“อนุทิน” ขอ “อิ๊งค์” ทุบโต๊ะสั่งตัดไฟฟ้าเลี้ยงเมืองคอลเซ็นเตอร์ ยัน กฟภ.ต้องรอข้อมูลฝ่ายความมั่นคงก่อน เผยทำหนังสือถามไปหลายหน่วยงาน แต่ได้คำตอบเป็นลม ด้าน “โรม” ยันทำได้เลย สงสัยไม่กล้าจัดการเพราะเจอตอ พร้อมเปิดข้อมูลเอกชนขอต่อสัญญาอีกรอบ เปิด "เมืองสีเทา" ขยายตัว เลาะตะเข็บชายแดนไทยตะวันตก “ทักษิณ-อิ๊งค์” ขอพึ่งจีนร่วมปราบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 มกราคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ว่าขอบคุณทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ ที่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่ทำให้นโยบายในเรื่องของยาเสพติดเกิดผลได้จริง รวมถึงคนที่อยู่หน้างาน ทั้งเหนื่อยและเสี่ยง รัฐบาลประกาศว่าปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศไทยและประชาชนคนไทย การที่ยังมียาเสพติดอยู่มันตัดศักยภาพของคนไทยมาก ถ้าเราช่วยกันก็จะทำให้คนไทยกลับมามีศักยภาพอีกครั้ง และพร้อมที่จะถูกพัฒนาไปในทางที่สามารถช่วยประเทศได้
นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์กรณีนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ เดินทางไปประชุมกับเจ้าหน้าที่ไทยที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเปิดศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ว่า "จะทำงานร่วมกันอีกทีหนึ่ง"
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงว่า ได้เน้นย้ำเรื่องการบูรณาการที่ยังไม่ครอบคลุมมากนัก ตั้งแต่ชายแดน พื้นที่ในเมือง และพื้นที่จังหวัด เหล่านี้เป็นแหล่งรองรับการขนย้ายยาเสพติดเข้า จึงต้องเร่งดำเนินการก่อน และเรื่องยาเสพติดเป็นหัวใจหลักที่จะขยายไปสู่การป้องกันปัญหาด้านอื่น เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ ซึ่งเราเข้าใจคนทำงานในพื้นที่มีความเสี่ยงและเป็นภารกิจที่สำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย จึงอยากให้แต่ละหน่วยงานได้พูดคุยกัน เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา รวมถึงการดูแลผู้ปฏิบัติงานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ จากนี้จะมีการประเมิน KPI เป็น 3 ช่วง ได้แก่ ก.พ.-มี.ค., เม.ย.-พ.ค. และ มิ.ย.-ก.ค. จากนั้นจะประเมินผลภาพรวมทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อให้มีการปรับแผนและปฏิบัติงานในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ กำชับไปแล้วให้ทำให้เด็ดขาด อย่าปล่อยปละละเลย แต่ให้คำนึงถึงหลักนิติธรรมและกฎหมายให้เคร่งครัด แต่ไม่เกินเลยขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่
นายภูมิธรรมชี้แจงจากกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ระบุว่าการตัดไฟฟ้าไม่ให้ความช่วยเหลือพื้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งจังหวัดเมียวดี ให้ไปถามหน่วยงานความมั่นคงโดยตรงว่า ขณะนี้ไทยจ่ายไฟให้กับเมียนมา 2 จุด บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเข้าสู่เมียวดี และชายแดนแม่ฮ่องสอน แต่จุดที่มีปัญหาคืออำเภอแม่ระมาดกับอำเภอแม่สอด ได้ตัดไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนปี 66 รวมถึงเรื่องระบบอินเทอร์เน็ต และยังได้สั่งการเพิ่มเติมว่า ผู้ใดให้ไฟฟ้าเขาใช้ก็ถือว่าสมรู้ร่วมคิด ฝ่ายความมั่นคงก็จะดำเนินการ หากพื้นที่มีปัญหาจะใช้เครื่องปั่นไฟก็เป็นเรื่องภายใน แต่ยืนยันว่าเราจัดการสั่งตัดไฟฟ้าไปแล้ว หากมีการลักลอบใช้ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป
