเอียดไม่ให้มีการปะปนกัน และในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่เป็นการทำเฉพาะฝั่งเมืองเมียวดี แต่จะปราบปรามฝั่งประเทศลาวและกัมพูชา

ผบ.ตร.ขู่เด้ง ตร.เกียร์ว่าง

ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีบันทึกข้อความถึง ผบช.น., ผบช.ก.,  ผบช.ภ.1-9, ผบช.ตชด., ผบช.สตม., ผบช.ทท., ผบช.ส., ผบช.ปส. และ ผบช.สอท. เรื่องกำชับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 โดยให้ทุกหน่วยทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐเปิดเผยเจตนาของหนังสือคำสั่งนี้ว่า ถ้าหากสถานีตำรวจใด ผู้การคนใด ที่ปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดภาพลักษณ์ทางลบและชื่อเสียงเสียหายต่อประเทศชาติและ ตร. ซึ่งไม่ปฏิบัติตามนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรม ให้ผู้บัญชาการที่มีอำนาจแต่งตั้งในวาระ รอง ผบก.-สว.นี้ ปรับย้ายออกให้หมดตั้งแต่ระดับ สว.-หัวหน้าหน่วย ผกก. สวญ.และ สว. แล้วให้หาคนที่มีความเหมาะสม มีความประพฤติดีไปทำหน้าที่แทน

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีมีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผบก.กต.5 รรท.ผบก.กต.6 เชื่อมโยงกับธุรกิจเมียวดีคอมเพล็กซ์ว่า ได้มีการตั้งชุดคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ซึ่งคณะทำงานของตัวเองจะเน้นด้านการสอบสวนพฤติกรรมของ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ ว่าเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์หรือไม่ และเกี่ยวข้องในด้านใด รวมถึงมีบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเกี่ยวข้องหรือไม่ ยืนยันจะสอบสวนในทุกมิติ ซึ่งในชุดทำงานจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ป.ป.ป., ปอท. และ ป.ป.ส. จากกรณีที่มีข้อมูลว่ามีบุคคลใกล้ชิดของผู้การต๊ะรับช่วงต่อดูแลกิจการดังกล่าวนั้น ทางตำรวจมีข้อมูลชุดนี้อยู่แล้ว หากมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีการละเว้น รวมถึงนายตำรวจอีก 5 นาย ในพื้นที่ จ.ตาก ซึ่งปรากฏคำสั่งโยกย้ายเช่นกัน

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเพิ่มเติมถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และได้มีการรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติยาว 165 กิโลเมตร และมีการบูรณาการวางลวดหนามประมาณ 55 กิโลเมตร ที่เหลือก็ยังคงเป็นช่องทางธรรมชาติติดกับพื้นที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา จึงเสนอสร้างกำแพง ซึ่งหลายประเทศทำอยู่ เช่นเม็กซิโก คือปิดรั้วรอบขอบชิด ส่งผลให้การตรวจสอบง่ายขึ้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดและเครื่องปั่นไฟที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือน ยืนยันว่าเป็นเพียงแผนงานของรัฐบาลที่จะนำมาพิจารณาเพื่อหาแนวทางร่วมกันอีกครั้งเรื่องการสร้างกำแพง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการสร้างกำแพง และยังต้องศึกษารูปแบบแนวทางภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง