ขึงขังซักฟอก5วัน! ฝ่ายค้านเล็งยื่น 27ก.พ. / ‘พ่อนายกฯ’ ประกาศไม่ปรับครม.

"ดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน" คึกคัก ยื่นซักฟอกรัฐบาล 27 ก.พ. ขอเวลา 5 วัน ชำแหละบริหารงานขาดประสิทธิภาพ ไม่เป็นไปตามธรรมาธิบาล ละเลยปัญหาสังคม ส่อเค้ามีผลประโยชน์ทับซ้อน โอ่ปมชั้น 14 มีแน่ หลัง "เสรีพิศุทธ์" โผล่ให้ข้อมูล "ทักษิณ" สยบข่าวปรับ ครม. ปัดโยก "พีระพันธุ์" พ้นพลังงาน บอกสัมพันธ์กับนายกฯ ดี รับมีนักรำวงอยู่บ้างแต่ยังกระตุ้นกันได้ "นายกฯ อิ๊งค์"  เกาะติดขอบสนามเชียร์ทีมฮอกกี้ไทยเจอเจ้าบ้านจีน

ที่ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) วันที่ 7  ก.พ. เวลา 16.00 น. พรรคร่วมฝ่ายค้านนัดประชุมแกนนำพรรคและรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยพรรค ทสท.เป็นเจ้าภาพ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีแกนนำของแต่ละพรรคทยอยเดินทางเข้าร่วมงาน ในส่วนของพรรค ทสท. นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค และนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค ด้านพรรคประชาชน  (ปชน.) นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน, นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค และนายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค, นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา รองหัวหน้าพรรค, นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรค, นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค และพรรคเป็นธรรม (ปธ.) โดยนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ รวมทั้งยังมีการจัดโต๊ะแถลงข่าวปรากฏชื่อพรรคเสรีรวมไทยร่วม ซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมอยู่ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ไม่มีป้ายชื่อของพรรคไทยก้าวหน้า ที่มีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เป็น สส.เพียงคนเดียวที่กำลังมีประเด็นการข่มขืนสาวไต้หวันอยู่ในขณะนี้

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า จะเป็นการหารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก โดยพรรค ทสท.สนใจอภิปรายเรื่องการพนันออนไลน์และกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ซ่อนบ่อนกาสิโนไว้ ซึ่งถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เรามีหลักฐานเชิงลึกและเชิงประจักษ์ให้เห็นกันดีว่าใครจะได้ประโยชน์บ้าง อาจจะทำให้คนไทยติดการพนันงอมแงม

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ผ่าน ครม.เป็นกฎหมายที่เขียนไว้ห่วยแตกที่สุด ยกอำนาจทั้งหมดให้กับบอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง มีทั้งนายกรัฐมนตรีและนักการเมือง เท่ากับว่าถ้าสภาผ่านจะเป็นการตีเช็คเปล่าให้กับบอร์ดชุดนี้กำหนดทุกอย่าง ทั้งเงื่อนไขค่าตอบแทน และการป้องกันไม่ให้คนไทยเป็นเหยื่อการพนัน ก็ให้บอร์ดชุดนี้กำหนด เนื่องจากรัฐบาลพูดว่าใบอนุญาตใบหนึ่งไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ผลประโยชน์ต่อปี 1,000 ล้านบาท หากประเมิน 30 ปี รายได้จะเข้ารัฐ 35,000 ล้านบาท

"ขอเสนอให้รัฐบาลนำข้อกำหนดมาอยู่ในร่างกฎหมาย ทำประชามติออนไลน์ ชงเข้าสภา เพื่อให้สภาควบคุมกำกับ อาจจะลองทำสักแห่งก่อน ถ้ามีผลเสีย รัฐบาลจะแก้หรือเอากลับคืนมาได้ ถ้ารัฐบาลจริงใจ ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง และเป็นคุณแม่ อยากให้เห็นถึงอนาคตของลูกหลานมากกว่านี้ ลองทำตามขั้นตอนนี้ไม่ได้เสียหายอะไร” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว 

