เลขาฯ สมช.ดีเดย์ 3 ก.พ. ถกหน่วยงานเกี่ยวข้องประมวลข้อมูลส่ง กฟภ.ตัดไฟชายแดนเมียนมา ตำรวจตีแผ่ 5 แนวทางหลอกลวงเข้าแก๊งคอลฯ “โพล” บอกประชาชนเทใจหนุนมาตรการตัดไฟ
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ พิจารณาระงับการจ่ายไฟพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า ในวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.นี้ เวลา 08.30 น. จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ สมช. เพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคงก่อนจะส่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พิจารณาดำเนินการและหารือกับคู่สัญญา ซึ่งการส่งข้อมูลให้ กฟภ.เป็นไปตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) ทำหนังสือสอบถามความคิดเห็น สำหรับผู้ที่จะร่วมประชุมในวันที่ 3 ก.พ.นี้ มี 7-8 หน่วยงาน อาทิ กองทัพ, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการต่างประเทศ และ กฟภ.
“ขอย้ำว่าการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย” นายฉัตรชัยระบุ
ขณะที่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณแนวชายแดนอย่างเป็นรูปธรรม โดยที่ผ่านมา ตร.พบว่ามีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางผ่านบริเวณแนวชายแดนเพื่อไปทำงานในองค์กรอาชญากรรม ซึ่งมีทั้งผู้ที่เดินทางไปโดยสมัครใจและผู้ที่ถูกหลอกลวง ตร.จึงขอตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพที่หลอกลวงพี่น้องประชาชนให้ไปทำงานในองค์กรอาชญากรรมบริเวณแนวชายแดน ดังนี้
1.เงินเดือนสูง ไม่ต้องมีประสบการณ์-คนร้ายจะเสนอเงินเดือนที่สูงผิดปกติ เช่น 30,000-50,000 บาท สำหรับงานทั่วไปโดยไม่ต้องมีประสบการณ์หรือคุณวุฒิการศึกษา 2.ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า-อ้างว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการ เช่น ค่าตั๋วเดินทาง ค่าวีซ่า พร้อมใช้ข้ออ้างว่าจะได้เงินคืนเมื่อเริ่มงาน 3.รีวิวประสบการณ์ปลอม-ลงรับสมัครงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 4.ทำให้ดูเร่งด่วน-บอกว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ต้องตัดสินใจทันที เช่น รับสมัครด่วน จำนวนจำกัด และ 5.หลอกว่าทำงานกาสิโนหรือสถานบันเทิงที่ถูกกฎหมาย แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“ขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้เดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะท่านอาจถูกบังคับให้กระทำความผิดและตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ และหากท่านพบเบาะแสการหลอกลวงให้เดินทางไปทำงาน หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ระบุ
วันเดียวกัน ดร.ชาญวิชย์ อริยาวรนันต์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตัดไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้านแก้อาชญากรรมข้ามชาติ โดยศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,143 ตัวอย่าง โดยผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 81.1% เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับมาตรการตัดไฟฟ้าเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ มีเพียง 18.9% ไม่เห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อแนวทางการจัดระเบียบชายแดนของนายอนุทิน พบว่า 85.7% เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับมาตรการ มีเพียง 14.3% ไม่เห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมาตรการตัดไฟฟ้าในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พบว่า ประชาชน 55.3% มีความเชื่อมั่นว่าจะลดอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ประชาชน 52.8% มองว่าควรมีมาตรการอื่นๆ เสริมเพิ่มเติม เช่น การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ประชาชน 44.4% ต้องการให้รัฐบาลมีความสามัคคีและใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ แทนที่จะขัดแย้งทางการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล ประชาชน 43.9% ยังสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อลดโอกาสของกลุ่มอาชญากรรมในการใช้โครงสร้างพื้นฐานของรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตน โดยมีประชาชนเพียง 13.7% ที่แสดงความกังวลว่าการตัดไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจในพื้นที่ชายแดน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทหารไทยเสียขาที่9คา‘จีบีซี’
ไทยยัน จม.ของ “เตีย เซ็ยฮา” มีนัยขอเจรจาหยุดยิง-เสนอให้ถอยกำลังทหารไปอยู่ที่จุดเดิม
‘นํ้าเงิน-ส้ม’เปิดศึก! ‘หนู’ลั่นพรรคใดแก้ม.112ไม่ร่วมด้วย-‘เท้ง’ท้าแข่งกันจัดตั้งรัฐบาล
“ภูมิใจไทย” ขยับใหม่ ประกาศแคนดิเดตนายกฯ 2 คน “อนุทิน-สีหศักดิ์” ผวา! ส่งชื่อคนเดียวสุ่มเสี่ยง ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้
กรมศิลป์รับมอบไม้จันทน์หอมสร้างพระโกศฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ มีพระราชวินิจฉัยแบบพระโกศจันทน์ยอดมหามงกุฎสมพระเกียรติ "พระพันปีหลวง"
กกต.กทม.คุมเข้ม รับสมัครสส.เขต ที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น
กกต.กทม.พร้อม 90% เปิดศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น รับสมัคร สส.กทม. 33 เขต 27-31 ธ.ค.
จัดเก็บรายได้วืด2.8หมื่นล. คลังลุยกู้ชดเชยการขาดดุล
คลังจัดเก็บรายได้ 2 เดือนแรกของปีงบ 69 ไม่เข้าเป้า วืด 2.8 หมื่นล้านบาท
21ม.ค.ชี้ชะตา ‘ภูมิธรรม-ทวี’ สว.เคาะ2ปปช.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดยื่นคำแถลงปิดคดี 6 ม.ค. ก่อนแถลงคำวินิจฉัย 21 ม.ค.