ที่ จ.ลำพูน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวกรณีผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะประเทศจีนมาประชุมกับเจ้าหน้าที่ไทย ถึงการปราบปรามกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ ว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับจีนอย่างไม่เป็นทางการอยู่บ่อยครั้ง จึงได้ฝากไปถึงผู้นำและผู้ใหญ่ในประเทศจีนว่า ปัญหาความร่วมมือในภูมิภาค ต้องอาศัยจีนช่วยเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนก็มีอิทธิพลกับเมียนมา และรัฐบาลทหารเมียนมาในวันนี้ก็ยังต้องพูดคุยกัน แต่เราไม่สามารถคุยโดยตรงได้มากนัก จึงต้องให้จีนช่วย ซึ่งช่วงนี้ปัญหาการสู้รบในเมียนมายังไม่ยุติ
นายทักษิณกล่าวด้วยว่า ได้เข้มงวดบริษัทสื่อสารทั้งหลายอย่าขายซิมเป็นแสนซิม จะไปหวังรายได้ตรงนั้นไม่ได้ เพราะครั้งที่แล้วที่เราจับได้มีซิมเป็นแสน ซึ่งได้เตือนบริษัทที่ทำธุรกิจด้านนี้แล้วว่าขอให้ร่วมมือกัน บางทีเจ้าหน้าที่ไทยเราไม่เข้มแข็ง ปล่อยให้คนเข้า-ออกได้ง่ายเกินไปโดยไม่มีการตรวจ วันนี้เราก็พยายามหาทางแก้หลายอย่าง รวมทั้งเศรษฐกิจด้วย ทั้งไฟฟ้าและสื่อสารก็ต้องทำคู่กัน ส่วนกรณีที่นายอนุทินระบุว่ายังดำเนินการไม่ได้เพราะว่าเป็นสัญญาที่ถูกต้องนั้น ตนมองว่าสัญญาสามารถยกเลิกได้ ถ้าสัญญานั้นนำไปใช้ในสิ่งไม่ถูกต้อง
มท.1 ขอนายกฯ ทุบโต๊ะ
ขณะที่นายอนุทินระบุว่า หากกระทรวงมหาดไทยส่งไฟเข้าไปในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็สามารตัดไฟได้เลย แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทำสัญญากับบริษัทที่ทางการพม่าและทางการรัฐบาลไทยรับรอง ทั้งนี้ การตัดไฟทำง่ายมากสำหรับผู้จ่ายและผู้ตัด แต่คนประสานงานจ่ายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องแจ้งให้เราหยุด ไม่ใช่เราฟังข่าวแล้วหยุดเลย เพราะจะถูกต่อว่า ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องจะเดือดร้อน ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีเงื่อนไขสัญญาขายไฟอยู่ หากทำผิดสัญญา คนที่ลงนามสัญญา ครม.ให้การรับรองการขายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้าน หน่วยงานที่ประสานเหล่านี้ต้องแจ้งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนยืนยันหลักการนี้ ถ้าแจ้งมาเราสับสวิตช์ทันที
"ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าไฟเข้าไปในบ้านเลขที่เท่าไหร่ในจังหวัดชเวโก๊กโก กระทรวงมหาดไทยเราข้ามชายแดนไปได้หรือไม่ ไม่มีคู่เจรจา เพราะฉะนั้นต้องขีดเส้นทำงานให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าใครควรรับผิดชอบในส่วนงานด้านไหน ส่วนงานของผมถูกสั่งให้ขาย เมื่อผมถูกสั่งให้หยุดก็จะหยุด ก็สั่งมาสิ สั่งมาให้เรียบร้อย และผมก็ต้องรับฟังคำสั่งที่ถูกต้อง มีกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ตามข่าว ความรู้สึก ความเชื่อ หรือการวิเคราะห์ของตัวเอง ไม่ใช่บริษัทส่วนตัวของผม จะไปสั่งอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของรัฐและสนธิสัญญาต่างๆ" นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า นายภูมิธรรมระบุว่ากระทรวงมหาดไทยก็เป็นหน่วยงานความมั่นคง สามารถชงเรื่องตัดไฟได้ นายอนุทินกล่าวว่า ชงไปแล้ว กฟภ.ทำหนังสือไปแล้ว ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบ คำตอบคือสายลม ดังนั้นหากมีคำตอบจากหน่วยงานที่ทำเรื่องไป เราก็พร้อมดำเนินการทันที ต้องขีดเส้นให้ถูก "ท่านนายกฯ ยังไม่ได้สั่งผมเลย ผมจะไปทำตามคนอื่นได้ยังไง"
ทั้งนี้ กฟภ.ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์พิจารณาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของประเทศ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ อาทิ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก (ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา อ.แม่สาย), อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ คณะป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่า ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใด นายอนุทินระบุให้ กฟภ.ส่งหนังสือมาให้ก่อนจึงจะตัดไฟให้ เพราะในความเป็นจริง กระทรวงมหาดไทยเป็นหนึ่งในกระทรวงด้านความมั่นคง และเรื่องดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อย่างเป็นกิจจะลักษณะอยู่แล้ว และ กฟภ. ตัวแทนของกระทรวงมหาดไทย ก็มาประชุมร่วมกับ กมธ.ความมั่นคงฯ เป็นระยะ ซึ่งก็เห็นและรับทราบว่าข้อมูลหลายๆ อย่างบ่งชี้ว่าประเทศไทยเป็นแบตเตอรี่ให้กับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
'โรม' ชี้เป็นอำนาจ มท.1
นายรังสิมันต์ตั้งคำถามว่า มองว่าไม่สมเหตุสมผลที่ต้องให้หน่วยงานอื่นมาสั่งงานก่อน และไม่มีกฎหมายใดที่กำหนดว่ากระทรวงมหาดไทยจะต้องไปฟังหน่วยงานอื่นก่อน ย้ำว่าวันนี้กระทรวงมาไทยสามารถสั่งให้ กฟภ.ดำเนินการตัดไฟได้ทันที ซึ่งสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ แต่เหตุใดจึงยังไม่ดำเนินการ ทั้งนี้ ตนได้รับรายงานจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าไม่ได้ใช้ไฟอะไรมากมาย ที่ที่มีการใช้ไฟเป็นจำนวนมากคือกาสิโนเมียวดี คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นของตำรวจนายหนึ่งที่มียศพลตำรวจตรี ชื่อย่อ ต.เต่า
ในช่วงบ่าย นายรังสิมันต์ โรม ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า บริเวณชเวโก๊กโกและเคเคปาร์คได้มีการตัดไฟแล้ว แต่ได้เห็นหนังสือของหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งเป็นหนังสือจากรัฐบาลเมียนมาเพื่อขอให้ต่อไฟสองจุดดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งประเทศไทยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะต่อหรือไม่ แต่หากมีการต่อสัญญาก็คือการต่อไฟฟ้าสายตรงเข้าสู่แก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนว่าจะรออะไร ทำไมถึงไม่ปฏิเสธทันที สำหรับบริเวณพญาตองซู ตนได้รับข้อมูลจากคนในพื้นที่ว่ามีการขยายพื้นที่ใหญ่โตอย่างมาก ซึ่งบริเวณนั้นเป็นหนึ่งจุดสำคัญที่มีการขายไฟฟ้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงเชื่อได้ยากว่าจะไม่พึ่งพาสาธารณูปโภคพื้นฐานและไฟฟ้าจากประเทศไทย และมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าอาจกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้นนี่คือโอกาสสำคัญที่ทางไทยต้องใช้ในการจัดการ ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องเงียบได้อีกต่อไป
“ผมคาดหวังมากว่าท่านอนุทินจะช่วยทำหน้าที่ของตัวเอง วันนี้ไม่ต้องถามลิงที่ไหน ถ้าท่านมีตา อ่านข่าว เห็นข้อมูลจากหลายส่วน ผมคิดว่าเราสามารถตัดไฟได้เลย ไม่ต้องโยนไปให้ใคร เป็นอำนาจของท่านที่สามารถดำเนินการได้เลย แต่หากท่านยังยืนยันว่าต้องมีคนมาสั่ง ท่านนายกฯ ที่เป็นผู้บังคับบัญชา ก็ช่วยสั่งการท่านอนุทินหน่อย ผมยังไม่เข้าใจว่าท่านอนุทินจะรอให้ใครสั่งทำไม แต่ถ้าจะต้องการคนสั่งขนาดนี้ ก็ช่วยสั่งเขาไปหน่อย” นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทินระบุต้องมีการส่งหนังสือจาก กฟภ.มาก่อน เนื่องจากติดเรื่องคู่สัญญานั้น นายรังสิมันต์ระบุว่า กฟภ.ต้องรู้จักลูกค้าซึ่งเป็นคู่สัญญาของตัวเอง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นปัญหาฟอกเงินต่อไป ตอนแรกจะบอกว่าไม่รู้ก็ได้ แต่เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลแล้วว่าบริษัทดังกล่าวเคยถูกกล่าวหาสมคบค้ายา หรือการไฟฟ้าฯ ก็เชื่อคนง่าย หากหน่วยงานเสนอชื่อมาแค่นั้น เพราะมีความเป็นไปได้ว่าบริษัทนี้อาจเป็นบริษัทนอมินีของใครก็ไม่รู้ ไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แพทองธาร' วิ่งรอกเข้าบ้านพิษณุโลก ถก 5 ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 21 ก.พ. เวลา 10.00 น. นายกฯเดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก เพื่อประชุมทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยมี นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษา
จองเวรเพิ่ม! บี้ ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์' ยังไม่แจ้ง 'รองเท้าไข่มุก-ไอแพด'
'เรืองไกร' บี้ ป.ป.ช. สอบบัญชีทรัพย์สิน 'นายกฯอิ๊งค์' ยังไม่ยื่นรองเท้าไข่มุก-ไอแพด เย้ยแจงไม่เป็น ให้ทนายโทรหาได้
'สมคิด' แจงเหตุตีตก 'กม.บำนาญถ้วนหน้า' ใช้งบมหาศาล เร่งขึ้นเงินผู้สูงอายุปลอบใจ
'สมคิด' โต้ฝ่ายค้าน ปัดเล่นการเมืองตีตก กม.บำนาญ 3 ฉบับ แจงต้องใช้งบมหาศาล หน่วยงานเกี่ยวข้องไม่รับรอง เผยรัฐบาลกำลังดันเงินผู้สูงอายุ 1 พันบาท
โละเงินฝาก50ล้าน ดึงคนไทยบ้ากาสิโน
"จุลพันธ์" ขวางกฤษฎีกากำหนดคนไทยมีเงิน 50 ล้านบาทเข้ากาสิโน
รุมยำราคาข้าวดิ่งเหว 7พรรคยื่นญัตติถล่มยับ!นายกฯถก‘พิชัย-นฤมล’เร่งแก้ไข
"นายกฯ อิ๊งค์" เรียก “พิชัย-นฤมล” ถกด่วนแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
โรมแฉเก็บอัตลักษณ์มั่ว หวั่นจีนเทามาทำผิดอีก
"โรม" แฉระบบจัดเก็บอัตลักษณ์ไทยหมดอายุ ทำให้ไม่มีข้อมูลคนเข้า-ออกไทยกว่า 17 ล้านคน