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยื่นหนังสือต่อนายณัฐพงษ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้ในการอธิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือน มี.ค.นี้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ข้อมูลที่นำมาให้เกี่ยวกับนายทักษิณที่ไปนอนเล่นอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถึงเวลานัดใครก็ไปรอที่ชั้น 14 แต่เวลาไม่มีนัดก็กลับบ้าน แล้วใครจะไปเห็น ขนาดตอนตนไปยังไม่มีใครเห็นเลย แล้วตอนที่นายทักษิณจะออกไปหรือกลับบ้านจะมีคนเห็นหรือ

"อีกไม่กี่วันผมจะพาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปดูสถานที่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลอย่าย้ายข้าวย้ายของ ทำลายหลักฐานแล้วกัน ย้ายของย้ายได้ แต่ย้ายห้องย้ายไม่ได้ จะไปติดเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์สมัยใหม่เพื่อประกอบพยานหลักฐานไม่ได้" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

ขอ 5 วันซักฟอกรัฐบาล

ด้านนายณัฐพงษ์ยืนยันว่า การทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านแตกต่างจากการทำงานพรรคร่วมรัฐบาล แต่ละคนสามารถมีจุดยืน อุดมการณ์ที่แตกต่างกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของเราอาศัยกลไกรัฐสภาในการตรวจสอบ ดังนั้นวันนี้ตนจึงให้เกียรติกับพรรคร่วมทุกพรรค

"ต้องขอขอบคุณหญิงสุดารัตน์ที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมนอกจากสถานที่ให้ และข้อมูลที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นำมามอบนั้น หากเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ผมก็ยินดีที่จะเปิดกว้างรับฟัง" ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว

ต่อมานายณัฐพงษ์นำแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงผลการประชุมว่า กรอบเวลาในการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในปลายเดือน ก.พ.แน่นอน ซึ่งวันที่คิดว่ามีความเหมาะสม และเป็นวันสุดท้ายของการยื่นญัตติ คือวันที่ 27 ก.พ.นี้ เนื่องจากเป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้มีการตกลงกันถึงเนื้อหาในการอภิปรายแล้ว เนื่องจากแต่ละพรรคมีเนื้อหาที่มีความเข้มข้น ซึ่งพวกเราเองจะให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นผู้ประสานงานเจรจาเบื้องต้นกับฝ่ายรัฐบาลว่าอยากจะขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ที่ 5 วัน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลเองไม่น่าจะปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคฝ่ายค้าน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

"ในการประชุมมีหลายประเด็นที่เราได้หารือร่วมกันแล้ว พบว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดินขาดประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยปัญหาสังคมในหลายเรื่อง รวมถึงประเด็นที่ส่อเค้าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน การบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ได้เป็นไปตามธรรมาธิบาลของระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลควรจะต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุล และชี้แจงได้ในระบบรัฐสภา แต่ส่วนในรายละเอียด การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมอาจจะยังเปิดเผยมากไม่ได้" นายณัฐพงษ์กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อจากนี้ พวกเราคิดว่าหากมีประเด็นเนื้อหาใดที่ประชาชนรวมถึงส่วนราชการ มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชันภายในรัฐบาล เราก็พร้อมเปิดกว้าง และสามารถส่งมาให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทุกพรรค ซึ่งเวลาในอภิปรายเบื้องต้นคิดว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลา 5 วัน และมองว่ารัฐบาลเองควรเปิดกว้างให้พรรคฝ่ายค้านตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คงต้องให้วิปฝ่ายค้านไปเจรจาเพิ่มเติม

ถามถึงกรณีที่หลายคนประเมินว่าจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งสำหรับการอภิปรายในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอติดตาม ตนยืนยันหากมีข้อมูลที่สามารถพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีท่านใดก็ตามที่เราเห็นแล้วว่าเข้าข่ายทุจริต หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน เราก็สามารถอภิปรายได้

ซักว่าเป้าหมายสูงสุดในครั้งนี้คือการล้มรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เชื่อว่าสามารถนำไปสู่จุดนั้นได้ แต่หากถามว่าเป้าหมายสูงสุดคืออะไร ก็คือการตีแผ่ความจริงให้ประชาชนเห็นว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ขาดความชอบธรรมอย่างไร รวมถึงหลายๆ กรณีที่เราเห็นตามหน้าข่าว ก็อาจจะเห็นความขาดความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งสะท้อนมาถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขด้วย

