โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "สุชาติ ตระกูลเกษมสุข" ดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช.คนใหม่แล้ว "วันนอร์" แจงยิบปมคลิปหลุด มั่นใจ "โจ๊ก" ปล่อยคลิป จวกไร้มารยาท ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ส่วน "เท้ง" ขอเคลียร์กับประธานสภาฯ ในเวทีของกรรมการสรรหา
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามประกาศลงวันที่ 30 ธ.ค.2558 นั้น ต่อมา พล.ต.อ.วัชรพล ได้พ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ เป็นเหตุให้ตำแหน่งว่างลง
บัดนี้ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่มีอยู่จำนวนเจ็ดคน ได้ประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 232 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ประกอบมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทจริต พ.ศ.2561 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข เป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 11 ก.พ.2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา
วันเดียวกันนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ “เนชั่นทีวี” ถึงกรณีมีคลิปถูกเผยแพร่ทางสื่อบางแขนงว่ามีการพบปะกับนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนใหม่ และอาจมีการเจรจาเพื่อขอให้ยุติเรื่อง หรือถอนเรื่องที่มีการล่ารายชื่อประชาชนให้ถอดถอนนายสุชาติออกจากตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. โดยอ้างว่ามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
นายวันนอร์เผยว่า จำได้ว่าเป็นช่วงใกล้วันปีใหม่ น่าจะหลังปีใหม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ติดต่อมา แจ้งว่าจะขอเข้าพบเพื่ออวยพรปีใหม่ ตนบอกว่าไม่จำเป็นต้องมาพบ เพราะไม่ค่อยให้ใครเข้าอวยพร แต่ทาง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์อ้างว่าจะมาคุยเรื่องสมาคมปักษ์ใต้ และเรื่องการเมือง ตนยังถามกลับไปว่าการเมืองเรื่องอะไร เพราะตนเป็นกลางทางการเมือง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์อ้างว่าตัวเขาจะลงเล่นการเมือง เพราะถูกกลั่นแกล้งมาก
เขาบอกว่า เห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์พยายามย้ำว่าจะมาคุยเรื่องสมาคมปักษ์ใต้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์เป็นนายกสมาคมฯ อยู่ และตนก็เป็นคนปักษ์ใต้ จึงนัดกัน แต่ครั้งแรกตนไม่ว่าง ทาง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ขอนัดครั้งที่ 2 ตนยังถามว่ามาถูกหรือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์บอกว่าจะให้ตำรวจบางใหญ่พาไป สุดท้าย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์มาพบถึงบ้าน
“ตอนนั้นมาเกือบ 1 ทุ่มแล้ว แต่พอมาถึง ไม่ได้มาคนเดียว พาอีกคนมาด้วย บอกว่าอยากให้รู้จักท่านสุชาติ ผมยังถามว่าเป็นอย่างไรกัน ตกลงกันได้แล้วหรือ เพราะทราบดีว่ามีเรื่องที่บิ๊กโจ๊กยื่นถอดถอนคุณสุชาติเอาไว้ ปรากฏว่าทางบิ๊กโจ๊กบอกว่ามาขอถอนเรื่อง ผมบอกว่าถอนลำบาก เพราะตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่เข้าชื่อเรียบร้อยแล้ว แต่ผมดูแล้วรู้สึกเรื่องมันไม่มีมูล ทางบิ๊กโจ๊กยังบอกว่าดีๆ ส่วนทางท่านสุชาติก็นั่งเฉยๆ”
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า หลังจากคุยเรื่องนายสุชาติจบ ก็คุยกันเรื่องอื่นๆ เช่น จะเลือกประธาน ป.ป.ช.กันเมื่อใด กรรมการมีกี่คนแล้ว จากนั้นก็ลากลับ ตนยังอวยพรปีใหม่ ขอให้มีสุขภาพดี
“เรื่องมีแค่นี้ นั่งกันอยู่มี 3 คน ไม่รู้ใครอัดเทป นั่งกันที่ห้องรับแขก มี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ท่านสุชาติ และผม ท่านสุชาติคงไม่ได้อัด และหน้าตาท่านก็ไม่ได้อยากมาเท่าไหร่ ดังนั้นคนที่อัดเทปก็ต้องเป็น พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ถูกแอบอัดเทประหว่างพูดคุย นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า “ไม่น่าจะเสียมารยาทลูกผู้ชายไปอัดเทป พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์มาขอพบเพื่ออวยพรปีใหม่ และไม่ได้บอกว่านัดให้ท่านสุชาติมาพบ จริงๆ ผมเป็นคนมีอำนาจที่จะตรวจสอบข้อกล่าวหาที่มีต่อกรรมการองค์กรอิสระ ขณะที่ ป.ป.ช.มีอำนาจตรวจสอบผมเช่นกัน ดังนั้นท่านสุชาติก็คงไม่อยากมา แต่บิ๊กโจ๊กจะมาพบ