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลชิงปรับ ครม.ก่อนจะมีการแก้เกมอย่างไร ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของฝั่งรัฐบาล ซึ่งเรามั่นใจว่าข้อมูลหลายอย่างที่เราได้อภิปรายในครั้งนี้ สามารถที่จะส่งผลสะเทือนให้กับฝั่งรัฐบาล ทำให้รัฐบาลขาดความเชื่อมั่นได้ ส่วนเนื้อหาในรายละเอียดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องของแต่ละพรรคฝ่ายค้านที่จะต้องเตรียมข้อมูล การที่เราประชุมร่วมกันเพื่อดูในภาพกว้าง แต่ในรายละเอียดอาจจะไม่ได้สามารถเปิดเผยได้ เพื่อป้องกันในเรื่องของการปรับ ครม.ล่วงหน้าหรือในระยะยาว และเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล

"เวทีนี้สิ่งที่สำคัญคือการเปิดโปงและตีแผ่ความจริงให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นมากกว่า และผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือการที่รัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถาม หรือแม้แต่กระทั่งตัวนายกฯ เองจะต้องเป็นผู้ตอบและชี้แจงในที่ประชุมสภาเอง ในคำถามที่มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้ารัฐมนตรีสามารถตอบได้ ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน" ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว

ถามว่า จะมีการยื่นเป็นรายบุคคลหรือยื่นทั้งคณะ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียดที่แต่ละพรรคจะส่งมาก่อนว่าจะยื่นทั้งคณะหรือยื่นเป็นรายบุคคล ตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อหาที่แต่ละพรรคจะยื่นมาให้

ทักษิณสยบข่าวปรับ ครม.

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ เวลา 10.15 น. ได้เดินทางไปเป็นพยานการจดทะเบียนสมรสระหว่างนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และนายสุไพรพล ช่วยชู คู่รัก ที่สำนักงานเขตบางรัก

นายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ บอกว่าทุกวันนี้ทำงานร่วมกันไม่มีปัญหา อาจมีขัดข้องบางกระทรวงที่ทำงานช้า หรือไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่ แต่ยังอยู่ในภาวะที่คุยกันได้ จึงยังไม่เห็นความจำเป็น

ถามว่า หากปรับ ครม.จะเกิดขึ้นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า  “ผมว่ายัง ยังไม่น่าจะมีอะไร เพราะวันนี้นายกฯ  บอกว่ายังทำงานร่วมกันได้ดีอยู่”

ซักถึงข่าวจะนำชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ออกจากกระทรวงพลังงาน นายทักษิณกล่าวว่า ยังไม่มีเลย ยังไม่มีข่าวอะไรเลย นายพีระพันธุ์คุยกับนายกฯ ดี โดยเฉพาะเรื่องคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ หรือ กพช. ที่นายกฯ เป็นประธาน บางครั้งนายกฯ ก็มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ทำหน้าที่ประธานแทน  ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า หากดูเนื้องานมีส่วนไหนที่ต้องปรับ ขยับเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้นหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า อันนี้ต้องถามนายกฯ ว่าอึดอัดตรงไหน แต่เท่าที่เขาบอกยังทำงานร่วมกันได้ มีบางที่ช้าไปหน่อย ก็คงต้องจี้กัน กระตุ้นกัน แต่ยังอยู่ในภาวะที่กระตุ้นกันได้อยู่

ถามว่า สำหรับตัวนายทักษิณเห็นว่าควรจะเปลี่ยนหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า แน่นอนครับ  บางอันเราต้องการการตัดสินใจที่เด็ดขาดและฉับไว แต่บางครั้งจะเจอนักรำวงบ้าง ซึ่งเราก็ไม่ชอบและพยายามบอกว่าอย่ารำวงมาก ก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไร เพราะในการบริหารเป็นนักรำวง มันเป็นนักบริหารที่ดีไม่ได้ แต่ตนไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร เพราะเป็นอำนาจและหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และเป็นสปิริตของท่านนายกฯ เอง ตนมีหน้าที่ให้คำปรึกษา ถ้าต้องการอาจจะปรึกษาได้