“ผมคิดว่าใช้ไม่ได้ ตรงที่มาอัดเทป แล้วตัดคลิปไปส่งให้สื่อ วันนั้นนั่งกันอยู่ 3 คน จะมีใครที่ทำ ผมกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์รู้จักกันมา แต่ทำเรื่องแบบนี้ไม่ถูกต้อง มาขอพบแล้วอัดเทป แอบส่งเทปให้สื่อมวลชน ไม่น่ากระทำ”
นายวันนอร์กล่าวถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาที่มีต่อกรรมการองค์กรอิสระว่า เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า ถ้ามีผู้ร้อง ผู้ร่วมลงชื่อ 2 หมื่นรายชื่อ ให้ประธานรับเรื่องไว้ ถ้ามีการตรวจสอบแล้วเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัย ให้ประธานรัฐสภาส่งให้ศาลฎีกา ศาลฎีกาจะมีหน้าที่ตรวจสอบ โดยตั้งคณะไต่สวนอิสระขึ้นมา ดังนั้นหากประธานสภาฯ ตรวจสอบแล้วไม่มีเหตุอันควรสงสัยไม่ต้องส่งให้ศาลฎีกา
“เรื่องนี้เราตรวจสอบแล้ว เป็นเรื่องเก่า ไม่มีมูลโดยสัตย์จริง เมื่อเรื่องไม่มีมูล แล้วเราไปส่งศาลฎีกาทุกเรื่อง แบบนี้องค์กรอิสระทำงานยาก แต่ถ้าตรวจสอบแล้วมีมูล ก็ต้องส่งให้ศาลตามขั้นตอน ต้องไม่ลืมว่ากว่ากรรมการแต่ละคนจะได้ดำรงตำแหน่ง ต้องผ่านการสรรหา มีคณะกรรมการสรรหาตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้น และผ่านการโหวตของวุฒิสภา กระทั่งเสนอโปรดเกล้าฯ การจะตรวจสอบเพื่อถอดถอน จึงต้องมีพยานหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดจริงๆ” ประธานรัฐสภากล่าว
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปล่อยคลิปเสียงหลุดว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่ผู้ที่จะชี้แจงได้ดีที่สุดคือนายวันนอร์
ส่วนจะมีการตรวจสอบหรือไม่ เพราะประเด็นนี้มีผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการแต่งตั้งประธาน ป.ป.ช.นั้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า ในฐานะที่ตนเป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสระด้วย ก็จะดำเนินการตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้ยังให้รายละเอียดอะไรมากไม่ได้
เมื่อถามว่า จะต้องพูดคุยกับนายวันนอร์หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ตอบว่า การพูดคุยก็คงไม่ใช่การคุยหลังบ้านเพื่อจะตกลงอะไรที่ประชาชนตรวจสอบไม่ได้ แต่จะเป็นการคุยในเวทีของกรรมการสรรหา ที่เป็นทางออกที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีเจตนาในการเขย่าเก้าอี้ประธานรัฐสภา นายณัฐพงษ์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อรองทางการเมือง ซึ่งตนก็ไม่สามารถตอบแทนประธานรัฐสภาได้ พร้อมย้ำว่าการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจะตอบโจทย์ประชาชนได้มากที่สุด ตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ ก็จะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โรม' ข้องใจปม ป.ป.ช. ล็อกเป้าเชือด 12 สส.พรรคประชาชน
'รังสิมันต์' ตั้งข้อสังเกตจงใจหรือไม่ หลัง ป.ป.ช. จัดกลุ่ม 44 สส.ตัวตึงพรรคสีส้ม จ่อถูกสอยคดีแก้ 112 ลั่นเกลียดพวกเราได้ แต่ทำแบบนี้ประเทศได้อะไร หากฝ่ายค้านอ่อนแอ ข้องใจพวกสมคบคิด-เคลียร์คดีกัน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ กลับไม่ได้รับการแก้ไข
ปปช.รับใกล้จบ 44สส.แก้ม.112 ฝ่าฝืนจริยธรรม
เลขาฯ ป.ป.ช.เผยคดี 44 สส.ก้าวไกลแก้มาตรา 112 ส่วนใหญ่รับทราบข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์
ชี้10วัน‘รอมฎอน’ระทึก ลอบขนระเบิดเข้าพื้นที่
10 วันสุดท้ายรอมฎอนระทึก การข่าวยะลาพบขนระเบิด
ต่ออายุตัดไฟ-เน็ตปราบแก๊งคอลฯ
"นายกฯ อิ๊งค์" เข้า ทบ.ครั้งแรก ถกด่วนปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ ยันนายกฯ กัมพูชาพร้อมร่วมมือไทยปราบคอลเซ็นเตอร์ 100%
ชงทูตไทยปักกิ่ง เยี่ยมชาวอุยกูร์ เพิ่มความมั่นใจ
“ภูมิธรรม” พร้อมคณะกลับถึงไทยแล้ว เผยต่อไปให้ทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งเยี่ยมกลุ่มคนที่เหลือให้เกิดความมั่นใจ
สอบพยานคดีฮั้วสว.ทุกราย!
“แสวง” แจงทำหน้าที่คุมเลือก สว.ตามกฎหมาย ด้าน “กกต.” ยกคำร้องเลขาธิการ กกต.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ “ดีเอสไอ"