นายทักษิณยังทิ้งท้ายคำของมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่แปลคำว่า “Advisor” ว่า “No so much obay” ที่หมายถึงไม่ต้องเชื่อฟังมากก็ได้

เมื่อถามถึงการเดินทางไปประชุมร่วมกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า ประธานอาเซียนขอให้ตนช่วย 2-3 เรื่อง ซึ่งเรื่องแรกคือเรื่องประเทศเมียนมา เรื่องที่สองเรื่องนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เริ่มคริปโตเคอร์เรนซีในสหรัฐอเมริกาแล้ว  แต่หากประเทศอาเซียนไม่ขยับ เราก็จะเสียเปรียบ  นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ โดยปัญหาภาคใต้ว่าเราจะแก้ปัญหาร่วมกันอย่างไร  โดยจะต้องทำให้เบาบางหรือจบลงเร็วที่สุด

นายทักษิณยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายก  อบจ. ที่หลายฝ่ายมองว่าชื่อทักษิณอาจจะเสื่อมมนตร์ขลังแล้วว่า ตนแก่แล้ว อายุ 76 ปีแล้ว คนที่อายุต่ำกว่า 40 ไปแล้วนั้นมักจะจำผลงานของตนไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าแน่นอนสักพักคนจะเข้าใจมากขึ้น เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็ชนะมาหลายเขต ที่ผิดคาดมีอยู่ 3 จังหวัด โดย 2 จังหวักเกิดจากความไม่สามัคคีกันของ สส. อีก 1 จังหวัดเกิดจากความประมาทของผู้สมัคร ถือว่าไม่ได้ผิดเป้ามากมาย คงไม่ต้องบอกว่าเป็นเขตไหน ตนพูดแค่นี้เจ้าตัวก็สะดุ้งหมดแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า หลายคนมองว่านายทักษิณเสื่อมมนตร์ขลังแล้ว นายทักษิณตอบไปยิ้มไปว่า  “ผมไม่มีมนตร์ขลังอะไร แก่ขนาดนี้สาวๆ ยังไม่มองเลย คนส่วนใหญ่เกิน 40 ปีถึงจะจำผมได้”

ส่วนการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้าจะทำให้พรรคเพื่อไทยลำบากขึ้นหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า มองว่าแย่ๆ เลยคงมี 200 ขึ้น เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียวใช่แล้วหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่อยากเป็นพรรคเดียวแล้วแหละ เพราะนกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ไม่ดี ต้องมีเพื่อน แต่เยอะมากก็ไม่ดี ปวดหัว”

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม​ ปฏิเสธกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยนำมือทาบที่อกและถามกลับว่า​ "ผม​โดนปรับด้วยเปล่า"​ ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ในทันที และกล่าวทิ้งท้ายว่า​ "คุณอย่าไปฟังอะไรมาก"

วันเดียวกัน เวลา 09.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติฮาร์บินไท่ผิง นครฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน (เวลาที่นครฮาร์บินเร็วกว่าเวลาที่ประเทศไทย 1 ชั่วโมง) โดยมีนายหลาน  เซ่าหมิ่น ประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองจีน ประจำมณฑลเฮย์หลงเจียง มารอต้อนรับ และมีสตรีชาวจีนมอบช่อดอกไม้ต้อนรับ

โอกาสนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนางเผิง ลี่หยวน ภริยา จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อต้อนรับประมุขและหัวหน้ารัฐบาลต่างประเทศและคู่สมรส ที่เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 โดยมีประมุขและผู้นำต่างประเทศเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ, ประธานาธิบดีปากีสถาน, ประธานาธิบดีคีร์กีซสถาน และ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีไทยด้วย

จากนั้นช่วงเย็น นายกฯ เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ณ Harbin International Convention and Exhibition Sport Centre และร่วมชมและเชียร์การแข่งขัน Ice Hockey ชาย ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติจีน ณ สนามแข่งกีฬา Harbin Ice Hockey Arena.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิญา' ยื่น กกต. สอบปม 'นายกฯอิ๊งค์-เท้ง' โต้กันนัวศึกซักฟอก คนนอกครอบงำพรรค

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 -25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน